xs
xsm
sm
md
lg

บ๋าวหว่า.. มั่วฝรั่งจนพรุน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาพที่ถ่ายทำในวัดวันเมี้ยว บาดตาบาดใจชาวเวียดนามนับล้านๆ ในวันนี้นางแบบสาวเจ้าโด่งดังจนโกอินเตอร์ท่ามกลางความสงสัย

อีกแล้ว.. บ๋าวหว่า ‘ลูกเป็ดขี้เหร่’ แห่งวงการนางแบบเวียดนาม เจ้าตัวอยู่อเมริกาแต่ก็ยังฉาว ส่งข่าวคาวร้อนๆ ข้ามมหาสมุทรกลับมาถึงบ้านเกิดอยู่เป็นระยะๆ

เพราะไม่กี่เดือนมานี้ อะไรที่ไม่เคยได้เห็น ชาวเวียดนามก็ได้เห็น ไม่เคยได้ยินก็ได้ยิน ภาพถ่ายในอดีตถูกขุดขึ้นมาโชว์ชุดอีกหลายชุด พร้อมเสียงเล่าลือกับการกล่าวหาอย่างไม่สิ้นสุด

แต่อะไรก็ไม่เท่าถูกหาว่า “มั่วฝรั่ง” จนได้ดี โกอินเตอร์ไปถึงนิวยอร์ก

เมื่อเดือนสองเดือนที่แล้ว สื่อในเวียดนามพากันเรียงหน้ายกย่องนางแบบสาว แม้จะมีภาพเปลือยแบบหลุดๆ ของเธอว่อนบนเน็ต แต่ทุกฝ่ายก็เห็นอกเห็นใจ อดภูมิใจไม่ได้ที่เธอโกอินเตอร์เป็นคนแรกของประเทศ
 <CENTER><FONT color=#009933> ภาพบาดตาบาดใจหนุ่มมังกรเวียดนามขี้อิจฉา พวกนี้ทุบโต๊ะ.. บ๋าวหว่ามั่วฝรั่งจนเละเทะ ไขกุญแจไปสู่เวทีนางแบบโลก</FONT></CENTER>
มีชาวเวียดนามไม่มากที่เคยทราบว่า นางแบบจอมอื้อฉาวเคยถ่ายแบบให้กับนิตยสาร GQ นิตยสารผู้ชายมีคลาสที่ขายดีในสหรัฐฯ ..สื่อเวียดนามก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้เมื่อเร็วๆ นี้

ภาพชุดของบ๋าวหว่าที่ถ่ายคู่กับ นายแบบหนุ่มชาร์ลี ฮันนัม (Hunnam) ดูดีและสวยงามยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นชุดถ่ายที่อ่าวฮาลอง ที่หมู่เกาะในภาคเหนือ จ.กว๋างนาม หรือ ภาพบนท้องถนนกรุงฮานอย

การได้ปรากฏตัวคู่กับนายแบบที่มีชื่อเสียงในนิตยสารชั้นนำของโลกเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการโฆษณาตัวเองของเธอในต่างประเทศ แต่ในช่วงนั้นที่เวียดนามไม่ค่อยมีคนอ่านนิตยาสารฉบับนี้ เลยไม่มีใครทราบว่าเธอปรากฏตัวในสภาพไหน อย่างไร และพูดอะไรบ้าง

เมื่อรู้แล้วก็เลยทำให้วงการช้อกย้อนหลัง

มันมีอยู่ภาพหนึ่งที่บ๋าวหว่าในชุดชั้นในตัวจิ๋ว นอนคู่กับนายแบบหนุ่ม โดยหลังฉากเป็นวัดวันเมี้ยว (Van Mieu) วัดศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองหลวงฮานอย ซึ่งได้ชื่อว่า “มหาวิทยาลัยแห่งศิลปวรรณคดี” ของชาติ

ใต้ภาพหวิวของบ๋าวหว่า มีคำบรรยายที่สุดหรู..

