xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.เซ็นฉลุย 25 ปีซื้อไฟเขื่อนน้ำงึม 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กฟผ.เซ็นซื้อกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนน้ำงึม 2 เป็นกระแสไฟฟ้าหลักประมาณ 2,218 กิกะวัตต์ และ กระแสไฟฟ้าสำรองอีก 92 กิกะวัตต์ต่อปี ด้วยราคาประมาณ 1.99 บาทต่อหน่วย

ผู้จัดการรายวัน- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลงนามในสัญญาซื้อกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึม 2 ของลาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ก็ได้เซ็นสัญญารับเหมาก่อสร้างเขื่อนมูลค่า 31,000 ล้านบาท และ ธนาคารพาณิชย์ของไทยจำนวน 3 แห่งร่วมกันปล่อยกู้ในโครงการที่ฝ่ายลาวกล่าวว่าเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

การเซ็นสัญญาทั้ง 3 ฉบับจัดขึ้นในค่ำวันศุกร์ (26 พ.ค.) ที่ผ่านมาที่โรงแรมดอนจันทน์พาเลส นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งประกอบด้วยสัญญาซื้อ-ขายกระแสไฟฟ้าระหว่าง กฟผ. กับบริษัทเซ้าธ์อีสต์ เอเชีย เอ็นเนอร์จี (สาขาเวียงจันทน์) ที่มีกลุ่ม ช.การช่างถือหุ้นใหญ่ สัญญาการสนับสนุนทางการเงินระหว่างบริษัทเซ้าธ์อีสต์เอเชีย เอ็นเนอร์จีฯ กับธนาคารพาณิชย์ของไทยจำนวน 3 แห่ง คือ ธ.กรุงไทย ธ.ทหารไทย และ ธ.นครหลวงไทย เป็นเงินประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาฉบับที่ 3 เป็นสัญญาการรับเหมาก่อสร้างระหว่างบริษัทเซ้าธ์อีสต์เอเชียฯ (SEAN) กับ บริษัท ช.การช่าง (ลาว) เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีประกอบด้วยนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะกรรมการแผนการและการลงทุน สปป.ลาว กับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการลาว

โครงการเขื่อนน้ำงึม 2 มีมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,600 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐบาล สปป.ลาวกับ บริษัทเซ้าธ์อีสต์เอเชียฯ โรงไฟฟ้ามีกำลังติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2,300 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยผู้ลงทุนจะดำเนินการโครงการนี้เป็นเวลา 32.5 ปี รวมทั้งระยะเวลาก่อสร้าง และระยะเวลาทดลองเดินเครื่องด้วย

การสำรวจและศึกษาความเป็นไปได้โครงการเขื่อนน้ำงึม 2 ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2529 แต่การก่อสร้างยืดเยื้อมานานหลายปี ก่อนจะหาผู้ซื้อกระแสไฟฟ้าได้ โดยรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ได้ดำเนินการเรื่องนี้กับ กฟผ. มาตั้งแต่ปี 2539 สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล) อ้างคำกล่าวของนายอ่อนเนื้อ พมมะจัน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรมของลาว

ตามข้อตกลงดังกล่าว กฟผ.จะซื้อกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนน้ำงึม 2 ซึ่งประกอบด้วยกระแสไฟฟ้าหลักประมาณ 2,218 กิกะวัตต์ และ กระแสไฟฟ้าสำรองอีก 92 กิกะวัตต์ต่อปี ตลอดระยะเวลาการสัมปทาน 25 ปี โดยจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า ด้วยราคาประมาณ 1.99 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ "เวียงจันทน์ใหม่"

การก่อสร้างจะใช้ 5 ปี และจะมีระยะเวลาทดลองระบบของโรงไฟฟ้าพลังน้ำอีก 2 ปีกับ 6 เดือน กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อนน้ำงึม 2 ในแขวงเวียงจันทน์ จะได้รับการเชื่อมต่อเข้ากับระบบไฟฟ้าขนาด 500 กิโลโวลต์ของ กฟผ.ที่สถานีไฟฟ้าอุดรธานี 3 รวมความยาวของสายส่งไฟฟ้าในฝั่งไทย 80 กิโลเมตร ในเขตลาวอีกประมาณ 107 กิโลเมตร "เวียงจันทน์ใหม่" กล่าว

