ผู้จัดการรายวัน- เบียร์ลาวซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเบียร์ลาว (Lao Brewery Co) จำกัด ได้รับการตอบสนองที่ดีมากจากลูกค้าในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มนำสินค้าออกวางจำหน่าย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดนำเข้าครั้งแรกจำนวน 2 คอนเทนเนอร์ จำหน่ายเกือบหมดเกลี้ยง
"เบียร์ลาวขายดีมากครับ ยังไม่ถึง 2 เดือน 2 คอนเทนเนอร์เกือบหมดแล้ว" นายทรงพล เปี่ยมเมตตาวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และฝึกอบรม บริษัทลาวเบียร์อิมพอร์ตเตอร์จำกัด ผู้นำเข้าเบียร์ลาวแต่ผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างงานแสดงสินค้าอาหาร World of Food Asia 2006 ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ในชั้นต้นบริษัทดังกล่าวนำเข้าเฉพาะเลเกอร์เบียร์ (Lager Beer) ในขนาดบรรจุขวดเล็ก แบบแพ็คละ 6 ขาดเท่านั้น และเน้นจำหน่ายตามสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ (on premises sale) ตามย่านท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองหลวง จะยังไม่นำเข้าชนิดบรรจุขวดใหญ่และบรรจุกระป๋อง ส่วนไล้ท์เบียร์ของเบียร์ลาว ในปัจจุบันยังผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการในตลาดลาวเอง นายทรงพลกล่าว
"เราเจรจากับย่านถนนข้าวสารและซอยนานา เพราะนักท่องเที่ยว (ต่างชาติ) รู้จัก เบียร์ลาวดี หลายคนถามหา"
ปัญหาสำคัญในขณะนี้ก็คือเรื่องของราคา เนื่องจากสินค้าประเภทเบียร์ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงมาก ซึ่งผู้รับภาระก็คือผู้บริโภค แต่ราคาจำหน่ายจะถูกลงเมื่อแผนการเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มีผลบังคับใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้านายทรงพลกล่าว
เมื่อปีที่แล้วบริษัทเบียร์ลาวจำกัด (Lao Brewery Co) ได้ทำการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมเครื่องหมายการค้า จากรูปหัวเสือดำเป็นหัวเสือโคร่งสีเหลืองทอง พร้อมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ผลิต "ไล้ท์เบียร์" แอลกอฮอล์ต่ำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภค เตรียมตัวขยายการส่งออก และยังได้เริ่มผลิตเบียร์ยี่ห้อคาร์ลสเบอร์ก ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัทผู้ผลิตเบียร์จากเดนมาร์ก
นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงคุณภาพของเบียร์ดำ (Stout) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ให้มีรสชาตินุ่มนวล มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการลาว
เบียร์ลาวประกาศในเดือน ก.ย.2548 ตั้งเป้าขยายการส่งออกสู่ตลาดโลกอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความตกลงตลาดเสรีระหว่างลาวกับประเทศอาเซียนเริ่มมีผลบังคับใช้ใน ปี 2551 นี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของ สปป.ลาว สามารถเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในปี 2516 หรือ เพียง 2 ปี ก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง บริษัทฯ สามารถผลิตเบียร์ได้เพียงปีละ 3 ล้านลิตรเท่านั้น อีก 30 ปีต่อมา การผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านลิตรต่อปี และ เพิ่มขึ้นเป็นปีละ120 ล้านลิตรมาตั้งแต่ปลายปี 2548 โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการส่งออกสู่ตลาดโลก
นอกจากจะเป็นเบียร์ยอดนิยมในหมู่ประชาชนลาว สามารถครองตลาดในประเทศได้ถึง 99% ปัจจุบันยังมีวางจำหน่ายอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้ง ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐฯ เวียดนาม และ ไทยเป็นตลาดล่าสุด.