“วัดวันเมี้ยวฮานอยได้สร้างขึ้นในปี 1613 ในราชวงศ์ เลแท้งโตง (Le Thanh Tong) เพื่อเชิดชูวัฒนธรรมขงจื๊อ ปัจจุบันนี้ยังเหลืออยู่สวน บึงดอกบัวและลานข้างใน ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงฮานอย”

รูปของบ๋าวหว่าในวัดวันเมี้ยวสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเวียดนามนับล้านๆ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่า นางแบบสาวกับนายแบบตาน้ำข้าว เข้าไปถ่ายรูปนุ่งน้อยห่มน้อยในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นได้อย่างไร?

วันเมี้ยวมิใช่วัดธรรมดา หากยังเป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษของประเทศ นอกจากนั้นก็ยังใช้เป็นที่จัดงานมอบใบปริญญาและรางวัลเกียรติยศระดับชาติแก่บรรดานักวิจัยและนักศึกษาดีเด่นระดับชาติมาตลอด

ตำนานเล่าขานกันว่า การประสิทธิ์ประสาทปริญญาดุษฎีบัณฑิตก็จัดขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรกในโลก

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แหล่งรวมสติปัญญาของบ้านของเมืองเช่นนี้ ไปเป็นฉากถ่ายรูประดับโลว์คลาสเช่นนั้นได้อย่างไร?

กระแสความไม่พอใจถูกจุดให้ติดขึ้นมา พร้อมกับความโกรธแค้น ที่กระพือโหม แบบไม่รู้จะทำไงจึงจะสะใจท่านผู้ชม

นอกจากภาพชุดที่วัดวันเมี้ยวแล้ว ก็ยังมีอีกชุดหนึ่งที่บ๋าวหว่ากับเพื่อนสาวอีกคนนั่งคลอเคลียให้ฝรั่งต่างด้าว 2 คนโอบ ดูแล้วไม่ต่างกับสาวบริการในร้านเบียร์โอม ร้านแบบที่ว่านี้ก็คือ ดื่มเบียร์ไปด้วยมีสาวเสิร์ฟไปนั่งเคียงข้างไว้โอบเป็นกับแกล้ม

ภาพชุดใหม่นี้ยิ่งสุมไฟแห่งความผิดหวังของแฟนๆ ให้ลุกโชน และกลายเป็นความพิโรธ

บ๋าวหว่ายังทำได้ไม่หนำใจ.. สื่อในเวียดนามยังพบบทสัมภาษณ์เด็ดของเธอ ซึ่งต้องย้ำอีกครั้งว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว.. ก่อนนางแบบสาวจะไปปักหลักในนครนิวยอร์ก
 <CENTER><FONT color=#009933> ภาพหลุด ในอดีตกับปัจจุบันที่เธอเป็นนางแบบสุดฮ้อทชาวเอเชียเพียงไม่กี่คนบนเวทีแค้ทวอร์คของนครนิวยอร์ก </FONT></CENTER>
นิตยสาร GQ ได้แนะนำบ๋าวหว่ากับผู้อ่านว่า.. ปัจจุบันอายุ 21 ปี เริ่มเป็นนางแบบอาชีพตั้งแต่เรียนจบมัธยม แล้วก็อ้างคำพูดของเธอในตอนหนึ่งว่า “ปริญญาไม่มีความหมายอะไรหรอก มีปริญญาก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น บางคนมีปริญญายังหางานทำไม่ได้ ทำงานต่างประเทศไม่เห็นมีใครถามถึงปริญญาเลย”

จากนั้นก็พ่นในอีกตอนหนึ่ง.. “การทำงานของคนเวียดนามไม่เป็นมืออาชีพ ไม่ให้เกียรติเรา ค่าตอบแทนก็น้อย ฉันจะไปทำงานต่างประเทศ ฉันจะแสดงหนังในฮอลลีวูด เพราะฉันมั่นใจมากกับตัวเอง”

