ลาวไฟเขียว 'เอ็กโซติสซิโม' ทำธุรกิจทัวร์อีกราย

กรุงเทพฯ- การท่องเที่ยวลาวได้อนุญาตให้บริษัทเอ็กโซติสซิโม (Exotissimo) ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวค่ายยุโรปอีกแห่งหนึ่งเข้าลงทุนร่วมกับบริษัทเอกชนของลาว ก่อตั้งบริษัทนำเที่ยวเพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้าท่องเที่ยวใน สปป.ลาว ให้สะดวกและเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มบริษัทโรงแรม-ท่องเที่ยวและการบินขนาดใหญ่นี้มีสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก

นางดวงมาลา พมมะวง ผู้อำนวยการบริษัทเอ็กโซติสซิโมลาว กล่าวว่า ก่อนหน้าที่รัฐบาลลาวไม่อนุญาตให้นักลงทุนต่างประเทศเข้าลงทุนร่วมกับนักลงทุนลาวในด้านการท่องเที่ยวอีกเลย ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศสามารถเข้ามาเปิดกิจการในลาว โดยได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการวางแผน และการลงทุนลาวเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นการรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.)

หลายปีที่ผ่านมารัฐบาล สปป.ลาว ได้อนุญาตให้บริษัทดีทเฮล์มเทรฟเวล ประเทศไทย (Diethelm Travel Thailand) เพียงแห่งเดียว ทำหน้าที่ในการจัดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเข้าสู่ลาว บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทลูกของ Diethelm Keller Holding ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แห่งสวิตเซอร์แลนด์

ต่อมาดีทเฮล์มเทรฟเวลได้จัดตั้งบริษัทดีทเฮล์มเทรฟเวล ลาว จำกัด (Diethelm Travel Laos Co Ltd) ขึ้นโดยเปิดสำนักงานที่ถนนเสดถาทิลาดในนครหลวงเวียงจันทน์

นักลงทุนต่างประเทศที่ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเอ็กโซติสซิโม คือ นายเอริค เมอร์ลิน (Eric Merlin) ซึ่งเป็นประธานและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็กโซติสซิโม ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครโฮจิมินห์ ภาคใต้ของเวียดนาม และมีสาขาตั้งอยู่ในประเทศพม่า ไทย กัมพูชา ลาว รวมทั้งในยุโรป อาทิเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกาเหนือด้วย

นางดวงดาลา กล่าวว่าเอกโซติสซิโมลาวจะเน้นเรื่องการบริการลูกค้า การนำเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม ตามแหล่งโบราณสถาน โบราณวัตถุที่สำคัญ ส่งเสริมด้านเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนลูกค้า และ ติดต่อประสานงานกับบริษัทแม่ และสาขาอื่นๆ ทั่วภูมิภาคและทั่วโลก

บริษัทเอ็กโซติสซิโม เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2536 และนับจากนั้นก็กลายมาเป็นผู้นำด้านการให้บริการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมแล้วมีสำนักงานสาขามากกว่า 14 แห่ง พนักงานประจำอีกกว่า 320 คน ส่วนสาขาในลาวนั้นได้เริ่มเปิดในปี 2544 โดยมีสำนักงานอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงหลวงพระบาง และเมืองปากเซ ในแขวงจำปาสัก

การท่องเที่ยวนับเป็นภาคส่วนที่ช่วยสร้างรายได้อย่างมหาศาลเข้าประเทศ และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในลาวให้มีความก้าวหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงเน้นนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนา และเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในประเทศอย่างมากในปัจจุบัน และแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากที่สุดก็คือ เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง

ตามรายงานของสื่อทางการลาว ในปัจจุบันหลวงพระบางมีแหล่งท่องเที่ยว 109 แห่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม 50 แห่ง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ 50 แห่ง และประวัติศาสตร์ 9 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวมี 55 แห่ง ได้รับการพัฒนา และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้แล้ว และมีหลายแห่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่

ระยะที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งในตัวเมืองและอาณาบริเวณโดยรอบรวมหลายแห่ง ทั้งประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ รวมทั้งถ้ำและน้ำตก มีการขยายที่พักประเภทเกสต์เฮ้าส์ออกไปถึงเขตเมืองงอยและบ้านหนองเขียว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีลำน้ำอูไหลผ่าน และมีทิวทัศน์จากภูเขาหินปูนที่สลับซับซ้อน

ในระยะ 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2548-2549 (ต.ค.-มี.ค.) ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมแขวงหลวงพระบาง 146,097 คน เพิ่มขึ้นถึง 5.96% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วโดยเป็นชาวต่างประเทศ 84,470 คน โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวอังกฤษ ไทย ฝรั่งเศส และเยอรมัน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศรวมแล้วกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบันทั่วแขวงหลวงพระบางมีสำนักงานใหญ่บริษัทท่องเที่ยว 8 แห่ง และมีสาขาของบริษัทอื่นอีก 13 สาขา มีโรงแรม 18 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง บ้านพัก 153 หลัง และร้านอาหาร 104 หลัง ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว.