กรุงเทพฯ - เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ถูกขับไล่ออกจากอินโดจีน กว่า 50 ปีมาแล้ว แต่ ความเป็นฝรั่งเศสอย่างหนึ่งที่เหลืออยู่ คู่กับสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างถาวรต่างๆ ก็คือ วัฒนธรรมทางด้านอาหารการกิน ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวก็เช่นเดียวกัน
กว่า 60 ปีที่ฝรั่งเศสมีอำนาจอิทธิพลเหนือดินแดนฝั่งซ้าย และฝั่งขวา แม่น้ำโขง ที่ติดกับไทย ยาวนานพอที่ขนมปังฝรั่งเศส จะซึมลึกลงไปในความนิยมของชาวลาว ชาวเวียดนาม และชาวเขมร
ปัจจุบันเมนูนี้ได้กลายเป็นอาหารมื้อเช้าของชาวลาวจำนวนไม่น้อย ชาวลาวและชาวไทยอีสานในจังหวัดตามแนวฝั่งแม่น้ำโขง รู้จักมักคุ้นกันกับ "ข้าวจี่" เป็นอย่างดี
โดยผ่านกรรมวิธีการปรุงด้วยสูตรเฉพาะของครอบครัว แล้วนำส่วนผสมตัวขนมปังเข้าอบในเตาแบบโบราณ หลายครอบครัวทำข้าวจี่ขายจนเป็นอาชีพมาข้ามชั่วอายุคน บางครอบครัวประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ต้องทำข้าวจี่ออกจำหน่ายวันละกว่า 1,000 ชิ้น
นักท่องเที่ยวสามารถพบข้าวจี่นี้วางขายอยู่ทั่วไปตามร้านต่างๆ บนถนนสามแสนไท ในนครหลวงเวียงจันทน์ อย่างร้านป้าวันนะพา ทำกิจการร้านขายแซนด์วิชข้าวจี่มานานกว่า 10 ปี มีลูกค้ามาต่อคิวเข้าแถวรอซื้ออยู่เป็นประจำและขายได้มากกว่า 300 ชิ้นต่อวัน
วิธีการรับประทานข้าวจี่ก็เพียงแค่ปาดเนยทาบางๆ บนขนมปัง หรือไม่ก็จิ้มกับนมข้นก็เป็นความอร่อยแบบสุดๆ ด้วยวิธีง่ายๆ ถ้าต้องการเพิ่มรสชาติ และเพิ่มคุณค่าทางอาหารขึ้นไปอีกนิด ก็อาจสอดไส้ด้วยหมูหั่นชิ้นบาง เนย และผัก เช่น แตงกวา หอมใหญ่ หรืออย่างอื่นๆ ตามความชอบ ก็จะได้แซนด์วิชที่อร่อยไปอีกแบบ
"เราเตรียมเครื่องปรุง และส่วนผสมทั้งหมดเอง ข้าวจี่ของร้านเราอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่คัดเลือกแล้วว่าต้องเป็นของดีมีคุณภาพที่สุด สด สะอาด ด้วย" ป้าวันนะพา กล่าว
อิ่มอร่อยแล้ว แถมยังสบายใจ สบายกระเป๋า เพราะสนนราคาอยู่ที่ชิ้นละประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นักท่องเที่ยวติดอกติดใจกันเป็นแถว
"มันวิเศษมากนะ แต่มันก็ทำให้ฉันนึกเปรียบกับที่ประเทศไทย เพราะขนมปังไม่เหมือนกัน ของลาวคุณภาพดีกว่ามาก และมั่นใจว่า ถ้าฉันนำมันกลับไปฝรั่งเศส จะต้องไม่มีใครรู้แน่นอนว่า จริงๆ แล้วมันไม่ได้มาจากร้านหรูในประเทศเลย" นักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง กล่าว
เรียบเรียงจาก 'French Stick' remains a popular snack in Laos โดย Media Corp News ภาพประกอบโดย "ผู้จัดการรายวัน"