เท่านั้นแหละ.. เหล่าบัณฑิตที่เงื้อมีดค้างอยู่ก็เต้นผางออกสับเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะเอาเท้ากระทืบซ้ำ คำด่าทอจากมุมต่างๆ ในสังคมพรั่งพรูออกมา ผ่านสื่อของทางการในช่วงเดือนที่แล้ว

บ๋าวหว่ายังให้สัมภาษณ์ข้ามแดนเมื่อไม่นานนี้ บอกว่า ก่อน New York Models จะไปจับเธอเซ็นสัญญาที่เวียดนามในเดือน ก.พ.ปีนี้ เธอเคยเป็นแบบโฆษณาให้กับ LA Models ในลอสแอนเจลีส มาก่อน แล้วก็เคยขึ้นปกนิตยสารต่างประเทศมาแล้วด้วย...

ข้อมูลใหม่เหล่านี้ได้จุดประกายทำให้เรื่องราวเก่าๆ ผุดขึ้นมาอีกรอบ.. หลายคนได้ตั้งคำถามโตๆ ที่เมื่อต้นปีนี้ยังเป็นเพียงข้อสงสัย ..เมื่อครั้งที่ภาพหวามของเธอถูกนำออกเผยแพร่ทางเน็ต

ผู้สันทัดกรณีบางรายเคยยืนยัน นั่งยันและตีลังกายันว่าภาพที่บ๋าวหว่ายืนอยู่หน้าฉากสีฟ้าอ่อน ต่อหน้าแสงไฟสตูดิโอในสภาพเปลือยอก ท่อนล่างเหลือเพียงชุดนั้นในตัวจิ๋วที่บางแจ๋วนั้น เป็นภาพเทสต์หน้ากล้องตอนเธอเข้าสู่วงการใหม่ๆ แต่ไม่ทราบมันหลุดจากสตูดิโอไปได้ไง

ส่วนพวกมังกรหนุ่มโฮจิมินห์ไม่เชื่อ พวกนี้สงสัยว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของพวกฝรั่งแมวมากกว่า.. มังกรเศรษฐีใหม่บางคนถึงกับขึ้นโม้บนเว็บบล็อกของพวกเขาบอกว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ไม่ได้วิเศษวิโสอย่างที่คนทั่วไปเห็น ตัวเขาเองเคยจ่าย 1,000 ดอลลาร์ เพื่อมีคืนที่เปี่ยมสุขกับเธอมาแล้ว
<CENTER><FONT color=#009933> นอกเหนือจากภาพบาดตาบาดใจข้างบนแล้ว ภาพชุดที่อ่าวฮาลองและที่เกาะสวาทหาดสวรรค์ ล้วนออกมาดูดีและสวยงามมาก </FONT></CENTER>
บางคนยังสำทับอีกว่าตัวเองเคยดูวิดีโอคลิป “หญิงสาวที่หน้าตาคล้ายบ๋าวหว่า” แสดงบทรักร้อนแรงกับ “นายแบบผิวขาว” แต่พีซีคุณภาพต่ำของเขาไม่สามารถจะดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่เช่นนั้นได้ พอกลับไปอีกที คลิปก็โดนลบไปแล้ว..

ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ มีแต่คนบอกว่าเป็นแค่การคุยคำโต

เมื่อเรื่องเก่าถูกขุดขึ้นมาประจาน ผสมผสานเข้ากับภาพหลุดๆ และข่าวลือเรื่องวิดีโอคลิป รวมกับภาพชุดเก่าที่บ๋าวหว่าเกลือกกลั้วอยู่กับหนุ่มหล่อจากต่างแดน พวกมังกรเวียดขี้สงสัยก็เลยทุบโต๊ะโครม..

บ๋าวหว่ามั่วฝรั่งมาจนพรุนแล้ว!?

ฝรั่งพวกนั้นมันได้เห็นเธอทุกซอกทุกหลืบ ..ไอ้ที่พวกมังกรเวียดนามเห็นบนเน็ตนั้นมันแค่หางม้วน.. และนั่นคือกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้เธอก้าวกระโดด โกอินเตอร์ก่อนคนอื่น!
กำลังโหลดความคิดเห็น