ผู้จัดการรายวัน- สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้อนุมัติให้บริษัทของจีนอีกแห่งหนึ่งเข้าทำการสำรวจหาแร่ในแขวงเชียงขวางทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทจากจีนรายที่ 6 ที่ได้เข้าไปสำรวจขุดค้นหาแร่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในลาว ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ขณะที่ทางการจีนกำลังส่งเสริมให้บริษัทเอกชนอีกจำนวนหนึ่งเข้าไปลงทุนด้านการเกษตรในประเทศนี้คลุมถึงกัมพูชา
ลาวได้อนุมัติให้บริษัทเศรษฐกิจการค้ายงเซียงหยุนหนัน จากมณฑลหยุนหนันเข้าสำรวจแหล่งแร่ทองแดง-ทองคำครอบคลุม 260 ตารางกิโลเมตรในเขตเมืองแปก โดยมีการลงนามในความตกลงเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างตัวแทนของฝ่ายจีนกับทางการแขวง
โครงการนี้จะใช้เวลาในการสำรวจรวม 24 เดือน และสร้างบทวิพากษ์ทางเศรษฐกิจอีก 12 เดือน ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.)
บริษัทยงเซียงจากหยุนหนันนับเป็นบริษัทรายที่ 4 ในช่วงเวลาเพียง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสำรวจแหล่งแร่ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจในภาคเหนือของ สปป.ลาว หลังจากนักลงทุนจากออสเตรเลียเข้าครอบครองอุตสาหกรรมในเขตนี้มาตลอด
ก่อนหน้านี้บริษัทจีนอีก 3 แห่งได้รับอนุมัติจาก สปป.ลาวให้เข้าสำรวจหาแร่เหล็ก ทองแดง และยิปซั่ม ในแขวงหัวพัน แขวงหลวงพระบาง และเมื่อเร็วๆ นี้ในแขวงพงสาลี ซึ่งทั้งหมดอยู่ในภาคเหนือของประเทศ ขณะที่บริษัทเหมืองแร่จากออสเตรเลีย 2 แห่งได้รับอนุญาตให้เข้าดำเนินการอยู่ก่อนแล้วในแขวงเวียงจันทน์
ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นปีลาวได้อนุมัติให้บริษัทจีนแห่งหนึ่งเข้าสำรวจขุดค้นหาแร่บ๊อกไซต์ในแขวงจำปาสักในภาคใต้ และ อีกบริษัทหนึ่งสำรวจหาแร่เหล็กในแขวงคำม่วนในภาคกลางของประเทศ
การลงทุนสำรวจคุดค้นแหล่งแร่ต่างๆ ของบริษัทจากจีนในปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันหลายสิบล้านดอลลาร์ และการลงทุนจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเมื่อเริ่มมีการผลิตแร่
ขณะเดียวกัน นายซุน ต้าหง (Sun Dahong) รองผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงสาธารณะมณฑลหยุนหนันเจ้าหน้าที่จากมณฑลหยุนหนันของจีนกล่าวเมื่อวันจันทร์ (28 ส.ค.) นี้ว่า นักลงทุนจากจีนกำลังขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจในลาวและในภาคเหนือของกัมพูชา โดยในสิ้นปี 2549 นี้จะมีพื้นที่การเกษตรรวมกันถึง 375,000 ไร่
ทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในโครงการขยายและพัฒนาพื้นที่เขตการเกษตรให้ได้กว่า 624,993.75 ไร่ ในกัมพูชา และ สปป.ลาว ในระยะ 5 ปีต่อจากนี้
เจ้าหน้าที่คนเดียวกันนี้กล่าวว่าจนถึงเดือน มิ.ย.ปีนี้ได้มีการขยายการปลูกพืชเศรษฐกิจใน สปป.ลาวและ กัมพูชารวม 291,663.75 ไร่ ในนั้นมี 166,665 ไร่ เป็นการเกษตรในพื้นที่ที่เคยปลูกฝิ่นมาก่อน มีการลงทุนผ่านรัฐบาลมณฑลหยุนหนัน มูลค่ากว่า 62.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทจากหยุนหนันจำนวน 29 แห่ง ได้เข้าไปปลูกพืช ทำการเกษตรในเขตพื้นที่ประเทศชายแดนเพื่อช่วยประเทสเพื่อนบ้านลดการปลูกฝิ่นมาตั้งแต่ปี 2533 พืชที่ส่งเสริมให้เพาะปลูกนั้นได้แก่ ธัญพืช ยางพารา ข้าว อ้อย ลำไย ชา และข้าวโพด ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว
นายซุน กล่าวอีกว่า การพัฒนาโครงการปลูกพืชทดแทนการปลูกฝิ่นในภูมิภาคไม่เพียงแต่จะช่วยลดพื้นที่ปลูกฝิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยการเสนอให้ประชาชนมีวิถีชีวิตแนวใหม่ และเร่งให้เกิดการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่นด้วย นายซุนกล่าว.