xs
xsm
sm
md
lg

ฝรั่งเศสเซ็นเขื่อนน้ำเงียบ 2 ผลิตไฟฟ้าในลาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



กรุงเทพฯ – ในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศส (Electricite de France) ได้เซ็นสัญญากับรัฐบาลลาวเพื่อเข้าลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าในโครงการเขื่อนน้ำเงียบ 2 ขาดติดตั้ง 100-200 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ เป็นการส่งสัญญาณว่าฝรั่งเศสกำลังจะกลับเข้าสู่การลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าในกลุ่มประเทศอินโดจีนอีกครั้งหนึ่ง

บริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโครงการ “น้ำเทิน 2” เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ที่ใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยมีกำหนดจะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในปลายปี 2552 โครงการน้ำเงียบ 2 นี้นับเป็นโครงการแรกของ EDF หลังจากโครงการน้ำเทิน 2

นายโลร็องต์ เลอเมย์ (Laurent Lemay) ผู้อำนวยการขององค์การเพื่อการพัฒนาแห่งฝรั่งเศส (Agence Francaise de Developpement) หรือ AFD ประจำประเทศไทยเคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ “ผู้จัดการรายวัน” ก่อนหน้านี้ว่า ฝ่ายฝรั่งเศสสนใจที่จะลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดกลางในลาวและกัมพูชาอีกหลายแห่ง

เอเอฟดี เป็นหน่วยงานกึ่งราชการในฝรั่งเศส เป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการลงทุนจากฝรั่งเศสในต่างประเทศ โดยปล่อยกู้ผ่านสถาบันการเงินในเครือ

พร้อมๆ กับการผลิตไฟฟ้าโครงการน้ำเงียบ 2 เพื่อจำหน่ายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านของลาว บริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศส ยังได้จัดตั้งโครงการพัฒนาความปลอดภัยของพนักงานแขนงการไฟฟ้าลาว และ ด้านสุขอนามัยของประชาชนที่อยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำที่มีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ อีกด้วย

พิธีการลงนามได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมลาวพลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างการนายปีแอร์ กาดอนเนซ์ (Pierre Cadonneix) ผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศส ดร.ปอนเมก ดาลาลอย รมว.กระทรวงสาธารณสุข นายคำพอน ไซยะสาน ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทไฟฟ้าลาว และ ดร.บ่อสายคำ วงดาลา รมว.กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ ร่วมด้วยเอกอัครรัฐทูตฝรั่งเศสประจำ สปป. ลาว

ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) บริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศส จะดำเนินการสำรวจและจัดทำบทวิพากษ์ทางด้านเทคนิค และเศรษฐกิจของโครงการเขื่อนน้ำเงียบ 2 ในระยะ 18 เดือน

นอกจากนี้มูลนิธิของบริษัทไฟฟ้าฝรั่งเศส และสถาบันปาสเตอร์ (Pasteur Institutes) จะร่วมกันดำเนินการสำรวจ ศึกษาผลกระทบ ด้านอนามัยของโครงการน้ำเทิน 2 ต่อพลเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณริ่มฝั่งของอ่างเก็บน้ำตลอดทั้งสองฝั่งแม่น้ำที่มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำด้วย

ผู้อำนวยการของเอเอฟดีประจำประเทศไทยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ในเดือน มิ.ย. ปีนี้ว่า การขยายการลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าในลาวละกัมพูชาเป็นความคืบหน้าที่สำคัญของเอเอฟดีในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่และมีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยและเวียดนามด้วย

"เราสนใจโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กด้วย ไม่ใช่แต่โครงการขนาดใหญ่เท่านั้น" นายเลอเมย์ (Laurent Lemay) ผู้อำนวยการเอเอฟดีประจำประเทศไทยกล่าว

นายเลอเมย์กล่าวอีกว่า ปัญหาสำคัญในการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาวและกัมพูชา ยังเป็นปัญหาเดิมคือ การจัดการกับสิ่งแวดล้อม การพิจารณาขยายการลงทุนในด้านนี้ยังจะต้องใช้เวลาทำการศึกษา เช่นเดียวกันกับโครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 ในแขวงคำม่วนของลาว ที่มีธนาคารโลก กับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เข้าไปร่วมดูแลด้วย

นอกจากเขื่อนไฟฟ้าขนาดใหญ่ขนาดติดตั้ง 100 เมกะวัตต์ขึ้นไปแล้ว องค์การเพื่อการพัฒนาของฝรั่งเศสยังสนใจโครงการเขื่อนไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีกำลังขนาด 5-10 เมกะวัตต์ด้วยเช่นเดียวกัน แต่นายเลอเมย์ได้ปฏิเสธที่จะระบุชื่อของโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่กำลังสำรวจศึกษา

"เรากำลังดูหลายโครงการในกัมพูชา" นายเลอเมย์กล่าว พร้อมทั้งอธิบายว่าปัจจุบันในประเทศนี้มีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเพียง 2 แห่งเท่านั้น ซึ่งดำเนินการโดยผู้ลงทุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน กับอีกแห่งเป็นโครงการลงทุนของเอกชนในประเทศ ขณะที่กัมพูชายังมีศักยภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่อีกมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น