กรุงเทพฯ - ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชาวเวียดนามและผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศส ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ร่วมกันประชุมในกรุงฮานอย เมื่อวันอังคาร (18 ต.ค.) นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาและการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อให้เวียดนามได้ใช้ประโยชน์ ในการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานอะตอมแห่งแรกของประเทศ
การออกแรงหนุนของรัฐบาลฝรั่งเศสทำให้โครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในเวียดนาม คืบหน้าไปอีกก้าวหนึ่งหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เวียดนามเมื่อเร็วๆ นี้
ในช่วง 2 วันนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาพลังงานปรมาณูแห่งชาติฝรั่งเศส (CEA) การไฟฟ้าฝรั่งเศส (EDF) และสถาบันป้องกันรังสีและความปลอดภัยทางปรมาณู (IRSN) จะร่วมกันให้คำปรึกษาและแนะแนวทางหลักการ สำหรับช่วยเวียดนามตัดสินใจ ในการเลือกเทคโนโลยีและสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรก
ความร่วมมือระหว่างเวียดนามและฝรั่งเศส ในเรื่องการใช้พลังงานนิวเคลียร์ เริ่มมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2547 ตามอนุสัญญาที่ลงนามร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม เวียดนาม กับ กระทรวงเศรษฐกิจ การคลังและอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวทางการเวียดนาม (วีเอ็นเอ)
ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมของเวียดนาม และสถานทูตฝรั่งเศส ประจำเวียดนามได้ร่วมกันจัดสัมมนา ในเรื่องกฎหมายพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อแกลเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโครงร่างกฎหมายสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในเวียดนาม
ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกประกาศให้ความช่วยเหลือแก่เวียดนามก่อสร้างโรงไฟฟ้าลังงานนิวเคลียร์ เพื่อให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเหล่านี้มีทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อทดแทนราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงลิ่ว จีนกับรัสเซียก็เคยประกาศความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในโครงการดังกล่าว
เวียดนามกำลังแก้ปัญหาไฟฟ้าขาดแคลนในหลายด้านด้วยกัน รวมทั้งการสร้างเขื่อนไฟฟ้าเซินลา (Son La) ในภาคเหนือ ที่กำลังจะเป็นเขื่อนไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ย.นี้
ส่วนในภาคใต้เวียดนามกำลังเร่งขยายโรงงานไฟฟ้าผูมี (Phu My) แห่งที่ 4, 5 และ 6 ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) ซึ่งทั้งหมดเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยใช้ก๊าซจากแหล่งในทะเลภาคใต้
วันจันทร์ (17 ต.ค.) บริษัทเปโตรเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซและน้ำมันแห่งชาติ ได้ประกาศโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซความยาวกว่า 300 กิโลเมตร เพื่อนำก๊าซจากแหล่งนอกชายฝั่งไปยัง จ.ก่าเมา (Ca Mau) เพื่อใช้ในการปั่นไฟ ท่อส่งก๊าซดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าขนาด 720 เมกะวัตต์อีกแห่งหนึ่งด้วย
ในวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายฟานวันข่าย (Phan Van Khai) ได้อนุมัติข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้เร่งรัดโครงผลิตกระแสไฟฟ้าจำนวน 14 โครงการด้วยกันทั้งยังสั่งการให้ทั้งเปโตรเวียดนามและการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ให้หาหลักประกันว่า จะมีก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเพียงพอสนับสนุน
โครงการผลิตไฟฟ้าทั้ง 14 โครงการ ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายจะเริ่มการก่อสร้างระหว่างปี 2549-2553 การอนุมัติของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเมื่อวันอังคารนี้เป็นการเร่งรัดขบวนการต่างๆ เพื่อเอื้ออำนวยให้การลงทุนของภาคเอกชนในโครงเหล่านี้มีความสะดวกยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น
โครงการผลิตไฟฟ้าทั้ง 14 แห่ง เรียงรายกันตั้งแต่ จ.กว่างนิง (Quang Ninh) ทางภาคเหนือถึง เมืองท่าหวุงอาง (Vung Ang) ใน จ.ห่าติ๋ง (Ha Tinh) ทางภาคกลาง และ จ.บิ่งทวน (Binh Tuan) ในภาคใต้.