กรุงเทพฯ - ฝนที่ตกกระหน่ำตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายๆพื้นที่ในกัมพูชาอยู่ในสภาวะน้ำท่วมขัง รวมถึงแหล่งปราสาทที่สำคัญ สมัยยุคก่อนพระนครของประเทศก็ทรุดตัวพังลงมาด้วย
ปราสาทสมโบร์ไพรกุก (Sambor Prei Kuk) ซึ่งเป็นปราสาทหลังสำคัญในสมัยยุคก่อนพระนครของกัมพูชา ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 มีบางส่วนของปราสาทได้ทรุดพังลง เนื่องจากลมพายุและฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในฤดูนี้ ในบริเวณพื้นที่จ.กำปงธม (Kompong Thom) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
"ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่ได้มานานนับพันปี ก่อนที่จะถูกทำลายลงด้วยพายุฝนในสัปดาห์นี้" นาย Chuch Phoeurn นักโบราณคดี และรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชา กล่าว พร้อมทั้งระบุว่า ส่วนที่ได้รับความเสียหาย คือยอดของปราสาทที่ทรุดพังลงมา
ปราสาทหลังดังกล่าว มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก ซึ่งนาย Chuch Phoeurn ได้วางแผนที่จะทำการบูรณะ ด้วยเงินงบประมาณพิเศษที่จากรัฐบาลเพื่อใช้ในโครงการบูรณะซ่อมแซมอนุสาวรีย์และสิ่งก่อสร้างต่างๆในแต่ละปี โดยทางกระทรวงฯได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยวาเซดะ ของประเทศญี่ปุ่น ในการอนุรักษ์ปราสาทสมโบร์ไพรกุก และทำให้ปราสาทหลังนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศ
ส่วนในจ.กัมโป๊ต (Kampot) ทางภาคใต้ของประเทศ มีชาวประมงเสียชีวิตเนื่องจากเรือพลิกคว่ำเพราะพายุฝน และยังมีบ้านเรือนของราษฎรอีกนับหมื่นหลังจมอยู่ใต้น้ำ
"ประชาชนหลายพันคน ต้องอพยพย้ายไปอยู่ในโรงเรียนและพื้นที่สูงก่อนชั่วคราว" นาย Thach Khorn ผู้ว่าราชการ จ.กัมโป๊ต กล่าว
ในวันพุธที่ผ่านมา นายกฯฮุนเซน ได้เดินทางไปเยือนจ.กัมโป๊ต ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนรุนแรงที่สุด เพื่อตรวจสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน โดยถนนสายหลักจากกรุงพนมเปญถูกตัดขาด พื้นที่ปลูกข้าวหลายพันไร่ได้รับความเสียหาย