xs
xsm
sm
md
lg

ปรับใหม่ PetroVietnam เตรียมขึ้นแท่นรายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน- ทางการเวียดนามได้ประกาศการจัดตั้ง บริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติ (PetroVietnam) ให้เป็นรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง (Holdings Company) เพื่อเป็นบริษัทแม่ดูแลการสำรวจขุดเจาะทั้งในและต่างประเทศ และการค้าน้ำมันของบรรดาบริษัทลูก โดยรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ในบริษัทต่างๆ เหล่านี้

นายกรัฐมนตรีเวียดนามนายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้เซ็นอนุมัติในวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการพลังงาน สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้ โดยบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่คือ Vietnam Oil and Gas Group จะเข้าถือสิทธิทางกฎหมายทุกกอย่างเหนือบริษัท Vietnam Oil and Gas Corporation หรือ PetroVietnam ในอดีต

กลุ่มบริษัทน้ำมันและก๊าซเวียดนามนี้ จะมีพลังที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ รวมทั้งการลงทุน การสำรวจและผลิต ตลาดจนการจัดจำหน่ายน้ำมันและก๊าซทั้งในและต่างประเทศ ฐานะทางกฎหมายของบริษัทโฮลดิ้งจะมีผลภายใน 15 วันหลังได้รับการอนุมัติ ทั้งนี้เป็นรายงานของนิตยสารเวียดนามอีโคโนมี (Vietnam Economy)

การจัดระบบการบริหารจัดการน้ำมันและก๊าซของเวียดนามมีขึ้นในขณะที่ PetroVietnam กำลังขยายการลงทุนสำรวจขุดเจาะในต่างแดนอย่างกว้าง ส่วนภายในประเทศก็มีการสำรวจพบบ่อน้ำมันและก๊าซแห่งใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกก็กำลังคืบหน้าไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัทน้ำมันเวียดนามได้มีขีดหมายที่สำคัญ คือ ในวันที่ 27 ส.ค.ได้มีการดูดน้ำมันขึ้นมาใช้ได้ครบ 200 ล้านตัน พอดี

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เยินซเวิน (Nhan Dan) ของพรรคคอมมิวนิสต์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทร่วมทุนแห่งต่างๆ ของ PetroVietnam สามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 11 ล้านตันและก๊าซเกือบ 5 ,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 65.5% ของเป้าหมายในปี 2549

ในช่วงเดียวกันนี้ PetroVietnam ได้ส่งออกน้ำมันดิบรวม 10.9 ล้านตัน มีรายได้กว่า 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เยินซเวินกล่าว

น้ำมันและก๊าซได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานในการคำนวณเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบของเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 22-28% ของรายได้ทั้งหมดของประเทศในแต่ละปี

เวียดนามเริ่มลดการผลิตน้ำมันตั้งแต่ในปี 2548 ที่ผ่านมา เพื่อสำรองไว้ป้อนโรงกลั่นจำนวน 4 แห่งที่จะก่อสร้างขึ้นมาช่วงปีใกล้ๆ นี้ โดยเมื่อปีที่แล้วเวียดนามผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 370,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงเกือบ 10% เทียบกับในปี 2547 (403,000 บาร์เรลต่อวัน) และเป็นการลดการผลิตในหลุมเสือขาว (White Tiger Field) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันหลักของประเทศ

จากการรวบรวมของสำนักข่าวเวียดนามเน็ต ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทเวียดซอฟปิโตร (Vietsovpetro) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างปิโตรเวียดนาม และบริษัท Zarubezhneft ของรัสเซีย ได้ผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งเสือขาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงปี 2524-2531 นั้นการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซ อยู่ในมือของบริษัทไม่กี่แห่ง

ในปี 2545 มีการค้นพบหลุมน้ำมันทูน่าทอง (Golden Tuna) และช้างขาว (White Elephant) โดยมีน้ำมันดิบสำรองถึง 250 ล้านบาร์เรล ต่อมาในเดือน เม.ย. 2546 ปิโตรเวียดนามได้สำรวจพบแหล่งน้ำมันหมีใหญ่ (Big Bear) ที่สามารถผลิตได้วันละประมาณ 6,300 บาร์เรล

ในช่วงต้นปี 2547 ได้มีการค้นพบน้ำมันในแปลง 15-1 ที่หลุมสิงโตขาว (White Lion) คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้วันละ 8,682 บาร์เรล โดยจะเริ่มการผลิตในปี 2551 ในเดือน ก.ค.ปีเดียวกันเวียดซอฟเปโตร ก็ได้ประกาศการค้นพบน้ำมันที่หลุมมังกร (Dragon)

ในเดือนต.ค. 2547 บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท American Technologies บริษัทปิโตรนาส (Petronas) บริษัท Singapore Petroleum และปิโตรเวียดนาม ได้ประกาศการค้นพบแหล่งน้ำมันสำรองด้วยปริมาณน้ำมันดิบ 100 ล้านบาร์เรล และในเดือนเดียวกันนี้ บริษัท Nippon Oil Exploration บริษัท Idemitsu Kosan และบริษัท Teikoku Oil จากญี่ปุ่น ได้ประกาศแผนที่จะดำเนินการเข้าผลิตน้ำมันดิบในหลุม 05.1b และหลุม 05.1c ในแหล่งนามกงเซิน (Nam Con Son) นอกชายฝั่งทะเลภาคใต้

ใน 2 เดือนถัดมา บริษัท Korean National Oil Corporation และบริษัทน้ำมันและก๊าซของเกาหลีอีกแห่งตัดสินใจเข้าลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ ในหลุม 11-2 และในเดือนต.ค. 2548 ที่ผ่านมานั้น บริษัท ONGC จากอินเดีย ได้รับอนุญาตให้เข้าสำรวจและผลิตน้ำมันในแปลง 127 ที่แหล่งฝูแข็ง (Phu Khanh)

ในช่วงเวลาเดียวกันบริษัท Chevron Texaco จากสหรัฐฯ ก็ได้รับอนุมัติให้เข้าดำเนินการผลิตที่หลุม 122 ในแหล่งฝูแข็งเช่นเดียวกัน เวียดนามเน็ตกล่าว

ตามข้อมูลของธนาคารโลก ศักยภาพในด้านน้ำมันดิบและก๊าซของเวียดนามนั้น ยังไม่ได้ทำการสำรวจอย่างเต็มที่ทั้งหมด เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลกได้แนะนำให้เวียดนามใช้สัญญาแบบแบ่งผลผลิตกับบริษัทน้ำมันต่างชาติแทนรูปแบบการร่วมทุนในปัจจุบัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น