กรุงเทพฯ- เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายเจื่องเติ่นหาย (Truong Tan Hai) กรรมการตัดสินฟุตบอลเวียดนาม ซึ่งเป็นอดีตศูนย์หน้าของทีมสโมสรท่าเรือไซ่ง่อน หลังจากที่ตำรวจสอบสวนเข้าไปในเบื้องลึกกรณีรับสินบนอื้อฉาว ที่บั่นทอนชื่อเสียงและประสิทธิภาพของวงการฟุตบอลแห่งชาติในขณะนี้
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "เตื่อยแจ๋" (Tuoi Tre) นายหายได้รับเงินจำนวน 100 ล้านด่ง หรือประมาณ 6,000 ดอลลาร์จาก นายเหวียนหูทาง (Nguyen Hu Thang) ที่เคยเป็นโค้ชของทีมซงเลิม-เหงะอาน (Song Lam-Nghe An) ทีมสโมสรที่เป็นคู่แข่งของทีมท่าเรือไซ่ง่อน เพื่อช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอลวีลีค (V-League) 2543-2544 ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะมีเพื่อนร่วมทีมของนายหายอีกจำนวนหนึ่งรับส่วนแบ่งไปด้วย
รายงานก่อนหน้านี้แจ้งว่านายทาง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำกรุงฮานอย ได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า ตัวเขาได้จ่ายเงินให้กับบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลไป 8,000 ดอลลาร์ในฤดูการแข่งขันวีลีคปีนั้น
อย่างไรก็ตาม "เตื่อยแจ๋" รายงานว่านายฝ่ามฮวิ่งเติมลาง (Pham Huynh Tam Lang) อดีตโค้ชของทีมท่าเรือไซ่ง่อนได้ปฏิเสธเรื่องการรับสินบนจากโค้ชของทีมส่งนาม-เหงะอาน อย่างที่เจ้าพนักงานสอบสวนตั้งข้อสงสัย
วงการฟุตบอลเวียดนามปั่นป่วนอย่างหนักมาตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากตำรวจได้ตรวจพบกรณี "ล้มบอล" ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในประเทศฟิลิปปินส์ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ทำให้นักฟุตบอลทีมชาติถูกจับไป 4 คน รวมทั้งฟานวันเกวี๊ยน (Phan Van Quyen) อดีตศูนย์หน้าซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติ ซึ่งได้รับสินบนจากโต๊ะพนันฟุตบอลในเวียดนาม ให้ "ล้มบอล" ในนัดที่แข่งขันกับทีมชาติพม่า ซึ่งทีมเวียดนามชนะเพียง 1 ต่อ 0 ประตูเท่านั้น
การสอบสวนกรณีเดียวกันยังนำไปสู่การจับกุมโค้ชจำนวน 4 คน ทั้งหมดถูกไล่ออกจากตำแหน่งและในนั้น 1 คน ยังคงถูกคุมขัง
เจ้าหน้าที่วงการฟุตบอลกว่า 60 คนถูกสอบสวน ถูกจับกุม หลายคนยังคงถูกจำคุก ทั้งหมดเกี่ยวพันกับการล้มบอลหรือการรับสินบนจากการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติ หรือ วีลีค ในช่วง 3-4 ปีมานี้วงการฟุตบอลเวียดนามเฟื่องฟูอย่างสุดขีด ซึ่งนำไปสู่การพนันอย่างกว้างขวาง มีการตั้งโต๊ะพนันไปทั่วทั้งๆ ที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ปลายปีที่แล้วได้มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของกระทรวงคมนาคม หลังจากเจ้าหน้าที่พบว่ามีความสัมพันธ์กับโต๊ะพนันฟุตบอลในต่างประเทศ มีการโอนถ่ายเงินในธุรกิจนับล้านๆ ดอลลาร์ เรื่องกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวน.