กรุงเทพฯ- หนุ่มนกเขาไม่ขันในเวียดนามยกโขยงกันเฮ เมื่อทางการอนุญาตให้จำหน่ายยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศชนิดใหม่ถึง 7 ขนานด้วยกัน ไม่ต้องง้อยาไวอะกร้า หรือยานำเข้าราคาแพงขนานอื่นๆ อีกต่อไป เพราะยาใหม่ทั้ง 7 ชนิด ผลิตในเวียดนาม โดยใช้ตัวยาสำคัญหลายชนิดที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้มีราคาถูกลง
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานว่า ยาดังกล่าวคือ ชิลนาฟิล (Shilnafil) และชาฟิล (Shafil) ผลิตโดยบริษัทชินปูง แดวู เวียดนามฟาร์มา จำกัด (Shinpoong Daewoo Vietnam Pharma) ทาดาลาฟิล (Tadalafil) ผลิตโดยบริษัทร่วมทุนสตาดาเวียดนาม (Stada Vietnam Pharmaceutical) ไดลิส (Dailis) ผลิตโดยบริษัทยาหมายเลข 5 ของรัฐบาล (Central Pharmaceutical Company 5) และ แมน-อะซิโก (Man-axico) ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมเวียดนาม (Office Pharmaceutique du Vietnam) หรือ OPV
ก่อนหน้านี้ทางการเวียดนามได้อนุญาตให้จำหน่ายยาไวอะกร้าอย่างถูกกฎหมายแล้ว หลังจากที่มีการลักลอบนำเข้า จำหน่ายในราคาแพง และ ยังมียาเลียนแบบอีกหลากหลายชนิด วางจำหน่ายในตลาดมืด
ไวอะกร้าซึ่งเป็นยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศเม็ดสีฟ้า ที่ผลิตโดยบริษัทยายักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ไฟเซอร์ (Pfizer) จะสามารถหาซื้อได้ตามโรงพยาบาลทั่วไป โดยต้องมีใบสั่งของแพทย์ แต่มีราคาแพงมาก ส่วนใหญ่ถูกลักลอบนำออกขายอย่างผิดกฎหมาย และหาซื้อได้ทั่วไปในราคาเม็ดละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้นยังมีตัวยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศอีกหลายชนิดที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกัน ผลิตจากอินเดีย เยอรมนี และภายในประเทศเอง ได้วางจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์มากว่า 2 ปีแล้ว
ตามสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ทั่วประเทศเวียดนาม มีประชากรชายวัยเจริญพันธุ์ประมาณ 2 ล้านคน ต้องทรมานกับปัญหาอวัยวะเพศเสื่อมสมรรถภาพ
การสำรวจของโรงพยาบาลในกรุงฮานอยเมื่อปีที่แล้วได้พบว่า นักธุรกิจและปัญญาชนในเวียดนามส่วนใหญ่เป็นโรคเครียดกัน ส่งผลทำให้คน 2 กลุ่มนี้นำหน้าในบรรดาคนไข้ที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (erectile dysfunction) หรือ โรคมะเขือเผา-นกเขาไม่ขัน แล้วแต่จะเรียกกันไป
การสำรวจของโรงพยาบาลเหวียดดึ๊ก (Viet-Duc) ของกรุงฮานอย ได้สติติคร่าวๆ ออกมาว่าในปัจจุบัน 15.7% ของบุรุษเพศในเวียดนามมีปัญหาอวัยเพศไม่แข็งตัว และเมื่อลงในรายละเอียดด้านการงานอาชีพก็ได้พบว่าเกือบ 80% ของคนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจและบุคคลที่ต้องใช้แรงงานสมองมากๆ และ ยังพบอีกว่า 78%ของคนกลุ่มนี้ประสบปัญหามาตลอดช่วง 5 ปี
นอกจากนั้นก็ยังพบอีกว่ามีโรคหลายชนิดที่ทำให้เกิดปัญหานกเขาไม่ขันคู ซึ่งรวมทั้งโรคหัวใจล้มเหลว เบาหวาน ไตวาย รวมทั้งกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆ จนเกิดอาการพิษสุราเรื้อรัง รวมทั้งกลุ่มที่สูบบุหรี่จัดด้วย
นายแพทย์เหวียนทู-ซยาง (Nguyen Thu Giang) ผู้ดูแลคลินิกชุมชนแห่งหนึ่งในฮานอยกล่าวว่า กลุ่มคนไข้ชายที่ไปขอรับการบำบัดอาการนกเขาไม่ขันจะเป็นกลุ่มที่มีอายุ 45-60 ปี อายุน้อยกว่านั้นก็ยังมี โดยส่วนใหญ่เป็นพวกที่ทำงานหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ
นายแพทย์ผู้นี้บอกอีกว่าในแต่ละเดือนจะมีคนไข้ไปขอรับการบำบัดที่คลินิกนับร้อยคน มีคนโทรศัพท์เข้าไปสอบถามไขข้อข้องใจต่างๆ เดือนละนับพันราย
คุณหมอบอกว่าในเวียดนามนั้นประชากรชายมีปัญหาไม่แพ้ประชากรหญิง และโชคร้ายอย่างยิ่งที่ประชากรหญิงมีเอกสารต่างๆ ให้ศึกษาอย่างมากมายเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา แต่เอกสารสำหรับประชากรชายนั้นมีน้อยมาก.
