กรุงเทพฯ - ร้านอาหารหลายสิบแห่งในหมู่บ้านและอำเภอรอบๆ เขตป่าสงวนแห่งชาติฟงญา-เก๋บ่าง (Phong Nha-Ke Bang) ใน จ.กวางบิ่ง (Quang Binh) ของเวียดนาม มีเมนูอาหารพิเศษไว้บริการลูกค้า มีการส่งพนักงานออกแจกจ่ายรายการตามท้องถนน มีโฆษณาติดหราไว้ตามหน้าร้านบอกราคาเสร็จสรรพ
คนไม่น้อยเชื่อว่าเมนูสัตว์ป่า ซึ่งขายตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 200,000-250,000 ด่ง (13-16 ดอลลาร์) สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหืดหอบ โรคไขข้ออักเสบ หรือกระทั่งอาหารทางจิตประสาทต่างๆ
เมนูปรุงจากลิงทั้งผัด ต้มซุป และเนื้อลิงแดดเดียว มีให้บริการอยู่ตลอดเวลาในร้านอาหารหลายแห่งที่หมู่บ้านกวิเยวิ๊ต (Qui Dat) อ.มิงฮวา (Minh Hoa) ของ จ.กวางบิ่ง ในภาคกลางตอนบนของประเทศ
ป่าสงวนแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเขตมรดกโลก แต่ก็ยังมีการลักลอบล่าสัตว์ป่าออกมาจำหน่าย กลายเป็นเมนูพิเศษในร้านอาหารแห่งต่างๆ มีการส่งพนักงานออกป่าวประกาศ ติดประกาศ หรือแจกแผ่นปลิว โบรชัวร์ ให้ลูกค้าทั่วไป บอกให้ทราบว่าที่ร้านมีอาหารจานพิเศษสุดทั้งจากป่า และจากทะเล
“ที่นี่มีเมนูสัตว์ป่าเสิร์ฟตลอด ถ้าคุณมาเป็นกลุ่มละก็... ตัวเม่นหรือชะมดนี่จะเหมาะที่สุดเลย กิโลฯ ละ 250,000 (ด่ง) เท่านั้น ช่วยรักษาโรคหืดหอบ โรคเกาต์แล้วก็.. โรคประสาทได้ดี” เจ้าของร้ายที่ชื่อ “พี” บอกกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ “ไซ่ง่อนปลดปล่อย” (Saigon Giai Phong)
ร้านอาหารอีกแห่งหนึ่งเพิ่งจะเชือดชะมดไปตัวหนึ่ง กับตัวเม่นขนาดน้ำหนักสัก 6 กิโลกรัมอีกตัว จัดเตรียมเสิร์ฟลูกค้ากลุ่มใหญ่ด้วยสนนราคาเกือบ 3 ล้านด่ง หรือ 200 ดอลลาร์สหรัฐ
พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งบอกว่า ที่ร้านนี้ซื้อตัวชะมดจากพรานในพื้นที่กิโลกรัมละ 800,000 ด่ง ตัวเม่นก็มีราคาเท่าๆ กัน นอกจากนั้นก็ยังมีเนื้อกวางแดง กวางดาว หมูป่า พร้อมที่จะเสิร์ฟทุกเมื่อ
ที่ร้านเอสเอส (SS) เจ้าของร้านติดประกาศความเอาไว้ว่า “ร้านของเรามีเนื้อสัตว์ป่าราคายุติธรรม เนื้อเม่น กก.ละ 200,000 ด่ง เนื้อชะมดติดกระดู กก.ละ 250,000 ด่ง เนื้อหมูป่าไร้กระดูก กก.ละ 150,000 ด่ง”
เรื่องอย่างนี้กำลังเกิดขึ้นตามนิคมต่างๆ ในหลายอำเภอของ จ.กวางบิ่ง ไม่ว่าจะเป็น อ.เตวี่ยนฮวา (Tuyen Hoa) มิงฮวา กว่างแจ๊ก (Quang Trach) โบ๋แจ๊ก (Bo Trach) กว่างนิง (Quang Ninh) หรือ อำเภอเลถุ่ย (La Thuy) ก็เนื่องจากว่าจังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของป่าสงวนแห่งชาติฟงญา-เก๋บ่าง นั่นเอง
ป่าสงวนเวียดนามแห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2546 เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ป่า เป็นถิ่นที่อยู่สุดท้ายของสัตว์หายากหลายชนิด แต่การทำลายล้างจากมนุษย์ที่เป็นสัตว์อารยะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
