เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับนักบินและบริษัทสายการบินเวียดนามโผล่อีก 2 กรณี หลังข่าว "นักบินหลับยาว" เหนือน่านฟ้ายุโรปตะวันออก ถูกสื่อทางการเวียดนามออกตีแผ่อึกทึกครึกโครมในช่วงวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับบริหารของบริษัทสายการบินดังกล่าว ได้พยายามออกกล่าวแก้
กรณีล่าสุด "นายห่ง" นักบินอีกคนหนึ่งของเวียดนามแอร์ไลน์ ถูกจับกุมในสิงคโปร์เมื่อต้นเดือน มิ.ย.นี้ ในข้อหาล้อเลียน และล่วงละเมิดสตรีอิสลามซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมคนหนึ่ง บนเที่ยวบินไปยังประเทศยังสิงคโปร์ นักบินถูกเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ยึดหนังสือเดินทางเอาไว้ แต่ก็สามารถเดินทางออกจากประเทศนั้นได้ โดยใช้หนังสือเดินทางอีกเล่มหนึ่ง
เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่นักบินเวียดนามคนนี้ถูกจับในต้นเดือน มิ.ย.นี้ เมื่อเขาได้เดินทางกลับไปยังประเทศนั้นอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม นายเลืองเท้ฟุก (Luong The Phuc) รองอำนวยการบริษัทสายการบินเวียดนามกล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ตในสัดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายห่งนักบินคนดังกล่าวถูกศาลสิงคโปร์สั่งให้ปล่อยตัวแล้ว โดยระบุเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับความเข้าใจผิดกัน
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนยายฟอง (Saigon Gia Phong) หรือ "ไซ่ง่อนปลดแอก" รายงานว่า นักบินเวียดนามอีกคนหนึ่งถูกจับกุมในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังถูกตรวจพบเงินสดในกระเป๋าถือเป็นจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ อันเป็นจำนวนที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้นำติดตัวเข้าประเทศนั้นได้
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวรายงานเรื่องนี้ในฉบับวันเสาร์ (10 มิ.ย.) โดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดวันที่ 3 มิ.ย.
อย่างไรก็ตามนายเหวียนเติ่นเจิน (Ngutyen Tan Chan) โฆษกของสายการบินกล่าวกับ "ไซ่ง่อนยายฟอง" ว่า ตนเองไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งสองเหตุการณ์นี้ยังตกเป็นข่าวในขณะที่สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า นักบินของเวียดนามแอร์ไลน์ได้ "นอนหลับยาว" ในเที่ยวบินตรงกรุงฮานอย-นครแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี ขาดการติดต่อสื่อสารกับหอควบคุมการบินเป็นเวลานาน 65 นาที ขณะบินในน่านฟ้าของสาธารณรัฐยูเครน โปแลนด์ จนกระทั่งเข้าน่านฟ้าของสาธารณรัฐเช็ค ทำให้ประเทศนั้นต้องส่งเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศจำนวน 2 ลำบินขึ้นไปประกบ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "เตื่อยแจ๋" (Tuoi Tre) หอควบคุมการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปราก (Prague) ใช้เวลาติดต่อกับนักบินทางวิทยุถึง 25 นาที แต่ไม่มีเสียงตอบรับ และเมื่อมีการส่งเครื่องบินรบขึ้นประกบเท่านั้น จึงสามารถติดต่อกับนักบินของเวียดนามจึงเปิดระบบสื่อสารอีกครั้ง
เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเป็นแบบโบอิง 777-200ER บินสู่เยอรมนีพร้อมผู้โดยสารราว 200 คน เหตุเกิดวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างนั้นนักบินได้ใช้ระบบการบินอัตโนมัติแทนนักบิน
แต่รองผู้อำนวยการสายการบินเวียดนามกล่าวว่า นักบินไม่ได้หลับ แต่บกพร่องในหน้าที่เนื่องจากไม่เปิดสัญญาณข่ายการสื่อสาร เป็นการกระทำผิดกฎข้อบังคับการบิน ถูกยึดใบอนุญาตและถูกส่งไปฝีกอบรมเพิ่มเติมแล้ว ก่อนที่จะให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่อีก
ส่วนนายโด๋ดิ่งนิง (Do Dinh Ninh) หัวหน้าฝ่ายจัดการบริหารเที่ยวบินขององค์การการบินเวียดนาม (VCAA) กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นกับสายการบินเวียดนาม แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศ
นายนิงกล่าวต่อไปว่า หอควบคุมการบินเวียดนามเองก็เคยเจอกรณีคล้ายๆ กันนี้บ่อยๆ กับสายการบินของต่างประเทศที่บินเข้าเวียดนาม
สายการบินแห่งชาติเวียดนามกำลังถูกโจมตีอย่างหนัก เกี่ยวกับปัญหาคอร์รับชั่นการจัดซื้อ/เช่าเครื่องบินและเครื่องยนต์ ปัญหาการเล่นพรรคเล่นพวก ลูกท่านหลานเธอและการไม่ไปสู้คดีฟ้องร้องในกรุงโรม ประเทศอิตาลี
รัฐสภาเวียดนามมีกำหนดจะเปิดอภิปรายซักฟอกผู้บริการสายการบินและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ในสัปดาห์นี้.