กรุงเทพฯ- กลุ่มนักลงทุนเหมืองแร่จากมาเลเซียเดินทางเข้า สปป.ลาวเพื่อหาลู่ทางการลงทุน หลังจากกิจการเหมืองแร่ในประเทศนี้มีออสเตรเลีย จีนและเวียดนามเป็นเจ้าตลาดเดิม ขณะที่ดินแดนลาวมีสินแร่ล้ำค่าทางเศรษฐกิจนานาประเภทในประมาณมหาศาลรอการขุดค้นขึ้นมาใช้ประโยชน์
การพุ่งความสนใจของนักลงทุนมาเลเซียไปยังกิจการเหมืองแร่ ยังมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มทุนจากประเทศนี้เข้าไปร่วมบุกเบิกธุรกิจโรงแรม อุตสาหกรรมค้าปลีก รวมทั้งการลงทุนในโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า
คณะนักลงทุนจากมาเลเซียซึ่งนำโดย ดาโต๊ะไดราจา ไซอิด ราซลัน อิบนิ ไซอิด จามาลูเอล (Diraja Syed Razlan Ibni Syed Jamalullail) ประธานสภาบริหารของบริษัท MESB Berhad ผู้ลงทุนด้านการก่อสร้างและวิศวกรรมรายใหญ่จากมาเลเซีย
พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคำนับนายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี ลาว ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.)
จุดประสงค์ของการเข้าพบนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวในครั้งนี้ก็เพื่อปรึกษาหารือ และขอทราบรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ในการเข้าลงทุนในโครงการพัฒนาพลังงานและเหมืองแร่ รวมทั้งด้านอื่นๆ ในลาว ร่วมในคณะของนายกรัฐมนตรีลาวที่ให้การต้อนรับผู้ไปเยือนยังประกอบด้วย ดร.บ่อใสคำ วงดาลา รมว.กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ อีกด้วย
นายบัวสอนได้กล่าวแสดงความยินดีที่บริษัท MESB Berhad ให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาในแขนงต่างๆ โดยยืนยันจะอำนวยความสะดวกแก่บริษัทแห่งนี้ที่จะเข้ามาลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง สปป.ลาว และมาเลเซียให้กว้างขึ้น ขปล.กล่าว
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวของทางการลาวไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทสินแร่ที่ฝ่ายมาเลเซียสนใจจะเข้าลงทุน ตลอดจนกำหนดระยะเวลาต่างๆ ในการดำเนินการ
ในปัจจุบันบริษัทจากออสเตรเลียเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ใน สปป.ลาว โดยเป็นเจ้าของเมืองทอง-ทองแดงเซโปน และที่ภูเขาควาย กำลังมีการสำรวจอีกแห่งในแล่งภูเบี้ยแขวงเวียงจันทน์ บริษัทจีนกำลังสำรวจแหล่งแร่เหล็กและบ๊อกไซต์ในภาคเหนือกับภาคกลาง ส่วนเวียดนามกำลังสำรวจแหล่งแร่เหล็กในอะลูมินัมในภาคใต้
ตามรายงานผลการสำรวจทางธรณีศาสตร์ก่อนหน้านี้ ใน สปป.ลาวมีการค้นพบแหล่งแร่ล้ำค่าต่างๆ กว่า 500 จุดและอาณาบริเวณทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาบริษัท โรฮาส ยูโค อินดัสตรี เบอร์ฮาด (Rohas-Euco Industries Berhad) ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมชั้นนำจากมาเลเซีย ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) รับรัฐบาลลาวเพื่อลงทุนในโครงการเขื่อนในแขวงเชียงขวาง ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และใช้ภายใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใน สปป.ลาวล่าสุดจากมาเลเซีย
บริษัท Rohas-Euco ดังกล่าวกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการประเมินผลกระทบทางสังคมของโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำซัน 3 (Nam Sun 3) แขวงเชียงขวาง ในระยะเวลาทั้งหมด 18 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ได้มีการลงนามเป็นต้นไป
เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำน้ำซัน 3 จะมีกำลังผลิตราว 60 เมกะวัตต์ ด้วยเงินลงทุน 60-70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ระยะเวลาสัมปทานนาน 30 ปี
ก่อนหน้านั้นบริษัท Mega First Corporation Berhad จากมาเลเซีย เป็นบริษัทแห่งแรกที่เข้าลงทุนด้านพลังงานในลาว ในโครงการเขื่อนไฟฟ้าดอนสะหง (Don Sahong) ในแขวงจำปาสัก มูลค่าการลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ โดยมีการลงนามในบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจ (MoU) ไปในเดือน มี.ค.ปีนี้
นักลงทุนจากมาเลเซียยังเป็นเจ้าของโรงแรมดอนจันทน์พาเลส ในนครหลวงเวียงจันทน์ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวเพียงหลังเดียวใน สปป.ลาว ขณะเดียวกันก็กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในอาณาบริเวณเดียวกันอีกด้วย.