รวยกันใหญ่..ลาวแหล่งแร่บอกไซต์ระดับโลก

กรุงเทพฯ- บริษัทโออาร์ดีริเวอร์รีซอร์เซส (ORD River Resources) ได้สำรวจพบแร่บอกไซต์ปริมาณมหาศาลในเขตที่ราบสูงโบละเวน (Bolaven) ซึ่งอาจจะมากพอสำหรับการทำเหมืองขนาดใหญ่โตได้ การสำรวจได้พบว่าปริมาณแร่ที่นั่นมากเท่าๆ กับแหล่งที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งในปัจจุบันผลิตอะลูมิเนียมคิดเป็นประมาณ 14% ของทั้งโลก มีมูลค่าปีละกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

"การวิเคราะห์ในชั้นต้นได้บ่งชี้ว่าปริมาณและคุณภาพของบอกไซต์มากพอที่จะป้อนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่าๆ กับเขตอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมเทือกเขาดาร์ลิงส์ ในออสเตรเลียตะวันตก" หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์อ้างการเปิดเผยของนายจอห์น ทาวเนอร์ (John Towner) ประธานบริหารของบริษัทดังกล่าว

นายทาวเนอร์กล่าวว่า เขตเขาดาร์ลิ่ง (Darling Ranges) ในปัจจุบันเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ผลิตอะลูมิเนียมได้มากถึง 14% ของที่ผลิตได้ในทั่วโลก และ ด้วยระดับราคาของอะลูมิเนียมในปัจจุบัน แหล่งบอกไซต์ในเขตที่ราบสูงโบละเวนของลาวน่าจะมีมูลค่าถึงปีละ 3,200 ล้านดอลลาร์

"ที่ราบสูงโบละเวนมีศักยภาพเป็นแหล่งสำรองบอกไซต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก" หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษเพียงฉบับเดียวในเวียงจันทน์อ้างคำล่าวของนายทาวเนอร์

เขตราบสูงดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่หลายแขวงภาคใต้ของ สปป.ลาว ทั้งสะหวันนะเขต สาละวัน เซกอง จำปาสัก และ อัตตะปือ

อาณาบริเวณดังกล่าวจึงมีศักยภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมครบวงจร ตั้งแต่เหมืองบอกไซต์ โรงงานสกัดอะลูมินา (Alumina) และโรงถลุงอะลูมิเนียม นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้เคียงกับเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ และไม่ไกลจากสาธารณรัฐประชาชนจีน แหล่งบริโภคอะลูมิเนียมที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ธนาคารโลกได้จัดให้ สปป.ลาวเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังพัฒนาน้อยที่สุดในโลก รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรต่อปี (per capita) เพียง 399 ดอลลาร์ แต่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งพัฒนาแรงงานที่มีฝีมืออีกด้วย นายทาวเนอร์กล่าว

โออาร์ดีริเวอร์รีซอร์เซส มีข้อตกลงกับบริษัท Non-ferrous Metals International Mining Co Ltd จากจีน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาแหล่งบอกไซต์เขตที่ราบสูงโบละเวน บริษัทดังกล่าวเป็นสถาบันหลักของจีนในการแสวงหาสินแร่ที่ไม่ใช่เหล็ก (Non-ferrous) ป้อนตลาดในประเทศ

นายทาวเนอร์กล่าวว่า คณะผู้แทนของบริษัทฯ กำลังจะเดินทางเข้า สปป.ลาว ในสัปดาห์นี้ เพื่อพบเจรจากับทางการลาวเกี่ยวกับโอกาสที่จะเข้าพัฒนาด้านการขนส่ง แหล่งชุมชนต่างๆ ตลอดจน โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการทำเหมือง โดยร่วมกับรัฐบาลลาว

เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทของจีนได้รับสิทธิเข้าสำรวจและพัฒนาแหล่งบอกไซต์ในเขตที่ราบสูงโบละเวนเป็นเนื้อที่ 138 ตารางกิโลเมตร และอยู่ระหว่างเจรจาขอขยายพื้นที่สัมปทาน ทำให้บริษัทของฝ่ายออสเตรเลียหวังจะได้พัฒนาอุตสาหกรรมนี้ตลอดระยะเวลายาวนานข้างหน้าใน สปป.ลาว บนพื้นฐานต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สปป.ลาวได้อนุญาตให้บริษัทต่างชาติหลายแห่งเข้าสำรวจในแหล่งบอกไซต์ นอกเหนือจากแหล่งแร่ล้ำค่าประเภทอื่น เช่น ทองแดง-ทองคำ เหล็ก หรือถ่านหิน ในปัจจุบันเหมืองแร่เป็นแขนงเศรษฐกิจที่มีการลงทุนมากเป็นอันดับ 2 ในประเทศนี้

ในเดือน ก.ค.ปีนี้ทางการได้อนุญาตให้บริษัทร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมเซกอง (Sekong Industry Development Co-company) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทพัฒนาเศรษฐกิจล้านช้างจำกัดในลาว กับ กลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหิน-เหมืองแร่แห่งชาติเวียดนาม เข้าสำรวจแร่บอกไซต์ ครอบคลุมพื้นที่สัมปทานกว่า 2,400 ไร่ (385 เฮกตาร์) ในเขตเมืองท่าแตง แขวงเซกอง ซึ่งอยู่ในเขตที่ราบสูงโบละเวน

กลุ่มร่วมทุนนี้ ยังได้รับอนุญาตให้สำรวจและผลิตถ่านหินในเขตเมืองเฟือง แขวงเวียงจันทน์ ทางภาคเหนือของประเทศด้วย

ในเดือน พ.ค. ลาวก็ได้อนุญาตให้บริษัท China National Material Industry Group Corporation (SINOMA) และ บริษัท Zhongfei Geological Engineering Exploration Academy จากจีน สำรวจขุดค้นแร่บอกไซต์ ในเนื้อที่ 146.5 ตร.กม.ในเขตเมืองปากช่อง แขวงจำปาสัก

กลุ่มบริษัทนี้จะจะใช้เวลา 12 เดือนศึกษาความเป็นไปได้ทั่วไปในการพัฒนาเหมืองแร่ และเวลาอีก 24 เดือนในการสำรวจ กับอีก 12 เดือนสร้างบทวิพากษ์เศรษฐกิจเทคนิคของโครงการ ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ประชาชนรายวัน ของศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว

บริษัท China National Material Industry Group Corporation (SINOMA) และบริษัท Zhongfei Geological Engineering Exploration Academy เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในจีน มีความชำนาญและประสบการณ์ทางด้านการลงทุนเหมืองแร่ใน สปป.ลาวอยู่แล้ว ประชาชนกล่าว.