เครื่องบินโดยสารสายการบินเวียดนาม เที่ยวบิน VN545 ขาดการติดต่อกับหอควบคุมภาคพื้นดินเป็นเวลาถึง 1 ชั่วโมง ขณะบินอยู่ในน่านฟ้าของ 3 ประเทศกลุ่มยุโรปตะวันออก ระหว่างการบินตรงเส้นทางกรุงฮานอย-นครแฟร็งก์เฟิร์ต เหตุเกิดตั้งในช่วงกลางเดือน เม.ย. แต่ปิดเงียบจนกระทั่งข่าวปูดออกมาในสัปดาห์นี้
ผลการสอบสวนได้พบว่า นักบินกับผู้ช่วยซึ่งเป็นชาวเวียดนามทั้ง 2 คน นอนหลับเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จนกระทั่งบินเข้าน่านฟ้าของสาธารณรัฐเช็ค และเมื่อไม่สามารถติดต่อกับเครื่องโบอิง 777 เวียดนามแอร์ไลน์ได้ กองทัพอากาศสาธารณรัฐเช็คจึงได้ส่งเครื่องบินขับไล่จำนวน 2 ลำขึ้นประกบ เพื่อบังคับให้เครื่องบินโดยสารเที่ยวบินดังกล่าวลงจอดที่ท่าอากาศยานแห่งหนึ่ง
เหตุเกิดในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งเครื่องบินของเวียดนามขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินที่ประเทศสาธารณรัฐยูเครน บินผ่านประเทศโปแลนด์ จนถึงสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งหอบังคับการบินที่ท่าอากาศกรุงปราก (Prague) ได้พยายามติดต่อทางวิทยุกับเครื่องบินโดยสารนานถึง 25 นาที โดยที่ไม่มีเสียงตอบรับ ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ "คนงาน" (Nguoi Lao Dong) ที่อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าว
เครื่องบินรบของเช็คจำนวน 2 ลำ ได้บังคับให้เครื่องโบอิง 777 เวียดนามแอร์ไลนส์ลงจอดที่ท่าอากาศยานแห่งหนึ่ง แต่แหล่งข่าวเปิดเผยว่านักบินกับผู้ช่วยนักบินได้ “ตื่น” ขึ้นทันเวลา และ เริ่มสื่อสารกับภายนอก
แหล่งข่าวยังกล่าวว่า นักบินชาวเวียดนามทั้งสองคน นอนหลับเป็นเวลา 1 ชั่วโมงกับ 5 นาที โดยเริ่มนับตั้งแต่นาทีที่หอบังคับการบินสาธารณรัฐยูเครนไม่สามารถติดต่อได้ โดยใช้เครื่องควบคุมการบินอัตโนมัติทำการบินแทน
ในกรณีใช้ระบบนำทางอัตโนมัติควบคุมการบินแทนนักบินนี้ ถ้าหากเครื่องโบอิง 777 เกิดพลัดหลง ไม่ได้บินตามพิกัดความสูง หรือไม่ไปตามทิศทางที่เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ เครื่องบินลำดังกล่าวก็อาจจะถูกประเทศเจ้าของน่านฟ้ายิงตก พร้อมกับชีวิตของผู้โดยสารกว่า 200 คน
เจ้าหน้าที่ของเวียดนามแอร์ไลน์กล่าวว่า นักบินไม่มีทางที่จะได้หลับยาวถึงขนาดนั้น เพราะมีข้อปฏิบัติอยู่ว่า พนักงานบริการบนเครื่อง หรือ แอร์โฮสเตส จะต้องเข้าไปเสิร์ฟอาหารหรือเครื่องดื่มให้แก่นักบินทุกๆ 15 นาที ส่วนนักบินได้อธิบายว่าไม่สามารถติดต่อกับภาคพื้นดินได้เนื่องจากลืมเปลี่ยนความถี่วิทยุสื่อสาร เรื่องนี้ทางการเจ้าของประเทศได้ขอคำอธิบายที่ชัดเจนจากบริษัทสายการบินเวียดนามแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายเหวียนซวนเหี่ยน (Nguyen Xuan Hien) ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทสายการบินเวียดนามแถลงในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ว่า ในช่วงนั้นนักบินไม่ได้หลับ และได้พยายามติดต่อกับหอบังคับการบินของประเทศต่างๆ เป็นระยะ แต่ติดต่อไม่ได้ และในขณะนี้นักบินทั้งสองถูกส่งไปฝึกอบรมและยังไม่ได้บินอีก
นายเยวืองวันถาว (Duong Van Thao) หัวหน้าแผนกมาตรฐานความปลอดภัยการบินของ องค์การการบินเวียดนาม (VCAA) กล่าวในวันที่ 10 พ.ค.ว่าได้ขอคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเวียดนามแอร์ไลน์แล้ว เช่นกัน
ในปัจจุบันสายการบินแห่งชาติกำลังตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อในประเทศ อันเนื่องมาจากการจัดซื้อ-เช่าเครื่องบินโดยสารโบอิง 777-200ER เพื่อใช้บินระยะไกลสู่ปลายทางในยุโรป แต่กลับเป็นว่าสายการบินได้ซื้อเครื่องยนต์ของบริษัท แพร็ตต์แอนด์วิตนี่ย์ ที่สร้างมาเพื่อใช้กับการบินพิสัยใกล้-กลาง แทนที่จะซื้อเครื่องยนต์ของบริษัทเยเนอรัล อีเล็กทริค (General Electric) ที่ใช้บินพิสัยไกลถึงยุโรปได้
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การบินแห่งชาติเวียดนามได้หันไปเช่าเครื่องโบอิง 777 ที่ติดเครื่องยนต์ของ GE จากบริษัทนายหน้าเอกชน ในอัตราค่าเช่าที่แพงผิดปกติหลายเท่าตัว เพื่อนำไปใช้ในเส้นทางบินยุโรปแทน ซึ่งสื่อของเวียดนามกล่าวว่าเรื่องนี้ส่อเค้ามีการทุจริต
สายการบินแห่งชาติยังถูกโจมตีเรื่องการให้ทุนเรียนต่อต่างประเทศที่สงวนให้แก่บุตรหลานของผู้บริหารและพนักงานที่เรียนเก่ง มีความรู้ดี สามารถสอบชิงทุนได้ แต่ผู้บริหารเวียดนามแอร์ไลนส์แอบงุบงิบไปให้ทุนแก่บุตรหลานของบุคคลภายนอกซึ่งล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียง ปีละหลายทุนในช่วงกว่า 10 ปีมานี้
เมื่อถูกจับได้ไล่ทันแทนที่ผู้บริการระดับสูงจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก กลับแก้ปัญหาโดยการเรียกร้องเงินคืนจากผู้ปกครองของเด็กๆ เหล่านั้น
สายการบินเวียดนามยังถูกโจมตีเรื่อง การเล่นเส้นสายในการรับพนักงานที่ขาดคุณสมบัติเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ขณะเดียวกันก็ร้องโอดโอยว่าสายการบินแห่งชาติกำลังทำธุรกิจอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีการแข่งขันสูงมาก.