กรุงเทพฯ- ทางการเวียดนามได้ตั้งตัวเลขส่งออกไปยังตลาดใหญ่สหรัฐอเมริกาไว้สูงกว่าปีละ 8,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีใกล้ๆ นี้หลังจากได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2549 อันเป็นผลจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายหลังจากเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในปลายปีนี้
เจ้าหน้าที่การค้าเวียดนามที่ประจำในสหรัฐฯ กล่าวว่าเฉพาะในปีนี้ ตัวเลขส่งออกไปยังตลาดใหญ่สหรัฐฯ อาจจะอยู่ระหว่างปีละ 7,300-7,700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาคธุรกิจการลงทุนจากสหรัฐฯ ต่างให้ความสนใจเข้าลงทุนในเวียดนาม หลังจากความสัมพันธ์สองฝ่ายได้รับการปรับให้เข้าสู่ขั้นปกติ ในช่วงปีที่ผ่านมา
บริษัทผู้นำเข้าสินค้าเวียดนามในสหรัฐฯ จำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งเครือห้างสรรพสินค้าวอล-มาร์ท (Wal-Mart) กับ ห้างสรรพสินค้าเซฟเวย์ (Safeway) ที่ยังไม่เคยมีกิจการในเวียดนามได้วางเวียดนามไว้ในกลุ่มตลาดยุทธศาสตร์ในแผนการลงทุนโพ้นทะเลของกลุ่ม
สำนักข่าวเวียดนามเน็ตที่อ้างความเห็นของบริษัทลงทุนในสหรัฐฯ นั้นรายงานว่า การที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของ WTO ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นภายในเดือน พ.ย.ปีนี้ กำลังจะกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในตลาดเวียดนามมากยิ่งขึ้น
ผู้นำเข้าสหรัฐฯต่างมุ่งความสนใจไปที่ผู้ส่งออก เพื่อจัดการกับคุณภาพของสินค้าและสร้างแรงกดดันในการลดราคา แต่สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าเวียดนามนั้น ดูจะหาทางออกได้ง่ายกว่า ด้วยการพัฒนาเครื่องหมายการค้าเสื้อผ้าของเวียดนามในสหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทสิ่งทอในสหรัฐฯเองคาดหวังที่จะร่วมมือกับเวียดนามในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างจีน
สหรัฐฯ เองยังคงต้องการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ไม้จากประเทศต่างๆ สูงถึงประมาณ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งสิ่งนี้ช่วยสร้างโอกาสให้กับเวียดนามในการเข้าไปมีส่วนในตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่มีศักยภาพนี้ด้วย
ในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ใช้เงินไปราว 280 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการนำเข้าสินค้าอิเล็กโทรนิค ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ส่งออกในโพ้นทะเล
สหรัฐเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ในสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค ดังนั้นเป้าหมายของมูลค่าการส่งออกจากตลาดเวียดนาม ที่ตั้งไว้สูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น สามารถบรรลุถึงได้ แต่ขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกเวียดนามเองด้วย
อย่างไรก็ตามนายเหวียน ซวี เคียน (Nguyen Duy Khien) ที่ปรึกษาการค้าเวียดนามกล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดที่มีความพิถีพิถันต้องการสินค้าในปริมาณมหาศาล พร้อมกับมีคุณภาพดี และราคาที่สมเหตุสมผล
นอกเหนือไปจากสินค้าส่งออกสำคัญที่ได้รับการจัดการเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ พริกไทย รองเท้า และอาหารทะเล สินค้าหลายอย่างของเวียดนามยังคงไม่ได้รับการจัดการที่ดีพอ เช่นในภาคประมงของเวียดนามนั้น หน่วยงานราชการของเวียดนามควรเพิ่มการควบคุมสารปฏิชีวนะตกค้างในสินค้าอาหารทะเลให้เข้มงวด และดำเนินการให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล รวมถึงสินค้าอื่นๆด้วย.
