xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกยางพาราเวียดนามไปโลดจีนซื้อไม่อั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอดส่งออกยางพาราของเวียดนามพุ่งทะยานในช่วงต้นปี 2549 นี้ เนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีนและจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

กรุงเทพฯ - ราคาส่งออกยางเวียดนามยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการในตลาดโลกที่มีสูงในตอนนี้ และคาดว่าในช่วงเดือน มิ.ย. ราคาส่งออกยางของเวียดนาม อาจจะทะยานไปที่ 1,750 -2,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่เวียดนามกำลังเร่งส่งออกแบบน้ำขึ้นให้รีบตัก

ในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2549 เวียดนามส่งออกยางไปแล้ว 162,000 ตัน ทำเงินได้ 261 ล้านดอลลาร์ และเมื่อคิดเป็นช่วงเวลา 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ของปี ทั้งปริมาณและรายได้จากการส่งออกยางยังคงพุ่งขึ้นต่อไป โดยมีการส่งออกยางไปแล้วทั้งหมด 221,000 ตัน ทำรายได้ 376 ล้านดอลลาร์ เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยในด้านปริมาณและมูลค่า เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา ราคายางในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ แต่ก็สูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2548 อยู่ถึง 33% โดยในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.- เม.ย.) ของปี 2549 นี้ ราคาส่งออกอยู่ที่ประมาณ 1,559 ดอลลาร์ต่อตัน เป็นราคาที่เพิ่มขึ้น 42.13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา 4 เดือนแรกของปี 2548

ตัวเลขสถิติของกระทรวงการค้าเวียดนาม แสดงให้เห็นว่า ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ทางเหนือ คือ จีน เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยางพาราของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด โดยจีนมีความต้องการที่ 300-400 ตันต่อวัน การส่งออกผ่านทางด่านชายแดนม้งก๊าย (Mong Cai) จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) ทางภาคเหนือของประเทศ

ผู้ส่งออกยางท้องถิ่นได้ประเมินมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศจีนว่า ในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2549 นี้เวียดนามส่งยางออกไปจีนทั้งหมด 69,678 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 112 ล้านดอลลาร์ ทำให้คาดว่ามูลค่าจากการส่งออกยางไปประเทศจีนทั้งปีนี้ทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์

เกาหลีใต้ เยอรมนี และไต้หวัน ต่างเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ของอุตสาหกรรมยางเวียดนามเช่นกัน

เวียดนามกำลังเป็นผู้ผลิตยางพาราที่มีบทบาทสำคัญอีกรายหนึ่งในตลาดยางของโลก บริษัทต่างชาติหลายแห่งได้เข้าไปลงทุนทำสวนยางในประเทศนี้ ในขณะที่เวียดนามเองก็ออกลงทุนปลูกยางในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม บริษัทอุตสาหกรรมยางคอสซาน (Kossan) จากมาเลเซีย ได้วางแผนที่จะเข้าลงทุนในเวียดนาม ภายในสิ้นปี 2549 นี้

คอสซานเป็นบริษัทผู้ผลิตยางใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีจุดมุ่งหมายที่ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนยางสำหรับรถยนต์ ขึ้นในเวียดนาม เนื่องจากค่าจ้างแรงงานต่ำ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการลงทุนที่เหมาะสม

เมื่อต้นปีที่แล้วบริษัท Viet Nam-Laos Rubber Joint-Stock Company ได้เริ่มดำเนินโครงการปลูกในเนื้อที่ 10,000 เฮกตาร์ (65,000 ไร่) ในแขวงจำปาสักทางตอนใต้ของ สปป.ลาว ด้วยเงินลงทุนตลอดโครงการ 6 ปี ถึง 30 ล้านดอลลาร์

ส่วนนักลงทุนจากจีนก็ได้เข้าลงทุนปลูกยางในภาคเหนือของ สปป.ลาว เช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นรูปแบบของเกษตรพันธะสัญญา (Contract Farming Agreement) กับเกษตรกรชาวลาว ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน.
กำลังโหลดความคิดเห็น