นายลีโอ โบทริล ผู้เชี่ยวชาญแห่งองค์การสัตว์ป่าและพืชพรรณระหว่างประเทศ (FFI) กล่าวว่า การลักลอบล่าสัตว์ป่าเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าเจ้าหน้าที่ทางการละเลยหรือคอยเป็นหูเป็นตาให้ หลายกรณีเจ้าหน้าที่ระดับหมู่บ้าน หรือตำบลกลายเป็นนายพรานเสียเอง
พิเศษสุดคือ ที่หมู่บ้านกวิเยวิ๊ตนั่น มีร้านอาหารร้านอยู่ร้านหนึ่งมีนายตำรวจเป็นเจ้าของเสียเอง มิหนำซ้ำยังมีเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นคนอื่นๆ แวะเวียนไปใช้บริการอยู่บ่อยๆ อีกด้วย
มีร้านอาหารอีกร้านหนึ่งชื่อ กวานกวาน (Quan Quan) หรือ “แชมป์” ได้รับความนิยมมาก แต่ละวันมีลูกค้าไปอุดหนุนนับร้อยราย ที่นั่นเสิร์ฟเมนูสยดสยองหลายรายการ รวมทั้งเต้าหู้เลือดหมูป่า ก้อนเลือดชะมดต้ม เลือดเม่นสดๆ แล้วก็เยลลี่เลือดลิงด้วย
ที่ร้านหมีเหว (My Hue) มีสัตว์ป่าขังอยู่ในกรงหน้าร้าน ลูกค้าชอบตัวไหน ชนิดใดก็เพียงแต่ไปชี้ตัว จากนั้นไม่นานมันก็จะกลายเป็นอาหารจานโปรดเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ลูกค้าของร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ทางการเสียด้วย
ตามรายงานของ “ไซ่ง่อนปลดปล่อย” มีการคิดคำนวณกันเล่นๆ และได้ผลลัพธ์ออกมาว่า ในแต่ละปีลูกค้าของร้านอาหารหลายแห่งในเขตนิคมด่งเฮย (Dong Hoi) บริโภคหมูป่าไปถึง 1,825 ตัว คิดเป็นเนื้อประมาณครึ่งตัน ตัวชะมดอีก 6,025 ตัว พวกเต่าที่อาศัยตามธรรมชาติในป่าอีก 9,125 ตัว
ใน อ.กวางบิ่ง ในแต่ละปีมีกวางแดงถูกเชือด 16 ตัว มีการทำเนื้อลิงแดดเดียวถึง 11 ตัน (เนื้อลิงสดๆ 8 กก.จะได้เนื้อตากแห้ง 1 กก.)
ข้อมูลของทางการพบว่า ไม่เพียงแต่นายพรานพื้นเมืองใน จ.กวางบิ่งเท่านั้น ที่ออกปฏิบัติการเข่นฆ่า ยังมีพรานจากท้องถิ่นอื่นๆ เข้าไปสมทบด้วย พวกเขามีรายได้จากการล่าสัตว์ป่าเดือนละ 900,000-1,500,000 ด่ง (60-100 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นรายได้งามทีเดียว
ไม่เฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่เท่านั้นที่ถูกล่า พรานที่ชำนาญหลายคนใช้แร้วดักไก่ป่าหรือพวกไก่งวงป่าตัวโตๆ ได้ไม่ยาก นกหายากหลายชนิด รวมทั้งกระต่ายป่าบางชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ก็ตกเป็นเหยื่อด้วย
พรานหลายคนคุยว่า พวกเขาเคยดักนกเงือกได้ บ้างก็บอกว่าเคยยิงเลียงผาส่าวลา (sao la) สัตว์ชนิดนี้ยังเหลืออยู่ไม่กี่ตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายพรานคนหนึ่งเอาเขากับหัวกะโหลกของเลียงผาชนิดนี้ออกมาอวดอีกด้วย มันเป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจมาก
สัตว์ป่ากำลังถูกล่าแบบล้างเผ่าพันธุ์ในแหล่งมรดกของโลก จ.กวางบิ่ง เสียงร้องขอความช่วยเหลือ กำลังดังก้องเขตป่าสงวนแห่งนี้.