กรุงเทพฯ- นายกรัฐมนตรีพม่า พล.อ.โซวิน ออกเดินทางถึงกรุงปักกิ่งตามกำหนดในวันอังคาร (14 ก.พ.) นี้ สำหรับการเยือนประเทศมหามิตรที่หาได้ยากยิ่ง ในท่ามกลางการกดดันจากประชาคมระหว่างประเทศให้ต้องเร่งปฏิรูปทางการเมือง และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในประเทศ ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลทหารในกรุงย่างกุ้งจะไม่สนใจและเอาใจใส่ต่อเสียงเรียกร้องต่างๆ
พล.อ.โซวินไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายที่ขอให้จีนช่วยกดดันพม่าให้ต้องเร่งปฏิรูปประชาธิปไตย ปล่อยตัวนางอ่องซานซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาติเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นแอลดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด ตลอดเวลา 16 ปีที่ผ่านมานางซูจีถูกกักบริเวณให้อยู่ในบ้านพักหลายครั้ง รวมเป็นเวลานานถึง 10 ปี
การออกเดินทางเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีพม่ายังมีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการเปิดเผยว่า ได้มีการสั่งยืดเวลาการกักบริเวณผู้ช่วยของนางซูจี ผู้นำระดับสูงของพรรคเอ็นแอลดีต่อไปอีก 1 ปี
คาดกันว่าผู้นำรัฐบาลพม่ากำลังจะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายจีนในแทบทุกประเด็น โดยจีนมองว่าสถานการณ์ในพม่าเป็นเรื่องภายในของพม่าเอง ที่จีนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซง
หลายปีมานี้ได้มีการจับกุมคุมขังผู้นำฝ่ายค้านหลายร้อยคน ซึ่งตามตัวเลขขององค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) นั้น ยังมีนักโทษการเมืองถูกคุมขังอยู่ในพม่ากว่า 1,000 คน หน่วยงานสิทธิมนุษยชนระหว่างเทศได้ออกรณรงค์ให้ทางการปล่อยตัว "นักโทษทางความคิด" เหล่านั้น
คณะปกครองฝ่ายทหารได้คว่ำผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2541 และ ไม่ยอมลงจากอำนาจ หลังจากพรรคสันนิบาติเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของนางซูจีได้รับชัยชนะอย่างท่วม อีกทั้งยังสั่งกักบริเวณนางซูจีกับผู้นำพรรคเอ็นแอลดีอีกหลายคน
จีนได้ให้การสนับสนุนพม่ามาโดยตลอด เป็นปากเป็นเสียงให้ในองค์การสหประชาชาติและบนเวทีระหว่างประเทศในโอกาสต่างๆ เนื่องจากจีนมีผลประโยชน์ด้านก๊าซและน้ำมันอย่างมหาศาลในพม่า และกำลังจะมีการสร้างท่อส่งก๊าซจากแหล่งนอกชายฝั่งรัฐยะไข่เข้าสู่มณฑลหยุนหนันของจีนด้วย
จีนได้ให้ความช่วยเหลือโครงการพัฒนาต่างๆ เป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี ตลอดยังมีแผนช่วยพม่าฟื้นฟูถนนยุทธศาสตร์สายสำคัญซึ่งจะทำให้จีนมีเส้นทางออกสู่มหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเบงกอล ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายนั้นมีมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
สหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพม่าติดต่อกันมาหลายปี และสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกข้อมติกดดันเกี่ยวกับพม่า รวมทั้งการให้ปล่อยตัวนางซูจีในทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย ซึ่งถ้าหากรัฐบาลทหารพม่าไม่ปฏิบัติตามข้อมติ ก็จะมีมาตรการลงโทษรุนแรง
ความเคลื่อนไหวคว่ำบาตรพม่าของสหรัฐฯ กับโลกตะวันตกกำลังได้รับการทัดทานจากจีนกับรัสเซีย สองประเทศสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นมิตรที่เหนียวแน่นกับรัฐบาลทหารพม่า
ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีพม่าและไทยร่วมเป็นสมาชิกอยู่ด้วยก็ได้ใช้ท่าทีที่เป็นมิตรมากกว่า โดยประกาศใช้นโยบายปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์แทนการคว่ำบาตร แต่อาเซียนก็เริ่มแสดงความหนักใจมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการไม่ยอมลดราวาศอกของกลุ่มปกครองทหารในกรุงย่างกุ้ง
ในปี 2549 นี้พม่ายินยอมไม่รับตำแหน่งประเทศประธานคณะกรรมการประจำของกลุ่มอาเซียนสืบต่อจากลาว ซึ่งเป็นการขึ้นทำหน้าที่ประธานของกลุ่มโดยใช้ระบบหมุนเวียนตามตัวอักษรชื่อประเทศ ทำให้มาเลเซียที่อยู่ในอันดับถัดไปเข้ารับหน้าที่แทน
นายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.การต่างประเทศของไทยกล่าวในกรุงพนมเปญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรียกร้องให้พม่ารีบตัดสินใจให้ผู้แทนของอาเซียนไปเยือนเพื่อศึกษาความคืบหน้าการปฏิรูปประชาธิปไตยในประเทศ ทั้งนี้เป็นไปตามความตกลงระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว
พล.อ.โซวิน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือน ต.ค.2547 แทน พล.อ.ขิ่นยุ้นต์ ที่ถูกคณะปกครองทหารด้วยกันโค่นลงจากอำนาจ สำหรับ พล.อ.โซวินนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในการเหตุการณ์ปราบปรามนองเลือด กลุ่มผู้เดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2531
นักวิเคราะห์ต่างมองว่า นับวันกลุ่มปกครองทหารยิ่งหวาดกลัวและออกอาการวิตกที่จะสูญเสียอำนาจ และมีความวิตกว่าสักวันหนึ่งอาจจะถูกสหรัฐฯ ใช้กำลังเข้าโจมตีเพื่อโค่นล้ม เช่นเดียวกันกับกรณีประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ในอิรัก
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับจีนได้พัฒนาไปก้าวไกลในช่วงไม่กี่มานี้ ผู้ที่เดินทางเข้าไปในภาคเหนือของพม่าเมื่อไม่นานมานี้ได้พบเห็นการปรากฏตัวของชาวจีนจำนวนมากมาย รวมทั้งบริษัทห้างร้าน และที่ตั้งผลประโยชน์ของจีนในประเทศนี้
"จีนไม่ต้องการเห็นวิกฤตการณ์ทางการเมืองในพม่า เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เสรีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะเห็นการแทรกแซงจากต่างประเทศ" นายเซ็งหลีจุ้น เจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์กล่าว.