xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เวียดสางทุจริตปลด จนท.โกงแล้ว 3 คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน- เพียงชั่วเวลาไม่ทันข้ามเดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไปแล้วถึง 3 คนในกรณีฉ้อราษฎร์บังหลวงอันอื้อฉาวต่างๆ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ และความเชื่อมั่นของประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเวียดนาม รวมทั้งนักลงทุนจากต่างประเทศด้วย

เหยื่อตัวใหญ่ของการล้างบางคอร์รัปชั่นในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ พล.ต.กาวหง็อกแอว๋ง (Cao Ngoc Oanh) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเวียดนาม ที่ต้องสงสัยรับสินบนในกรณีคอร์รัปชั่นหน่วยงาน PMU18 นายตำรวจผู้นี้ได้รับคำสั่งพักราชการแบบสายฟ้าแลบจากสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนที่แล้ว

คราวนี้ก็มาถึงก๊อกที่ 2 ในวันที่ 19 เดือนนี้ กระทรวงความมั่นคงภายใน (Ministry of Public Security) ได้ถอด พล.ต.แอว๋ง ออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนของกรมใหญ่ตำรวจ มีการตั้งรอง ผบ.ตร.อีกคนหนึ่งเข้าปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อให้การสอบสวนคดี PMU18 ดำเนินไปอย่างโปร่งใส

ในปี 2543 พล.ต.แอว๋ง เป็น หัวหน้าตำรวจ จ.กว๋างบิ่ง (Quang Binh) และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บังคับการกองคดีเศรษฐกิจประจำการในกรุงฮานอย ในปี 2544 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี ซึ่งในช่วงนั้นมีผลงานที่โดดเด่นมาก

การฉ้อราษฎร์บังหลวงได้ทำให้นายตำรวจที่อนาคตสดใสคนหนึ่งดับวูบลง

ก่อนหน้านี้ พล.ต.แอว๋ง ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งที่ 10 ของพรรคคอมมิวนิสต์ในปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังได้รับเสนอชื่อขึ้นเป็น รมว.กระทรวงความมั่นคง ในช่วงปรับคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาอีกด้วย

อีกรายหนึ่งอยู่แค่ปลายจมูกของนายกรัฐมนตรี นั่นคือ รองปลัดสำนักนายกฯ ซึ่งในเวียดนามเป็นตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรีช่วยว่าการเลยทีเดียว

ในต้นเดือน มิ.ย. นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ "รับใบลาออก" ของนายเหวียนวันลาม (Nguyen Van Lam) หลังจากเจ้าตัวลืมกระเป๋าเอกสารเอาไว้ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจพบเงินทั้งที่เป็นเงินด่งและเงินดอลลาร์มีมูลค่ารวมกันกว่า 10,000 ดอลลาร์

ต่อมาเจ้าตัวได้ให้การยอมรับว่า ส่วนหนึ่งในนั้นเป็น "ของขวัญ" จากบริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางจังหวัด ซึ่งก็มีโทษหนักแล้ว

เจ้าพนักงานสอบสวนยังตั้งข้อสงสัยด้วยว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะมีสินบนที่เกี่ยวข้องกับกรณี PMU18 อยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง กรณีทุจริตอื้อฉาวนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของหน่วยงานจนถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการ รวมหัวกันยอกเงินไปเข้ากระเป๋าตัวเองและพรรคพวกหลายล้านดอลลาร์ ในนั้นมีเงินช่วยเหลือจากต่างประทศรวมอยู่ด้วย

การสอบสวนกรณีทุจริตอื้อฉาวนี้งวดเข้ามาเต็มที โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ขีดเส้นให้กระทรวงความมั่นคงฯ สรุปเรื่องนี้ภายในวันที่ 24 ก.ค. คือ วันจันทร์ที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรียังสั่งพักราชการนายเจิ่นก๊วกเตือง (Tran Quoc Truong) รองผู้ว่าการตรวจตราแห่งรัฐ (State Inspectorate Commission) อีก 1 คน เป็นรายที่ 2

