กรุงเทพฯ - ผู้นำสหภาพแรงงานและสหภาพครูกัมพูชา ได้ประกาศการนัดหยุดงานทั่วประเทศในวันที่ 3 ก.ค. นี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มเงินเดือนให้แก่ลูกจ้างและลดเวลาการทำงานต่อสัปดาห์ให้น้อยลง ปรับสวัสดิการหลังคนงานถูกบังคับให้ทำงานล่วงเวลามายาวนาน โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่ม รวมทั้งให้รัฐบาลหาทางปรับราคาน้ำมันลง เนื่องจากผู้ใช้แรงงานเดือร้อนแสนสาหัส
"เราได้ทราบถึงสภาพการทำงานของแรงงานในกัมพูชาว่ายังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงให้ดีขึ้น" นายเจีย มุนี (Chea Mony) ผู้นำสหภาพแรงงาน และนายรอง ชุน (Rong Chhun) ประธานสมาพันธ์ครูอิสระกัมพูชา กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งในวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.) ที่ผ่านมา
"นอกจากนั้น ยังมีการแบ่งแยกระหว่างสหภาพด้วย มีการใช้แรงงานเด็ก และความปลอดภัยในการทำงานของพวกเราไม่ได้รับการดูแลแก้ไขให้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทต่างๆ มักจะจ่ายเงินค่าจ้างให้พนักงานล่าช้า"
ผู้นำสหภาพทั้ง 2 คน ยังได้กล่าวอีกว่า ต้องการให้รัฐช่วยลดราคาค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีราคาถูกลง ซึ่งในตอนนี้ราคาน้ำมันในกัมพูชาสูงถึงลิตรละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนพนักงานในโรงงานต่างๆ ได้เรียกร้องให้มีการปรับเงินเดือนจาก 45 เป็น 80 ดอลลาร์ เพราะพวกเขามักจะถูกบังคับให้ทำงานล่วงเวลาและบางครั้งก็ถูกกระทำทารุณ นอกจากนั้นพวกเขายังต้องการให้มีการลดชั่วโมงการทำงานลง จาก 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เหลือเป็น 44 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งในกัมพูชานั้น มีแรงงานอยู่ราว 270,000 คนในโรงงานมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
ครูในกัมพูชาได้เรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นเงินเดือนให้จาก 25 ดอลลาร์ เป็น 100 ดอลลาร์ต่อเดือน
"รัฐบาลได้ทำการเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการ แต่ก็เพียงแค่นิดหน่อย ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือสภาพความเป็นอยู่ของครูให้ดีขึ้นได้" จดหมายร้องเรียนของสหภาพครูระบุในตอนหนึ่ง
ทางการกัมพูชาได้สั่งห้ามการนัดหยุดงานหรือการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของผู้ใช้แรงงาน ในวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรงงานสากล หรือ “เมย์เดย์” ผู้ใช้แรงงานนับพันคนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามดีงกล่าวจัดการชุมนุมและเดินขบวนเฉลิมฉลอง ตั้งข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล
นายเจียมุนี ประธานสหภาพฯ ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้ชั่วคราวเพราะต้องการป้องกันไม่ให้กลุ่มแรงงานเดินขบวนเข้าตัวเมืองได้ แต่ก็ถูกปล่อยตัวให้เข้าไปร่วมชุมนุมได้
ในปี 2547 นายเจียวิชา (Chea Vichea) ประธานสหภาพแรงงานที่เข้มแข็งที่สุดคนหนึ่งของกัมพูชาได้ถูกลอบสังหารในเหตุการณ์ปาระเบิด ซึ่งทำให้มีคนอื่นๆ เสียชีวิตอีกหลายคน เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลของนายฮุนเซน ถูกกล่าวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนั้น.