กรุงเทพฯ- บริษัทแอร์เอเชีย (AirAsia Bhd) แห่งมาเลเซียได้ประกาศแผนงดบินกัวลาลัมเปอร์-พม่า-ลาว กับ เวียดนามในปีนี้ โดยกล่าวว่ามีการสดุดเล็กน้อย และบริษัทกำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์การบิน (Hub) เชื่อมประเทศเพื่อนบ้านขึ้นในเขตภาคเหนือของประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นที่รัฐเคดะห์ (Kedah) หรือไม่ก็อาจจะเป็นรัฐปีนัง (Penang)
ดาโต๊ะโทนี่ เฟอร์นันเดส (Tony Fernandes) ประธานเจ้าหน้าที่บริการของแอร์เอเชียกล่าวว่า การจัดตั้งฮับการบินในเขตภาคเหนือของประเทศ จะทำให้สายการบินโลว์คอสท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้ สามารถให้บริการในพื้นที่ "สามเหลี่ยมพัฒนา" (Growth Triangle) ระหว่างมาเลเซีย-ไทย-อินโดนีเซียได้อย่างเต็มที่
นายเฟอร์นันเดสกล่าวว่า ศูนย์การบริการของแอร์เอเชียอาจจะเป็น ท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลฮาลิม (Abdul Halim) ในรัฐเคดะห์ก็เป็นได้ ขณะเดียวกันก็กำลังรอการอนุญาตจากรัฐบาลประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อบินเชื่อมปลายทางต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามแผนการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการบินเชื่อมระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย
บริษัทฯ กำลังจะตัดสินใจเรื่องศูนย์การบินในภาคเหนือ ภายใน 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งถ้าหากเป็นปีนังก็จะเหมาะมากในการบินเชื่อมเกาะมีดาน (อินโดนีเซีย) ลังกาวี (มาเลเซีย) และหาดใหญ่ของไทย ซีอีโอของแอร์เอเชียกล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามา
"ความต้องการเที่ยวบินแอร์เอเชียมีสูงมากในซาบาห์กับซาราวัค ทำให้เราต้องกลับไปดูแผนที่จะเพิ่มเครื่องบินเพื่อบินไปอินโดนีเซียกับประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง" ส่วนเที่ยวบินจากโกตากินาบาลู (Kota Kinabalu) ไปเซียะเหมิน (Xiamen) กับ เซินเจิ้น (Shenzen) ของจีน ก็กำลังเจรจากับท่าอากาศยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นายเฟอร์นันเดสกล่าว
"หากทางการอนุญาตให้กำหนดราคาที่เหมาะสมได้ ในปีนี้ก็คงจะมีอีก 2 ปลายทางเพิ่มขึ้น" ซีอีโอของแอร์เอเชียกล่าว
ตามข้อมูลของบริษัทแม่แอร์เอเชียนั้น รายได้จากการบินเส้นทางในทวีปเอเชีย คิดเป็น 35% ของผลประกอบการของบริษัท.