กล้วยไม้ไทยยอดฮิตในโฮจิมินห์ขายกระฉูดทุกปี

ผู้จัดการรายวัน- กล้วยไม้จากประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างสูงในนครโฮจิมินห์ มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งที่เป็นช่อดอกและต้นอ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลแวนดาและม็อคคาร่าซึ่งเป็นกล้วยไม้พันธุ์ผสม มูลค่าส่งออกปีละนับสิบล้านบาท ในขณะที่กล้วยไม้ยังไม่สามารถปลูกให้ได้คุณภาพดีในนครใหญ่ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภาคใต้เวียดนามแห่งนี้

ผู้นำเข้ากล้วยไม้บางรายกล่าวว่า พวกเขาได้นำเข้ากล้วยไม้พันธุ์ม็อคคาราจากประเทศไทย และขายต้นอ่อนให้กับสวนกล้วยไม้ไปกว่า 40,000 ต้น ทุกๆ เดือน การนำเข้าในปีนี้ราคาสูงกว่า 2-3 ปีก่อน 15-20% และกล้วยไม้พันธุ์ม็อคคาร่าในปัจจุบันจำหน่ายในราคา 45,000 ด่ง (ประมาณ 120 บาท) ต่อช่อ ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ มีราคาช่อละ 50,000-52,000 ด่ง

นายเจิ่นวันแบ๊ก (Tran Van Bach) จากนิคมบิงฮุ่งฮว่า (Binh Hung Hoa) อ.บึ่นเติ่น (Binh Tan) เป็นที่รู้จักกันดีในนามผู้ปลูกกล้วยไม้ ในนครโฮจิมินห์ บอกกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ตว่า ครอบครัวของเขานำเข้ากล้วยไม้จากประเทศไทยประมาณ 20,000 ต้นทุกปี แม้ราคาสูงแต่ก็ยังต้องนำเข้า เพราะกล้วยไม้ในประเทศคุณภาพยังไม่ดีพอ

การปลูกกล้วยไม้เป็นกิจการที่สามารถทำกำไรได้ดีและใช้พื้นที่เพาะปลูกไม่มากเหมือนดอกไม้ประเภทอื่นๆ พื้นที่ปลูกกล้วยไม้ในปัจจุบันได้ขยายไปยัง อ.กู๋จี (Cu Chi) ที่อยู่ห่างออกไปราว 30 กิโลเมตร สถิติของสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทของนครนครโฮจิมินห์ ระบุว่า ปี 2548 พื้นที่ปลูกกล้วยไม้มีทั้งหมด 500 ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 156 ไร่ ในปี 2546 และ 312 ไร่ ในปี 2547 และคาดว่าระหว่างปี 2549-2553 นี้จะมีพื้นที่ปลูกกล้วยไม้เพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ไร่

ทุกปีในนครโฮจิมินห์นำเข้าเฉพาะช่อกล้วยไม้จากไทยและไต้หวันเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านด่ง (ราว 250,000 ดอลลาร์) หรือประมาณ 10 ล้านบาท และราคาจะยิ่งสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่า เมื่อนำเข้าต้นอ่อนกล้วยไม้ โดยทุกสัปดาห์จะมีการนำเข้ากล้วยไม้กว่า 20,000 ช่อเพื่อสนองความต้องการในท้องถิ่น ที่ต้องการดอกกล้วยไม้ที่หลากสีสันและมีคุณภาพดี ขณะที่เกษตรกรเวียดนามสามารถปลูกได้เพียงสายพันธุ์พื้นบ้านและพันธุ์ม็อคคาร่าที่คุณภาพยังไม่ดี

ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเน็ต ไม่เพียงแต่กล้วยไม้เป็นที่ต้องการในโรงแรม ร้านอาหารหรือธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น ชาวเวียดนามยังเป็นคนที่รักดอกไม้ และเพราะเลี้ยงกล้วยไม้ มองหากล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นอ่อนที่นำเข้าจากไทยและไต้หวัน

นักวิจัยกล้วยไม้ในเวียดนามกล่าวว่า กล้วยไม้ที่ปลูกในต่างประเทศมีคุณภาพดีกว่าที่ปลูกในประเทศ คงความสดได้นานกว่าและมีสีสันสดกว่ากล้วยไม้พื้นเมือง สำหรับกล้วยไม้พันธุ์ต่างประเทศมีเพียงสายพันธุ์ม็อคคาราเท่านั้นที่มี คุณภาพใกล้เคียงกับกล้วยไม้นำเข้า แต่กล้วยไม้พันธุ์เวียดนามก็ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการ

ในปัจจุบันสถาบันชีววิทยาเขตร้อน สถาบันวิทยาศาสตร์เกษตรกรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ และบริษัทเอกชนบางบริษัท ได้พยายามที่จะขยายพันธุ์กล้วยไม้ให้ได้หลากหลายสายพันธุ์มากขึ้นเวียดนามเน็ตกล่าว

คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้อนุมัติโครงการลงทุนมูลค่า 14.2 พันล้านด่ง ในการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับดอกไม้ บอนไซ และปลาสวยงาม จนถึงปี 2553 โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะใช้ไปในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการปลูกดอกไม้ บอนไซ หรือเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามในเชิงธุรกิจ และเพื่อใช้ให้เป็นเงินทุนกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยปีละ 4-7% ด้วย

ทางการหวังว่าการพัฒนาการเพาะปลูกกล้วยไม้นี้ จะทำให้เวียดนามไม่ต้องนำเข้ากล้วยไม้ และสามารถที่จะส่งออกกล้วยไม้ยังต่างประเทศได้ด้วยในอนาคต เวียดนามเน็ตกล่าว.