เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าเอกชนและเจ้าหน้าที่ทางการลาวได้จับยึด "ตัวไก้" สัตว์พันธุ์หายากในตระกูลหนูตัวโต (Rodent) ที่เสียชีวิตแล้วได้จำนวน 8 ตัว ที่ตลาดสดแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งผู้ค้าให้การว่ามีผู้ลักลอบขนไปจากแขวงอัตตะปือ ทางภาคใต้สุดของประเทศเข้าสู่ตลาดเนื้อสัตว์ป่าในเมืองหลวง
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "เวียงจันทน์ใหม่" เมื่อวันที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในท้องถิ่นได้ไปตรวจที่ตลาดขัวดิน ในเขตเมืองสีสัดตะนาก เป็นการฉุกเฉินและได้พบตัวไก้จำนวน 8 ตัว น้ำหนักรวม 13.3 กิโลกรัม ซึ่งได้ความว่ามีแม่ค้าคนกลางนำไปจากแขวงอัตตะปือไปยังตลาดสดแห่งนั้น
เจ้าหน้าที่ได้จับยึดตัวไก้ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และได้เตือนแม่ค้าให้ทราบว่าการค้าขายสัตว์ป่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และได้ปรับไหมผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเงิน 800,000 กีบ (ประมาณ 3,100 บาท) ทั้งแจ้งให้ทราบว่าหากมีการกระทำผิดครั้งที่สอง อัตราปรับไหมก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
เวียงจันทน์ใหม่ได้อ้างคำกล่าวของ นายดวงเพ็ด วันนะวง ผู้ช่วยหัวหน้าโครงการป้องกันการซื้อขายสัตว์ป่านครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นองค์การอนุรักษ์สัตว์ป่าประจำลาว ที่ระบุว่าสาเหตุสำคัญของการลักลอบซื้อขายสัตว์ป่าก็คือ ความต้องการบริโภคสัตว์ป่าในท้องตลาด หากเลิกบริโภคก็จะไม่มีการซื้อขายอย่างผิดกฎหมายอีกต่อไป และ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์และชีวะนานาพันธุ์
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวยังคงมีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการพบสัตว์ป่าพันธุ์หายากจำนวนมาก รวมทั้งกวางสาวหล่า (Sao La) และ ยังพบอีกบางสายพันธุ์เคยเข้าใจกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว
เมื่อต้นปีนี้นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าตัว "ข่าหนู" ที่พบในเขตภูเขาหินปูนแขวงคำม่วนเมื่อปีที่แล้ว เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกันกับหนูดึกดำบรรพ์พันธุ์ ที่พบเป็นซากฟอสซิลในตอนใต้ของจีน และเข้าใจกันว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้วตั้งแต่ 11 ล้านปีก่อน
ตัวไก้เป็นสัตว์ประเภทหนูตัวโตที่กระโดดด้วยสองขาหลัง และ วิ่ง 4 ขา ตัวโตเต็มที่อาจจะมีขนาดใกล้เคียงกับตัวกระจง สัตว์ป่าหายากอีกพันธุ์หนึ่ง.