ผู้จัดการรายวัน- บริษัท Societe Concessionaire des Aeroports หรือ SCA ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่ม Vinci กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จากฝรั่งเศส ได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลกัมพูชาให้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติ 3 แห่งไปจนถึงปี 2580 หลังจากได้รับการต่ออายุสัมปทานออกไป 20 ปี อันเนื่องมาจากการที่กลุ่มนี้จะเข้าลงทุนในการฟื้นฟูบูรณะท่าอากาศยานเมืองสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานสากลแห่งล่าสุดในประเทศนี้
ภายใต้สัญญาที่กลุ่มนี้เคยทำกับรัฐบาลกัมพูชา เมื่อครั้งที่เข้าฟื้นฟูบูรณะท่าอากาศยานโปเจินตง (Pochentong) กรุงพนมเปญนั้น มีเนื้อความระบุว่ารัฐบาลจะต้องให้ผู้ลงทุนได้เข้าบริหารท่าอากาศยานแห่งใดก็ตามที่เปิดรับนักเดินทางชาวต่างประเทศเข้าสู่กัมพูชา
ในเวลาต่อมาเมื่อทางการเปิดสนามบินเสียมราฐ-อังกอร์ (Siem Reap- Angkor) ให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 2 บริษัท SCA จึงได้รับสิทธิ์เข้าลงทุนและบริหารท่าอากาศยานแห่งนั้นด้วย อันเป็นเงื่อนไขเดียวกันที่ทำให้บริษัทนี้ได้รับสิทธิบริหารท่าอากาศยานสีหนุวิลล์
การเข้าลงทุนในท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 3 นี้ ทำให้บริษัทสามารถเจรจาต่อรองแก้ไขสัญญาสัมปทานฉบับเดิมอีกครั้ง และได้ต่ออายุสัมปทานออกไปเป็นครั้งที่ 2 จากเดิมที่จะต้องส่งมอบสิทธิในการบริหารท่าอากาศยานนานาชาติ 2 แห่งแรกคืนให้แก่รัฐบาลกัมพูชาในปี 2560 เจ้าหน้าที่องค์การพัฒนาฝรั่งเศส (Agence Francaise de Developpement) หรือ AFD ในกรุงเทพฯ เปิดเผยเรื่องนี้กับ "ผู้จัดการรายวัน"
ถึงแม้ว่าการเซ็นสัญญาครั้งใหม่ระหว่าง SCA กับทางการกัมพูชาจะมีขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็เพิ่งมีการเปิดเผยเกี่ยวกับอายุเวลาของสัมปทาน และ คู่สัญญาให้พันธะต่อกันจะไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ ในสัญญาสัมปทาน เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
องค์การ AFD เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารท่าอากาศยานนานาชาติในกัมพูชา เนื่องจากสถาบันการเงินในเครือคือ Proparco เป็นผู้ให้ SCA กู้ในการลงทุน ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานในกัมพูชา
โฆษกของ SCA ในกรุงพนมเปญได้เปิดเผยในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ท่าอากาศยานนานาชาติสีหนุวิลล์จะเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2550 โดย SCA มีพันธะจะลงทุนในการฟื้นฟูบูรณะและบริหารเป็นเงินประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่นี้ไปจนถึงปี 2580
"ถ้าหากระดับผู้โดยสารที่สีหนุวิลล์ไปถึงเป้าหมายก่อนกำหนด เราก็จะส่งมอบสิทธิในการบริหารคืนให้กับรัฐบาลก่อนกำหนดเช่นกัน" หนังสือพิมพ์แคมโบเดียเดลี อ้างคำกล่าวของนายแขก นรินดา (Khek Norinda) โฆษกของ SCA ในกรุงพนมเปญ
ปัจจุบันท่าอากาศยานสีหนุวิลล์มีเนื้อที่ประมาณ 120 เฮกตาร์ (740 ไร่) แต่ภายใต้การลงทุนของ SCA พื้นที่ของท่าอากาศยานแห่งนี้จะเพิ่มขึ้นราว 2 เท่า และ อาจจะกลายเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่คับคั่งจอแจอีกแห่งหนึ่งของประเทศในเวลาไม่นานนี้
ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการเปิดเผยเกี่ยวกับเนื้อหาของสัญญาบริหารท่าอากาศยานระหว่าง SCA กับรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อความที่ผูกพันให้รัฐบาลต้องมอบการผูกขาดให้แก่บริษัทฝรั่งเศสเข้าบริหารท่าอากาศยานแห่งใดก็ตาม "ที่มีการต้อนรับชาวต่างประเทศ"
บางฝ่ายมองว่าการผูกขาดเช่นนี้จะทำให้รัฐบาลกัมพูชาเสียเปรียบ และจะไม่สามารถควบคุมการขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการท่าอากาศยานได้ แต่เจ้าหน้าที่ของ AFD ในกรุงเทพฯ กล่าวว่า หากเปิดให้มีการแข่งขันก็จะไม่มีบริษัทใดสามารถอยู่รอดได้เนื่องจากกัมพูชาเป็นตลาดการเดินทางที่เล็กมาก การผูกขาดกลับเป็นประโยชน์
"หากเป็นประเทศอื่นก็คงเป็นเรื่องแย่มาก แต่ในกัมพูชาจะแย่หนักลงไปอีกหากไม่ให้สิทธิทั้งหมด (exclusive right) แก่ผู้ลงทุนในการบริหารจัดการหลังจากนั้น" เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส ที่ไม่ประสงค์จะให้ระบุชื่อในกรุงเทพฯ กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมืองสีหนุวิลล์ไม่เพียงแต่เป็นปลายท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของประเทศเท่านั้น ที่นั่นยังเป็นที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของประเทศ ซึ่งจะเป็นศูนย์การขนส่งทางทะเลที่คับคั่งแห่งหนึ่งในอนาคต
นอกจากนั้นสีหนุวิลล์กำลังจะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งกลุ่มผู้ลงทุนจากหลายประเทศกำลังสำรวจขุดเจาะหาก๊าซน้ำมันนอกชายฝั่ง และ คาดว่าจะสามารถนำขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า
เนื่องจากฐานะอันสำคัญของสีหนุวิลล์ดังกล่าวนี้ ภายใต้สัญญาใหม่กับรัฐบาลกัมพูชา SCA จึงได้รับสิทธิให้เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองสีหนุวิลล์ที่จะเริ่มจัดทำขึ้นในต้นปีหน้าอีกด้วย
นายสม รังสี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านชื่อเดียวกันในกัมพูชา ซึ่งโดยปกติจะออกโรงปกป้องผลประโยชน์ของชาติ กลับเห็นด้วยกับผูกขาดบริหารท่าอากาศยานของบริษัทฝรั่งเศส เขากล่าวว่าบทบาทของ SCA นั้นมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาเมืองสีหนุวิลล์
ผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาได้เรียกร้องให้ SCA และ กลุ่ม Vinci เคารพและปฏิบัติตามสัญญาโดยเคร่งครัด
เจ้าหน้าที่ของ SCA กล่าวว่า ความเป็นจริงในกัมพูชา ทำให้ไม่สามารถจะเรียกการบริหารท่าอากาศยานเป็นการผูกขาดได้ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชายังมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการขึ้นลงของเครื่องบิน การนำร่องและควบคุมการบิน ตลอดจนระบบการจัดไฟนำทาง ซึ่งสามารถเรียกเก็บค่าบริการจากบริหารเหล่านั้นได้
บริษัท SCA ซึ่งเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ได้รับสิทธิ์ในการเก็บค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับบริการภาคพื้นดินเท่านั้น นายนรินดากล่าว.