ผู้จัดการรายวัน - สำนักงานส่งเสริมการค้าไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ได้แนะนำให้นักลงทุนไทยเข้าลงทุนในแขวงอุดมไซในภาคเหนือของลาว ซึ่งมีพื้นที่ติดเขตแดนจีน เนื่องจากมีศักยภาพสูง กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วมากและใกล้กับตลาดใหญ่ และทางการลาวก็พร้อมให้การต้อนรับ
นำคณะผู้แทนของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเดินทางเยือนแขวงอุดมไซ ในต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้พบหารือกับฝ่ายลาวที่นำโดยนายบุนปอน วันนะจิต รองเจ้าแขวงอุดมไซ เกี่ยวกับแนวทางการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า
และได้เชิญชวนให้เอกชนไทยเข้าไปลงทุนในหลายแขนงโดยที่ทางการแขวงอุดมไซได้แสดงความพร้อมที่มีศักยภาพเพียงพอรับการลงทุนจากฝ่ายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือปัจจัยด้านการเดินทางเชื่อมโยงไปสู่ประเทศจีน
นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ เวียงจันทน์ กล่าวว่าแขวงอุดมไซ เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าและการเชื่อมโยงด้านการขนส่งระหว่าง 5 แขวงทางตอนเหนือของ สปป. ลาว ประกอบด้วย แขวงหลวงพระบาง แขวงไชยบุรี แขวงบ่อแก้ว แขวงพงสาลี และแขวงหลวงน้ำทา และสามารถเชื่อมต่อไปยัง 3 ประเทศ คือ จีน ไทย และเวียดนาม
อุดมไซเป็นที่ตั้งของด่านพรหมแดนบ่อเต็น–บ่อหาน ซึ่งจะมีความสำคัญในอนาคต เพราะเป็นจุดเริ่มเส้นทางยุทธศาสตร์หมายเลข A3 (ทางหลวงสายเอเชีย) หรือที่เรียกในลาวว่า “อา 3” เข้าสู่ไทยที่ อ.เชียงของ จ. เชียงราย
จากแขวงอุดมไชยยังมีเส้นทางเชื่อมกับประเทศไทยที่ด่านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร และ มีเส้นทางไปสู่ประเทศเวียดนามที่เมืองเดียนเบียนฟู จ.ไลโจว ของเวียดนาม
อุดมไซเคยเป็นตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภคไทย โดยเคยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 70% แต่การคมนาคมขนส่งจากชายแดนไทยที่ยังไม่สะดวก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าไทยถูกแย่งตลาด เหลือส่วนแบ่งราว 30% เท่านั้น
การสำรวจยังพบว่า มีนักธุรกิจจีนและเวียดนามเข้าไปฝังตัวทำการค้าในแขวงนี้มากขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวลาวส่วนใหญ่ก็ยังถือว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นสินค้าตลาดบน ขณะที่สินค้าจีนและเวียดนามมีคุณภาพต่ำไม่คงทน
นายเฉลิมพลกล่าวต่อไปว่า ทางการแขวงอุดมไซพร้อมที่จะลงทุนร่วมกับนักธุรกิจไทย ประเภทสินค้าเกษตรที่เหมาะสม รวมทั้งการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง ยางพารา ผักปลอดสารพิษ และพืชที่ใช้เป็นพลังงานทางเลือก ด้านทรัพยากรเหมืองแร่ได้แก่ สังกะสีกับเหล็ก
อุดมไซยังเป็นแขวงที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวกับ จ.น่านของไทย กับแขวงหลวงพระบางของลาว และ เมืองเดียนเบียนฟูของเวียดนาม สามรถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของจีนที่สิบสองปันนาและเมืองคุนหมิงอีกด้วย
นักธุรกิจไทยที่สนใจจะลงทุนพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านการขาย-การบริหารจัดการหรือลงทุนด้านการตั้งศูนย์กระจายสินค้า สถานที่พักรถ ศูนย์การค้าเมืองใหม่ ศูนย์ไอที ควรรีบเข้าไปศึกษาหาลู่ทาง นายเฉลิมพลกล่าว.