xs
xsm
sm
md
lg

พม่าสานฝันทำ 'ลานสกี-รีสอร์ต' ในภาคเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีมงานถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง "Mystery of Snow" ถ่ายภาพร่วมกันในสถานที่ถ่ายทำบนภูเขาพนกานราซี ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ในภาคเหนือของประเทศผู้สร้างคาดหวังที่จะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายทั่วโลก เพื่อช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวดินแดนดังกล่าว

ในบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวยามค่ำคืนในกรุงย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงของพม่า ทันตแพทย์ปายโซ (Paing Soe) ฝันว่าตัวเองนั้นกำลังเล่นสกีอยู่ท่ามกลางปุยหิมะที่ทับถมกันตามแนวเขา แต่สถานที่ในฝันของเขานั้น ไม่ใช่เทือกเขาแอลป์ ในยุโรป หรือเทือกเขาร็อคกี้ ในอเมริกา แต่แท้จริงนั้นอยู่ในแนวเขาทางภาคเหนือของพม่า

แต่ในความเป็นจริง ภูเขาลูกนั้นยังยากต่อการเข้าถึง เนื่องจากอยู่ในอาณาเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฏในรัฐกะฉิ่น เหนือสุดของประเทศ

หมอฟันวัย 62 ปี ที่คิดถึงการเล่นสกีในพม่า ทราบเป็นอย่างดีว่าภูเขาลูกนั้นไม่ใช่สถานที่ที่ทุกคนจะเข้าไปได้ แต่ด้วยจินตนาการเพียงเล็กน้อย บวกกับการลงทุนจำนวนมหาศาล เขาเชื่อว่า ยอดเขาหิมาลัยที่เต็มไปด้วยหิมะในดินแดนพม่า จะสามารถเปลี่ยนเป็น "สกีรีสอร์ต" เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ถึงแม้ว่าประเทศพม่า จะเป็นหนึ่งในดินแดนที่เร้นลับ และปลีกตัวออกจากประเทศอื่นๆ ในโลกก็ตาม
<CENTER><FONT color=#3300ff> ผู้กำกับซินยอหม่องหม่อง ยืนข้างโปสเตอร์หนังที่ถ่ายทำบนภูเขาหิมะเพียงแห่งเดียวในพม่า</FONT></CENTER>
"ถ้าเราพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ ให้สามารถเข้ามาเล่นสกีได้ อย่างน้อยนักท่องเที่ยวและนักสกีก็จะเดินทางเข้ามา" นาย ท.พ.ปายโซ กล่าว

แนวความคิดในการสร้างสกีรีสอร์ตของเขานั้น ตัวรีสอร์ตจะอยู่ในระดับความสูง 11,500 ฟุต (3,500 เมตร) ของแนวเขาพนกานราซี (Phon Kan Razi) ในกะฉิ่น แหล่งซึ่งคาดว่าในอนาคตจะสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกเล็กน้อย โดยเริ่มจากทางหลวงสายใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้

ถึงแม้ว่า เขาจะเคยเดินทางไปปีนเขาบนภูเขาหลายๆ ลูกทางภาคเหนือของประเทศ แต่ก็ยังไม่เคยได้ลองเล่นสกีบนภูเขาลูกนี้เลย

ท.พ.ปายโซ ได้ก่อตั้ง สมาพันธ์เดินป่าและปีนเขาแห่งพม่า (Myanmar Hiking and Mountaineering Federation) ขึ้นมา โดยตัวเองเป็นประธานของสมาพันธ์ ที่มีสมาชิกกว่า 200 คน ทุกคนต่างเคยปีนภูหลายลูกในภาคเหนือของประเทศ และสามารถเป็นมัคคุเทศก์ในการปีนเขาได้ด้วย การจะเข้าร่วมสมาพันธ์ได้นั้น สมาชิกต้องมีประสบการณ์การปีนเขาในความสูงอย่างน้อย 10,000 ฟุต และ เดินทางไกลด้วยเท้ากลับยังฐานที่พักเป็นระยะทาง 100 ไมล์

"นักปีนเขาของเราพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หากพวกเขาต้องการ" หมอฟันผู้มุ่งมั่นกล่าว

ถึงแม้ว่าพื้นทางภาคเหนือจะมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ และส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมชนกลุ่มน้อยกะฉิ่นที่มีกองกำลังอาวุธของตนเอง แต่ ท.พ.ปายโซ ก็บอกว่า การต่อสู้ส่วนใหญ่ระหว่างชนกลุ่มน้อยนั้นจบลงแล้ว โดยได้ทำการสงบศึกมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน

แนวความคิดที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเล่นสกีหรือไปชมหิมะในพม่านั้น ได้เกิดขึ้นหลังจากนักสร้างภาพยนตร์ท้องถิ่นที่ชื่อ ซินยอหม่องหม่อง (Sin Yaw Maung Maung) ได้ไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Mystery of Snow" ในเขตเขาพนกานราซีในปี 2545 กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กลายเป็น "ไททานิค" ของพม่าในด้านรายได้