สื่อของทางการลาวกล่าวอีกว่า ลักษณะพิเศษของการลงทุนโครงการนี้ก็คือ บริษัทถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นบริษัทของลาว โดยใช้ทุนจากสถาบันการเงินของไทย และ ใช้บริษัทก่อสร้างจากประเทศไทยและลาว ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์จากโครงการนี้เกือบทั้งหมดจะตกอยู่ในสองประเทศ คือ สปป.ลาวกับไทย

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ของไทยถือหุ้น 28.5% ในบริษัทเซ้าธ์อีสต์เอเชีย รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวถืออีก 25% ผู้ถือหุ้นที่เหลือประกอบด้วย บริษัทโรงไฟฟ้าราชบุรีจำกัด (มหาชน) คือ 25% บริษัททางด่วนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) ถือ 12.5%

บริษัทชลภาคดีเวลล็อปเมนต์จำกัด กับบริษัทพีทีการชลประทานและก่อสร้าง ถือฝ่ายละ 4% และ บริษัท TEAM Consulting Engineering ad Development ถืออีก 1% ที่เหลือ

เขื่อนไฟฟ้าน้ำงึม 2 เป็นหนึ่งใน 4 เขื่อนที่อยู่ในขั้นตอนเริ่มดำเนินการก่อสร้าง และเป็น 1 ในเขื่อนจำนวน 25 แห่งที่อยู่ในโครงการก่อสร้างตลอด 10 ปีข้างหน้า ซึ่งในนั้นส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้ และการทำรายงานศึกษาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ

ในปัจจุบันทางการลาวกำลังก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าอื่นๆ อีก 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนน้ำเทิน 2 ในแขวงคำม่วน เขื่อนเซเสด 2 ในแขวงสาละวัน ในภาคกลาง กับเขื่อนเซกะหมาน 3 ในแขวงเซกอง ทางตอนใต้สุดของประเทศ ซึ่งทั้งหมดเมื่อรวมกับเขื่อนน้ำงึม 2 จะมีกำลังติดตั้งกว่า 2,000 เมกะวัตต์

สปป.ลาว ยังมีแผนที่จะก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าน้ำงึม 3 กั้นลำน้ำสายเดียวกันในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งขั้นตอนการสำรวจศึกษาดำเนินการไปเรียบร้อยและพร้อมที่จะลงมือก่อสร้าง และเขื่อนน้ำงึม 4 ในแขวงเซียงขวางเพิ่งผ่านขั้นตอนการสำรวจในขั้นแรก ทางการลาวอยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้ซื้อกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนทั้งสองแห่งนี้

รมว.กระทรวงอุตสาหกรรมลาวกล่าวว่า รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าทั้งหมด 29 แห่งภายในปี 2563 ซึ่งจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำเกือบทั้งหมด มีเพียง 2 แห่งที่เป็นโรงไฟฟ้า พลังความร้อนจากถ่านหิน และในปีนั้นคาดว่าทั่วทั้งประเทศจะมีกำลังติดตั้งผลิตไฟฟ้ากว่า 8,600 เมกะวัตต์ ตามแผนการที่จะทำให้ สปป.ลาวเป็น "แบตเตอรี่แห่งภูมิภาค"

ไม่เฉพาะแต่นักลงทุนจากไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจเข้าลงทุนด้านการพลังงานใน สปป.ลาว ปัจจุบันยังมีนักลงทุนจากจีน รัสเซีย เวียดนามและมาเลเซีย ได้รับอนุญาตให้เข้าสำรวจความเป็นได้ของโครงการอื่นๆ สำหรับบริษัทจากเวียดนามกำลังลงมือก่อสร้างเขื่อนเซกะหมาน 3 เพื่อผลิตไฟฟ้าในลาวเพื่อส่งจำหน่ายให้แก่เวียดนาม

ตามรายงานของ ขปล. รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของลาวได้แสดงความหวังว่า รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าของ สปป.ลาวต่อไปในอนาคต เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ.
กำลังโหลดความคิดเห็น