xs
xsm
sm
md
lg

ข้อมูลใหม่..สหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์เขมรหนักกว่าที่เคยรู้กัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<ENTER><FONT color=#009933> ภาพจากอดีต- เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดยุทธวิธีแบบ F-4 แฟนธอม ขณะปฏิบัติการทิ้งระเบิดแบบ MK82 น้ำหนัก 500 ปอนด์เหนือดินแดนกัมพูชา ข้อมูลใหม่คือ สหรัฐทิ้งระเบิดมากมายกว่าที่เคยรับรู้กันก่อนหน้านี้ถึง 5 เท่าตัว </FONT></CENTER>

นักประวัติศาสตร์ที่ขุดคุ้ยเรื่องราวของสหรัฐฯ ในสงครามอินโดจีนเพิ่งตีพิมพ์ผลงานค้นพบใหม่ ซึ่งระบุว่าน้ำหนักของระเบิดที่สหรัฐฯ ทิ้งลงในดินแดนกัมพูชานั้นอาจจะมากกว่าที่เคยประมาณเอาไว้ก่อนหน้านี้ถึง 5 เท่าตัว และ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็เริ่มทิ้งระเบิดในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2508 หรือกว่า 3 ปีก่อนเวลาที่เชื่อกันก่อนหน้านี้

นักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกัน 2 นาย คือ ศ.ไทเลอร์ โอว์น (Taylor Owen) กับ ศ.เบน เคียร์แนน (Ben Kiernan) ซึ่งได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลที่กองทัพอากาศยอมเปิดเผยเมื่อปี 2543 และ เขียนเรื่องนี้ลงในนิตยสาร "วอลรัส" (Walrus) ของแคนาดาฉบับประจำเดือน ต.ค.นี้

ระเบิดที่ทิ้งลงในกัมพูชารวมน้ำหนักแล้วได้ประมาณ 2 ล้านตัน มากกว่าระเบิดที่กองกำลังของฝ่ายสัมพันธมิตรใช้ถล่มข้าศึกในทุกแนวรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนั้น "มีเพียงประมาณ 10% ของการทิ้งระเบิดที่เจาะจงเป้าหมาย มี 3,580 จุดที่ไม่ทราบว่าเป็นอะไร อีก 8,238 จุดไม่ได้อยู่ในบัญชีเป้าหมายที่จะต้องทิ้งระเบิดเลย" รายงานที่เกี่ยวกับการการโจมตีทิ้งระเบิดในกัมพูชาระบุ

ตัวเลขเหล่านี้แตกต่างไปจาก ที่นายวิลเลียม ชอว์ครอส (William Shawcross) นักหนังสือพิมพ์เขียนเอาไว้เมื่อปี 2522 ว่า น้ำหนักของระเบิดที่สหรัฐฯ ทิ้งในดินแดนกัมพูชา ระหว่างวันที่ 18 มี.ค. 2512-วันที่ 15 ส.ค.2516 นั้น รวมกันได้ 539,129 ตัน ตัวเลขนี้เป็นเพียงประมาณ 20% ของตัวเลขที่ค้นพบใหม่โดย ศ.โอว์น กับ ศ.เคียร์แนน

ข้อมูลของกองทัพอากาศยังระบุว่า การโจมตีทิ้งระเบิดในกัมพูชาเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2508 เพียงแต่ว่าในช่วงปีแรกๆ นั้นปฏิบัติการยังไม่หนักหน่วง มีการใช้ระเบิดไปรวมน้ำหนักเพียง 214 ตัน และไม่มีการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์แบบ บี-52 และ เป็นไปได้ว่าการโจมตีทิ้งระเบิดในช่วงปีโน้น เพียงเป็นยุทธวิธีสนับสนุนการทำสงครามอย่างลับๆ ในกัมพูชาของทหารอเมริกันเท่านั้น

ตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้เชื่อว่า มีชาวกัมพูชา 50,000-150,000 คน เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ แต่รายงานของนักประวัติศาสตร์ทั้งสองนายกล่าวว่า เมื่อน้ำหนักของลูกระเบิดที่ใช้นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ก็เป็นไปได้ที่จำนวนผู้ที่เสียชีวิตจะสูงขึ้น
<ENTER><FONT color=#009933> อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เมื่อครั้งสั่งทำสงครามลับในกัมพูชา โดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา สงครามที่นั่นได้เริ่มขึ้น กว่า 3 ปี ก่อนหน้าที่โลกจะได้ยินข่าว </FONT></CENTER>
นักเก็บกู้ระเบิดเริ่มปฏิบัติงานในกัมพูชาโดยใช้ข้อมูลที่กองทัพอากาศเปิดเผยออกมาเมื่อปี 2543 แต่ก็เป็นการปฏิบัติโดยไม่ได้คิดคำนวณเกี่ยวกับความเสียหายที่กัมพูชาได้รับจริงๆ ซึ่งทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ติดขัด ข้อเขียนชิ้นเดียวกันระบุ

แต่นายแขม สุพวน (Khem Sophaon) ผู้อำนวยการใหญ่ของคณะกรรมการปฏิบัติเก็บกู้ระเบิด (Cambodian Mine Action Committee) หรือ MAC กล่าวว่า ได้ทราบตัวเลขน้ำหนักระเบิด 2 ล้านตันมานานกว่า 6 ปีแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา นายเขียว กัญฤทธิ์ กล่าวว่า การทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ในครั้งกระโน้นทำให้ชาวกัมพูชาหันไปเข้าร่วมกับฝ่ายเขมรแดง แต่ตนเองไม่ได้กังวลเกี่ยวกับน้ำหนักของระเบิดที่สหรัฐฯ ทิ้งลงในประเทศนี้ และชาวเขมรเป็นชาวพุทธ ทุกคนจึงต้องใช้หลักธรรมด้วยการ "ให้อภัยและลืม" สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเสีย

ส่วนนายพลเดียนแดล (Dien Dell) ที่เคยเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 2 ใน จ.กันดาล เมื่อปี 2515 ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ลอนนอล ที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนได้กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ควรจะเสียใจที่ได้ทิ้งระเบิดในกัมพูชา เพราะสิ่งนั้นได้ช่วยป้องกันการรุกของพวกเวียดกงกับพวกเขมรแดง ซึ่งพวกที่วิพากษ์วิจารณ์บทบาทของสหรัฐฯ ไม่เข้าใจในเรื่องนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น