ซินยอหม่องหม่องได้นำคณะกว่า 300 คนเดินทางไปถ่ายทำยังเขาลูกนั้น ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้าง 165,000 ดอลลาร์สหรัฐ นับว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยมีในพม่า และได้นำออกฉายให้ประชาชนได้ชมไปทั่วประเทศ แถมยังเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเจ้าของรางวัลชนะเลิศในการประกวดเมื่อปีที่แล้ว

"เราต้องเผชิญกับความยากลำบากในการถ่ายทำมากมาย แต่ภาพยนตร์ก็ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมากเช่นกัน" ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่ไม่เคยได้เห็นหิมะมาก่อน จนกระทั่งได้เดินทางขึ้นไปถ่ายทำภาพยนตร์บนภูเขาแห่งนี้ กล่าวอย่างยินดี

"ผมตัดสินใจที่จะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายไปทั่วโลก เพื่อโปรโมทภูเขาลูกนี้ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของพม่า" ซินยอหม่องหม่องกล่าว

ผู้สร้างภาพยนตร์รายนี้ยังเล่าถึงความประทับใจอีกว่า เมื่อครั้งที่เขานำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปนำเสนอการท่องเที่ยวพม่า ในระหว่างการประชุมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประเทศมาเลเซีย ผู้คนที่ได้ดูภาพยนตร์ของเขาต่างรู้สึกประหลาดใจในฉากที่ฉายให้เห็นภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ

"นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการเดินทางมายังประเทศของเรา เพราะเกล็ดน้ำแข็งเหล่านั้น" ซินยอหม่องหม่องกล่าวติดตลก

แต่รัฐบาลทหารพม่ากลับไม่เห็นด้วยกับความคิดท่องเที่ยวนี้

"เราไม่มีแผนดำเนินการเพื่อการเล่นสกีในบริเวณนี้ ทางหลวงสายใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างไปยังพนกาน สร้างเพียงเพื่อพัฒนาการคมนาคมและการขนส่ง ให้กับชาวบ้านในท้องที่เท่านั้น" เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่ง ของกระทรวงการท่องเที่ยวพม่า กล่าว
<BR><FONT color=#3300ff> ใครก็ตามถ้าหากจะไปที่นั่น ก็อาจจะต้องใช้บริการจากกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ หรือต้องได้รับการยินยอมจากพวกเขาเหล่านี้</FONT></BR>
เจ้าหน้าที่คนเดิมยังได้กล่าวเพิ่มอีกว่า รัฐบาลนั้นเป็นกังวลในเรื่องของธรรมชาติที่อาจจะถูกทำลายลงได้ จากการพัฒนาสกีรีสอร์ตบนภูเขา
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลพม่าจะพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศอยู่เป็นระยะๆ แต่ในอีกทางหนึ่ง นางอองซานซูจี ที่เป็นผู้นำในการเรียกร้องประชาธิปไตย ได้ออกเรียกร้องต่อนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางมาเที่ยวประเทศพม่าจนกว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ถึงกระนั้นก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้าเรื่อยๆ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาพม่าเพียง 660,200 คน นำรายได้สู่ประเทศ 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เป็นรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว เทียบกับในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวถึง 11 ล้านคน

ในพม่านั้น รัฐบาลทหารพม่าควบคุมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่รอบบริเวณภูเขาพนกานราซี ได้ถูกจัดให้เป็นที่วนอุทธยานแห่งชาติ ยิ่งทำให้การเดินทางเข้าถึงภูเขาหิมะลูกนั้นยากขึ้นไปอีก

ตานดาร์อ่อง (Thandar Aung) พนักงานบริษัทท่องเที่ยวในพม่า ได้ให้ความเห็นต่อการพัฒนาสกีรีสอร์ตบนภูเขาว่า ปัญหาใหญ่ของการเที่ยวชมหิมะ คือพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังไม่ได้รับการพัฒนา

"ไม่มีอะไรน่าสนใจในพื้นที่แถบนั้นเลย ยกเว้นภูเขาน้ำแข็งนั่น แล้วจะมีนักท่องเที่ยวสักกี่คนที่สนใจจะเที่ยวชมหิมะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาพม่า ต่างต้องการจะไปชมเมืองพุกามกันมากกว่า เพราะมีสถานที่ที่น่าสนใจทั้งวัด และปราสาทโบราณให้ชมมากกว่าแถบภูเขาเสียอีก" ตานดาร์อ่องกล่าว

"โดยทั่วไปแล้ว เราไม่หวังที่จะไปเล่นสกีที่นั่นหรอก" พนักงานบริษัทท่องเที่ยวรายนี้กล่าวทิ้งท้าย.

(เรียบเรียงจากบทเขียนเรื่อง Doctor dreams of ski trails in Myanmar heat โดย Hla Hla Htay สำนักข่าวเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น