หึ่งไม่หยุด ทุจริต สตง.-ปิโตรเวียดนาม

กรุงเทพฯ- กรณีทุจริตของรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินบานไปอีกขั้นหนึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีการตรวจพบว่าเขาได้พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนหนึ่ง เพื่อให้ยุติการการตรวจสอบกรณีก่อสร้างคลังเก็บก๊าซอันอื้อฉาว มูลค่ากว่า 2150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในภาคใต้ของประเทศ


โครงการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซถิหวาย (Thai Vai) ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) เป็นหนึ่งในกรณีคอร์รัปชั่นร้ายแรงที่สุดในบริษัทปิโตรเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐ ที่มีการจับกุมเจ้าหน้าที่และศาลได้ตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับกลางและระดับสูงของบริษัทไปหลายคน

การสอบสวนสืบสวนที่ลงลึกในรายละเอียดได้พบว่า นายเลืองกาวข่าย (Luong Cao Khai) รองผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเวียดนาม ได้พยายามเสนอเงินประมาณ 110 ล้านด่ง (หรือ 6,875 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ผู้บังคับบัญชาของตนเอง โดยขอให้ยุติการสอบสวนโครงการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซอื้อฉาว

นายข่ายเป็นรองผู้ว่า สตง.ฝ่ายการเศรษฐกิจ ถูกจับกุมเมื่อปลายปีที่แล้วหลังจากโครงการโรงเก็บก๊าซถิหวายแดงโร่ขึ้นมา เจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหาล่าสุด โดยระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวจ่ายให้เป็นค่ายากรักษาโรคที่เจ้าหน้าที่ สตง.ได้จัดหาไปให้กับเจ้าตัว

เจ้าพนักงานสอบสวนกล่าวว่า นายข่ายได้พยายามถึง 3 ครั้งหยิบยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้แก่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้นั้น ก่อนที่เขาจะรับเอาไว้และนำเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนังสือพิมพ์แถ่งเนียนอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในคณะกรรมการสอบสวน

ในปี 2545 นายข่ายเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ สตง. ทำการตรวจสอบโครงการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างท่าเรือถิหวาย ที่เวียดนามตั้งใจจะให้เป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์เพียงประมาณ 40 กิโลเมตร

โครงการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซ และท่อส่งก๊าซ เป็นการลงทุนของบริษัทปิโตรเวียดนาม แต่เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จได้พบว่าคลังก๊าซมูลค่า 151 ล้านดอลลาร์นั้นมีคุณภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน การสอบสวนทำให้พบว่ามีการทุจริตอย่างคึกโครม และประมาณกันว่ามีการยักยอกเงินจากโครงการนี้ไปกว่า 41.3 ล้านดอลลาร์

ถึงแม้จะพบการทุจริตอย่างใหญ่โตก็ตาม รองผู้ว่า สตง. ที่ควบคุมการสอบสวน กลับวินิจฉัยและเสนอให้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพียงแค่โทษปรับ และ ให้บริษัทปิโตรเวียดนามสอบสวนทางวินัยเอาผิดเจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง

ต่อมามีการเปิดโปงว่า รองผู้ว่า สตง. เป็นผู้ครองครองที่ดินผืนหนึ่งเป็นเนื้อที่ 6,000 ตารางเมตรใน เมืองบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่สำคัญของประเทศ โดยไม่สามารถอธิบายถึงที่มาที่ไปได้ นอกจากนั้นเจ้าพนักงานสอบสวนยังได้พบว่า รองผู้ว่า สต.ยังได้ "ขอร้อง" ให้เจ้าหน้าที่บริษัทปิโตรเวียดนาม ช่วยซ่อมและตกแต่งบ้านของเขาในกรุงฮานอยอีกด้วย

ผู้ช่วยของนายข่ายอีก 2 คน คือ บุ่ยซวยเบย (Bui Xuan Bay) กับเดื่องวันลึก (Duong Van Luc) ก็ถูกจับกุมเช่นเดียวกันและอยู่ระหว่างถูกคุมขัง สำหนับนายเบยถูกจับวันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว ฐานรับสินบนเป็นเงิน 27 ล้านด่ง (1,687 ดอลลาร์) เจ้าพนักงานสอบสวนยังพบว่า นายเบยได้ "เจรจา" เพื่อขอให้บุตรชายของเขาเข้าทำงานในบริษัทน้ำมันแห่งชาติอีกด้วย.