ผู้จัดการรายวัน- นายกรัฐมนตรีพม่า พล.อ.โซวิน ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน นายเวินเจียเป่าในวันอังคาร (14 ก.พ.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วัน และสองฝ่ายได้มีการลงนามในความตกด้านเศรษฐกิจการค้ารวม 8 ฉบับ ครอบคลุมด้านพลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเกษตร
ผู้นำจากพม่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากนายกรัฐมนตรีของจีนเมื่อเดินทางถึงกรุงปักกิ่ง สองผู้นำได้ทำการตรวจแถวกองเกียรติยศ ก่อนหน้านั้นบรรดาผู้นำทหารของพม่า โดย พล.อ.อาวุโสตานฉ่วยกับ รองพล.อ.อาวุโสหม่องเอ ได้ไปส่ง พล.อ.โซวิน ที่ท่าอากาศยานเมงกะลาโดงในกรุงย่างกุ้ง ซึ่งได้บ่งชี้ให้เห็นความสำคัญของการเยือนครั้งนี้
“จุดประสงค์ของข้าพเจ้าก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์รอบด้าน รวมทั้งกระชับมั่นความสัมพันธ์มิตรภาพที่เราได้ร่วมกันพัฒนาในช่วงหลายปีมานี้” พล.อ.ซิวนได้บอกกับเจ้าภาพ ในการพบหารือที่มหาศาลาประชาชน ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
อย่างไรก็ตามสองฝ่ายไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการหารือ มีการแจ้งแต่เพียงว่าฝ่ายจีนได้ตกลงให้การช่วยเหลือพม่าในการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งหนึ่ง และให้ตู้รถไฟแก่พม่าอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีการพูดถึงโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซขนาดใหญ่จากแหล่งนอกชายฝั่งรัฐยะไข่ (Rakhine) ไปยังมณฑลหยุนหนันของจีน ตามที่หลายฝ่ายคาดการ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของจีนและพม่าได้ร่วมกันลงนาม ในความตกลงด้านต่างๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการบิน ด้านเทคโนโลยีทางเศรษฐกิจ เงินกู้เพื่อซื้อปุ๋ย และการลงนามในบันทึกช่วยความจำเพื่อพัฒนา “ทางด่วนข้อมูล” ในพม่า
การค้ากับจีนเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดในขณะที่รัฐบาลทหารในกรุงย่างกุ้งถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากโลกตะวันตก ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป มูลค่าการค้าสองทางเมื่อปีที่แล้วพุ่งขึ้นถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นสถิติของฝ่ายจีน
“ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้ามีศักยภาพที่สูงยิ่ง เราจะได้พยายามต่อไปในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าของเรา” สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำแถลงของนายหลิวเจี่ยนเชา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันเดียวกัน
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่าการเยือนจีนของ พล.อ.โซวิน จะมีการหารือเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันดิบและก๊าซเชื่อมระหว่างสองประเทศด้วย ในขณะที่ฝ่ายพม่าหวังว่า การเยือนจะช่วยสร้างความโดดเด่นทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก
ถึงแม้ว่า พล.อ.โซวิน จะเคยเดินทางไปจีน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้เป็นการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลในเดือน ต.ค.2547 แทน พล.อ.ขิ่นยุ้นต์
อย่างไรก็ตามนายไจ๋คุน หัวหน้าฝ่ายงานวิจัยกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกแห่งสถาบันวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยุคใหม่แห่งชาติจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ “เจ่าเป้า” ในสิงคโปร์ว่า แม้การเยือนจีนของผู้นำพม่าจะมุ่งเจรจาวาระทางเศรษฐกิจมากกว่า แต่ประเมินจากภาพรวมแล้ว การเยือนมีนัยทางการเมืองมากกว่าด้านเศรษฐกิจ
จากมุมมองการเมือง การเยือนจีนของโซวินได้ส่งสารแก่ประชาคมโลก ว่าจีนซึ่งเป็นชาติใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียนั้น ให้ความสนใจแก่พม่ามาก และพม่าก็สามารถใช้จุดนี้ เป็นทุนรอนในการยกฐานะทางการเมืองและการเจรจาระหว่างประเทศได้
การที่จีนดำเนินความสัมพันธ์กับพม่า และกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนเวทีโลกนั้น ไจ๋คุนชี้ว่า จีนยืนยันในกาจุดยืนการไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น และคิดว่าการสร้างมิตรไมตรีกับพม่านั้น เหมาะสมดีแล้ว และจีนอาจเป็น ‘สะพาน’ เชื่อมพม่าเข้ากับประชาคมโลก
สำหรับวาระการหารือระหว่างการเยือน นายไจ๋คุนชี้ว่าวาระหลัก ได้แก่ เรื่องพลังงานและความมั่นคง พม่าจัดเป็นชาติที่มีแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติใหญ่เป็นอันดับสิบของโลก ความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติและพลังงานอื่นๆ ระหว่างจีนและพม่านั้น ยังมีช่องว่างอีกมาก
นายก่วนมู่เอกอัครราชทูตจีนประจำพม่าและนายถังไห่ทูตพาณิชย์จีนประจำพม่า กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า พม่าได้กลายเป็นตลาดรับเหมาโครงการต่างๆ ที่สำคัญของกลุ่มบริษัทจีน อาทิ เขื่อนผลิตไฟฟ้า สะพาน ท่าเรือและโรงงานต่างๆ เช่น โรงงานทำขนม โรงงานทอผ้า โรงงานกระดาษ เป็นต้น .
