xs
xsm
sm
md
lg

'ทางหลวงเลข 8' พร้อมใช้ นครพนม-เวียดนามสะดวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <CENTER><FONT color=#009933> แผนที่แสดงทางหลวงสายสำคัญในภาคกลางและภาคใต้ของลาวที่เชื่อมต่อกับชายแดนเวียดนามในปัจจุบัน ซึ่งทำให้การเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านสะดวกรวดเร็วขึ้น </FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน- ทางการลาวได้ประกาศเปิดใช้ทางหลวงเลข 8 อย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ หลังก่อสร้างและฟื้นฟูบูรณะมานานถึง 4 ปีด้วยความช่วยเหลือของรัฐบาลสวีเดน โดยจะเป็นทางสายหลักอีกสายหนึ่ง เช่นเดียวกันกับทางหลวงเลข 9 ในการเชื่อมการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวและออกสู่ทะเลในเวียดนาม

ทางหลวงเลข 8 มีความยาวไม่ถึง 100 กิโลเมตรเศษ เชื่อมทางหลวงเลข 13 ใต้ ในแขวงบอลิคำไซ ไปยังชายแดน จ.ห่าติ๋ง (Ha Tinh) ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และจากที่นั่นจะสามารถออกสู่ท่าเรือหวุงอาง (Vung Ang) หรือ ท่าเรือวิง (Vinh) ใน จ.เหงะอาน ที่อยู่ใกล้เคียงกัน

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนามก่อนหน้านี้ ในปัจจุบันได้มีเรือเดินทะเลของ สปป.ลาว จำนวน 2 ลำจอดและใช้บริการประจำที่ท่าเรือหวุงอาง โดยที่ทางการเวียดนามไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมหรือค่าเช่าพื้นที่ในการจอดแต่อย่างไร

ทางหลวงสายนี้จะทำให้การเดินทางจากประเทศไทยไปยังภาคกลางตอนบนและภาคเหนือเวียดนามสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ระหว่างเมืองนครพนมกับเมืองทาแขก แขวงคำม่วน แล้วเสร็จ ก็จะสามารถลัดไปสู่ทางหลวงเลข 8 สายนี้ได้โดยง่าย

ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) ทางหลวงเลข 8 ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่า และในนั้นเป็นเงินงบประมาณอยู่ 1.7 ล้านดอลลาร์

ทางหลวงเลข 8 นับเป็นโครงการก่อสร้างถนนที่รัฐบาล สปป.ลาวกู้เงินจากรัฐบาลสวีเดน โดยผ่านองค์การองค์การพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสวีเดน (SIDA) พิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการจัดขึ้นในสัปดาห์ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

งบประมาณทั้งหมดถูกใช้ไปในการบูรณะและก่อสร้างทางหลวงสายเก่า เป็นความยาว 81 กิโลเมตรผ่านภูไห ไปยังเมืองคำเกิด และเมืองหลักซาว แขวงบอลิคำไซไปยังเมืองน้ำเพาติดชายแดนเวียดนาม ทางหลวงสายเก่าก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2541 แต่เปิดใช้งานได้ 1 ปี ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอุทกภัย และดินถล่ม

เจ้าหน้าที่ของลาวกล่าวว่า ความสำคัญของทางหลวงสายนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การขนส่งทางบกระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม เป็นไปอย่างสะดวกเท่านั้น แต่ยังหวังว่าจะเป็นเส้นทางสายท่องเที่ยวอีกสายหนึ่ง และเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของทั้งอนุภูมิภาค

พิธีเปิดได้จัดขึ้นในสัปดาห์ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยการเป็นประธานของ ดร.สมมาด พนเสนา รมว.กระทรวงคมนาคม ขนส่ง ไปรษณีย์ ร่วมในพิธียังมี นายคำพัน พิมลาวง ประธานคณะกรรมการปกครองแขวงบอลิคำไซ กับเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำ สปป.ลาว ขปล.กล่าว

จากเมืองท่าแขกยังสามารถเดินทางตรงไปสู่ชายแดน จ.กว๋างบิ่ง (Quang Binh) ของเวียดนาม โดยใช้ทางหลวงเลข 12 ซึ่งในปัจจุบันกำลังมีการฟื้นฟูบูรณะในบางช่วง ทางหลวงสายนี้ ตัดผ่านเขตท่าราบ และลำน้ำหลายสาย ผ่านที่ราบสูงและเขตเขาที่มีทัศนียภาพสวยงาม คาดว่าจะเป็นถนนสายท่องเที่ยวอีกเส้นทางหนึ่ง

ใต้ลงไปยังมีทางหลวงเลข 9 ที่เชื่อมเมืองไกสอน พมวิหาน (คันทะบูลี) กับชายแดน จ.กว๋างจิ (Quang Tri) ของเวียดนาม ทางหลวงเลข 9 นี้มีฐานะเป็นทางสายหลักในการเชื่อเขตเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่เริ่มจากเมืองท่าด่าหนัง (Danang) ผ่าน สปป.ลาว ไทยและไปออกทะเลอันดามันที่เมืองเมาะละแหม่ง (Mawlamyine) ในพม่า

ถนนเหล่านี้ได้ทำให้ สปป.ลาวที่เคยเป็นประเทศไร้ทางออกทะเล กลายสภาพเป็นประเทศที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น