หน่วยงานทำหน้าที่คล้ายกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกลับไปมีเอี่ยวในกรณีทุจริตก่อสร้างคลังเก็บก๊าซที่ท่าเรือถิหวาย (Thi Vai) ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) ทางภาคใต้ของประเทศ โดยรับสินบนเพื่อทำให้สำนวนคดีอ่อนลง เป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ถูกจับกว่า 10 ราย ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและระดับกลางของบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ปิโตรเวียดนาม

การสอบสวนกรณีนี้ดำเนินมาข้ามปี จนกระทั่ง นายแกว๊กเลแท็ง (Quach Le Thanh) กรรมการศูนย์กลางพรรค หัวหน้าคณะกรรมการตรวจตราแห่งรัฐ ถูกกดดันให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง ในช่วงปรับใหญ่ ครม.และตำแหน่งเทียบเท่า เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชา

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนามนั้น การสั่งเชือดเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้ง 3 ราย ไม่ใช่การเชือดไก่ให้ลิงดู แต่เป็นเจตนามุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการจะกวาดล้างการคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ให้บรรลุผล

เป้าหมายต่อไปของนายเติ๋นยวุ๋งก็คือ สายการบินแห่งชาติ แหล่งผลประโยชน์ใหญ่ของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมๆ กับการอนุมัติให้เวียดนามแอร์ไลน์จัดซื้อเครื่องบินใหม่อีก 15 ลำ นายกรัฐมนตรีเวียดนามก็ได้สั่งการให้กระทรวงความมั่นคงเร่งการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่า มีการทุจริตหรือมีการกระทำที่ขัดกับกฎระเบียบและกฎหมาย เกิดขึ้นในสายการบินแห่งชาติหรือไม่

สายการบินเวียดนามมีเรื่องใหญ่ๆ ที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน คือ การจัดซื้อเครื่องบิน โบอิ้ง 777-200ER จำนวน 4 ลำ แต่ซื้อมาแล้วใช้บินระยะไกลไม่ได้ เนื่องจากติดเครื่องยนต์มาไม่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เครื่องบินฝูงใหม่นี้บินเชื่อมยุโรปและสหรัฐฯ ได้

นี่เป็นกรณีแรกที่ต้องสงสัยว่ามีการทุจริต งุบงิบกันจัดซื้อ และฉกเอาเงินงบประมาณเข้ากระเป๋า

เพื่อแก้ปัญหานี้การบินเวียดนามต้องเช่าเครื่องบิน โบอิ้ง777-200ER อีก 6 ลำจากบริษัทนายหน้าเอกชน เพื่อใช้บินเชื่อมยุโรป แต่ก็มีการตรวจพบในภายหลังว่า ค่าเช่าแพงลิบลิ่ว ยิ่งนานปีอัตราค่าเช่าก็ยิ่งแพงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ถูกสงสัยว่าอาจจะมีการกินหัวคิวกันในหมู่ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง

ประการสุดท้ายคือการเล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งสายการบินแห่งชาติถูกกล่าวหาว่าจ้างคนที่ขาดคุณสมบัติ ไม่มีประสบการณ์เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้างานและระดับรอง และยังใช้สวัสดิการทุนการศึกษาต่างประเทศของลูกหลานพนักงานสายการบินที่มีผลงานดีเด่น ไปให้แก่ลูกท่าหลานเธอนอกสายการบิน

บางคนในนั้นสอบเรียนต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่การบินเวียดนามให้ทุนไปเรียนต่อในสหรัฐฯ

ในช่วงหลายปีมานี้เศรษฐกิจของเวียดนามขยายตัวมีอัตราเฉลี่ยถึง 8.4% ต่อปี ซึ่งเป็นการเติบโตที่เร็วที่สุดในเอเชีย รองจากจีนเท่านั้น

เมื่อเศรษฐกิจของประเทศยิ่งโตเร็ว การฉ้อราษฎร์บังหลวงและปรากฏการณ์ย่อท้อที่ไม่เคยพบมาก่อนก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงา พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "ความชั่วร้ายทางสังคม" ที่จะต้องกำจัดให้หมดไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น