กรุงเทพฯ- นายฝ่ามยาเคียม (Pham Gia Khiem) รองนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้นำคณะออกเดินทางไปยังนครเจนีวาในวันอาทิตย์ (5 พ.ย.) นี้ เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization) ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 7 พ.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมีการรับเอาเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกที่ 150
คณะของรองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ประกอบด้วยนายเจื่องดิ่งเตวี๋ยน (Truong Dinh Tuyen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า กับนายเลืองวันตื๋อ (Luong Van Tu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเดียวกันในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาของฝ่ายเวียดนาม
คณะยังประกอบด้วยผู้แทนเวียดนามประจำ WTO นายหงอกว่างซวน (Ngo Quang Xuan) และ เจ้าหน้าที่อีกกว่า 30 คน ที่เกี่ยวข้องการกับการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิกตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์แท็งเนียน
ในการประชุมใหญ่นัดวันที่ 7 พ.ย.นี้ คาดว่าที่ประชุมจะให้การรับรองเอกสารและพิธีสารต่างๆ เพื่อรับเอาเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกหลังจากการเจรจาทวิภาคีและพหุภาคีที่ดำเนินมายาวนาน โดยคาดว่านายดิ่งเตวี๋ยน กับ นายปาสกาล ลามี (Pascal Lamy) ผู้อำนวยการ WTO จะร่วมกันลงนามในพิธีสารดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้ใช้การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดปกติในวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหารือกรณีพิเศษ คือการเตรียมการเข้าเป็นสมาชิก WTO ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเอกในปลายเดือนนี้
รัฐบาลเวียดนามได้พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะได้เข้าเป็นสมาชิก WTO ก่อนการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดเอเปกครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการและการเจรจาต่างๆ ของฝ่ายเจ้าภาพมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
ผู้เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกยังรวมทั้ง ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เกาหลี และ นายกรัฐมนตรีจีนด้วย
เป็นที่เชื่อกันว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางไปร่วมประชุมในกรุงฮานอยพร้อมด้วยฐานะประเทศคู่ค้าปกติถาวร (Permanent Normal Trade Relation) หรือ PNTR ที่สหรัฐฯ จะมอบให้กับเวียดนาม โดยคาดว่ารัฐสภาสหรัฐฯ จะลงมติผ่านร่างรัฐบัญญัติเพื่อรับรองฐานะอันนี้ในสัปดาห์ที่จะถึง
ไม่เพียงแต่เวียดนามจะได้รับสิทธิประโยชน์ จากการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบ WTO เท่านั้น แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการค้าทวิภาคีอย่างมากมายจากฐานะ PNTR
ในวันศุกร์ (3 พ.ย.) ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์รัฐสภาเวียดนาม ได้เปิดประชุมเตรียมรับการเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากรัฐมนตรีการค้าเจื่องดิ่งเตวี๋ยน
คณะกรรมาธิการชุดนี้ได้ยอมรับว่า การที่จะต้องปฏิบัติพันธะที่ให้ต่อ WTO นั้นจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศและประชาชนเวียดนามอย่างล้ำลึก แต่จะเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่งของเวียดนามในการรวมตัวเข้ากับประชาคมระหว่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจ
รัฐสภาเวียดนามมีกำหนดจะพิจารณาในวาระให้การรับรองพันธะกรณีต่อ WTO ระหว่างการประชุมสมัยที่ 11 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ตามกฎของ WTO นั้นการเข้าเป็นสมาชิกใหม่ จะมีผลภายใน 30 วัน หลังจากประเทศสมาชิกให้สัตยาบรรณต่างๆ เรียบร้อยแล้ว.