กรุงเทพฯ- การทดลองปลูกข้าวเจ้าเมล็ดยาวพันธุ์ฉงชิงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนในลาวได้ผลเกินความคาดหมาย ทำให้เกิดความหวังเกี่ยวกับการปลูกข้าวเพื่อส่งออก ในขณะที่การวิจัยพันธุ์ข้าวเพื่อคัดพันธุ์ที่มีคุณภาพดียังคงดำเนินต่อไป ควบคู่กับการเกษตรอินทรีย์ สร้างผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ อันเป็นจุดขายสำคัญของประเทศนี้
พันธุ์ข้าวที่รู้จักกันในชื่อ "ฉงชิง" รวม 3 สายพันธุ์คือ Q1 กับ Q2 และ Q5 ได้ผ่านการคัดพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์จากนครฉงชิงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นข้าวเบาพันธุ์ดีให้ผลผลิต 8.3 ตัน 7 ตัน และ 6.8 ตันต่อเฮกตาร์ (6.25 ไร่) ตามลำดับ เทียบกับข้าวจ้าวพันธุ์พื้นเมืองลาว ที่ให้ผลผลิตดีที่สุดเพียง 4.5 ตันต่อเฮกตาร์เท่านั้น ทั้ง 3 สายพันธุ์ใช้ระยะเวลาเพาะปลูก 120 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์
การทดลองปลูกข้าวพันธุ์ Q1 กับ Q2 และ Q5 เริ่มมาตั้งแต่ปี 2547 โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ของลาวกับผู้เชี่ยวชาญจากจีน ในนามบริษัทพัฒนาการเกษตรระหว่างประเทศของลาว (Lao International Agriculture Development- LIAD) จากเมืองฉงชิง การเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาจึงเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 2 ของการทดลอง
การทดลองปลูกข้าวพันธุ์ Q1 ในเขตเมืองไซทานี กับเมืองหาดทรายฟอง ของนครเวียงจันทน์ ได้ผลผลิต 5.2 ตัน และ 6.4 ตันตามลำดับทำให้ได้ทราบว่าผืนดินในแถบนี้เหมาะสำหรับการปลูกข้าวสายพันธุ์จากจีน ขณะที่เกษตรกรลาวก็มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในการดูแลแปลงข้าว ซึ่งคาดว่าจะทำให้ได้ผลผลิตมากกว่านี้ในฤดูเก็บเกี่ยวข้างหน้า ขณะที่ทั้งลาวและจีนมีแผนจะขยายการทำนาข้าวพันธุ์นี้ออกไปยังแขวงบอลิคำไซที่อยู่ใกล้กัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรกล่าวว่า ตลาดจีนยังเป็นตลาดที่ให้โอกาสอย่างสูงสำหรับข้าวคุณภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมณฑลหยุนหนันที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีผู้บริโภคกว่า 300 ล้านคน ยังคงเปิดกว้างสำหรับข้าวจากลาว
นอกเหนือจากการปลูกข้าวในเขตนครหลวงเวียงจันทน์แล้ว ลาวกับจีนยังมีโครงการร่วมมือ ในการทำนาเพื่อส่งออกในแขวงอุดมไซและแขวงหลวงพระบางทางภาคเหนือของประเทศ
นอกจากนั้นบริษัทผู้ส่งออกข้าวของลาวยังมีความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทเจียเม้งซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลผิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของไทยมาตั้งแต่ปลายปี 2547 มีการปลูกทดลองพันธุ์ข้าวเหนียวพันธุ์พื้นเมืองของลาว ในเขตนครหลวงเวียงจันทน์เช่นเดียวกัน
ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล) ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายมีแผนการที่จะขยายการพื้นที่การทำนาออกเป็นนับหมื่นไร่โดยมีเป้าหมายผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป บริษัทไทยจะจัดส่งผู้เชี่ยวชาญ เผยแพร่เทคนิคต่างๆ แก่เกษตรกรลาว และสนับสนุนในเรื่องของปุ๋ยและเทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อนำไปสู่ผลิตผลที่มีคุณภาพดีออกสู่ตลาดโลก
บริษัทจากเหาลีและญี่ปุ่นหลายแห่งกำลังทดลองปลูกพืชผักไร้สารพิษในลาวเพื่อการส่งออกเช่นเดียวกัน.