กรุงเทพฯ - ประชาชนชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในกรุงฮานอย เหมืองหลวงของประเทศ เตรียมพบกับรูปแบบการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น ในปี 2551 นี้ ด้วยระบบการขนส่งโฉมใหม่ คือ รถเมล์ด่วนพิเศษ หรือ BRT (Bus Rapid Transit Systems)
ระบบการขนส่งมวลชนแบบใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับการคมนาคมภายในตัวเมือง ด้วยงบประมาณการลงทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกู้ยืมมาจากธนาคารโลก ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์
นายโชมิก เมหะนาดิรัตถา (Shomik Mehnadiratta) หัวหน้าโครงการขนส่งกรุงฮานอยของธนาคารโลกเปิดเผยแผนการดังกล่าว ในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของเวียดนามเมื่อไม่นานนี้
ระบบขนส่ง BRTนี้ จะใช้รถเมล์พ่วงในการให้บริการ รถเมล์แต่ละคันนั้น จะสามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 180 คนต่อเที่ยว โดยวิ่งในช่องทางพิเศษ ซึ่งจะวิ่งจากย่านวันเดียน (Van Dien) ผ่าน ถนนยายฟง (Giai Phong) จาก อ.ห่าดง ( Ha Dong) ผ่าน อ.หยางหวอ (Giang Vo) และ จากถนนเหวียนถิห็อก (Nguyen Thai Hoc) ไปยังใจกลางเมืองหลวง
เช่นเดียวกับในประเทศไทย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่กระทรวงคมนาคมประกาศปรับแผนการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ในบางเส้นทาง โดยจะนำเอาระบบเดินรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT เข้าใช้แทนที่ระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ และเขตรอบนอก
นอกจากนี้เวียดนามยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าลอยฟ้า 2 สาย เชื่อมกรุงฮานอยกับอำเภอรอบนอก และ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินรวม 6 สาย กับ รถไฟลอยฟ้ารางเดี่ยวอีก 3 สาย ในนครโฮจิมินห์ เพื่อเพิ่มระบบขนส่งมวลชนในเมืองให้มากขึ้น
เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและในอัตราสูงในเวียดนามช่วงหลายปีมานี้ ได้สร้างปัญหาการจราจรขึ้นในเมืองใหญ่ทั้งทางภาคใต้และภาคเหนือของประเทศ
โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากบรรดาบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นเจ้าของเทคโนโลยีระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งรวมทั้งบริษัทซีเมนส์จากเยอรมนี บริษัทอาลสตรอมจากฝรั่งเศส กลุ่มแดวูแห่งเกาหลี และ กลุ่มบริษัทในญี่ปุ่นด้วย
พร้อมๆ กับโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่นี้ ทางการเวียดนามก็กำลังเร่งขยายตัวเมืองใหญ่ ทั้งนครโฮจิมินห์และนครหลวงฮานอยด้วย ทั้งนี้เพื่อลดความแออัดในเขตเมือง และกระจายความเจริญออกสู่เขตเมืองบริวาร.