ผู้จัดการรายวัน- อุตสาหกรรมเพลงและดนตรีในลาวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังมุ่งหน้าออกสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย ซึ่งได้รับการตอบสนองที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลงใหญ่อย่างวาเลนไทน์มิวสิค (Valentine Music) หรือค่ายเพลงที่เล็กกว่าอย่างอินดี้เร็คคอร์ด (Indee Record) ต่างก็กล่าวว่า ขณะนี้แฟนเพลงในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแค่ในต่างจังหวัดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ฟังวัยรุ่น
ศิลปินนักร้องวัยรุ่นลาวหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ อะเล็กซานดร้า บุนซ่วย (Alexandra Bounxuay) หรือ ติ่ง ไพละวัน (Ting Phaylavanh) ซึ่งรายหลังอยู่ในสังกัดบริษัทวาเลนไทน์มิวสิก เป็นที่รู้จักกันในหมู่วัยรุ่นไทยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ขณะที่ค่ายเพลงในลาวกำลังผลิตนักร้องใหม่และวงดนตรีใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะๆ พร้อมกับการพัฒนาทั้งเนื้อร้องและทำนองเพลง
เจ้าหน้าที่วาเลนไทน์มิวสิคที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อคนหนึ่งกล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ทางโทรศัพท์จากนครหลวงเวียงจันทน์ว่า บริษัทได้มีความตั้งใจที่จะเปิดตลาดเพลงลาวในประเทศไทย โดยได้เริ่มจากนำเพลงศิลปินของทางค่าย ไปเปิดเผยแพร่ตามสถานีวิทยุท้องถิ่นทางภาคอีสานของไทย เช่น จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสรับฟัง
“ตอนนี้ กลุ่มศิลปิน A’PACTS ของค่ายเรา ได้รับการตอบรับจากผู้ฝังทางภาคอีสานของไทยอย่างดีเยี่ยม" เจ้าหน้าที่รายเดียวกันกล่าว
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ศิลปินกลุ่มนี้ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับโบว์ลิงการกุศลเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ กับวง So Cool ศิลปินจากค่ายเพลงของไทยด้วย
เขากล่าวอีกว่า ในปัจจุบันค่ายเพลงต่างๆ ในลาวล้วนพยายามหาโอกาสที่จะขยายฐานผู้ฟังเพลงเข้ามายังประเทศไทย โดยพยายามเริ่มจากกลุ่มผู้ฟังทางภาคอีสานของไทยเป็นด่านแรก และถ้ามีโอกาสก็ต้องการขยับขยายเข้าสู่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้ก็มีทางรายการ 'โอโน่โชว์' ของไทยมาติดต่อขอนำศิลปินเข้าไปแสดงในรายการ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาในรายละเอียดอื่น ๆ อยู่ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากที่จะนำศิลปินของทางค่ายไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตในไทย” เจ้าหน้าที่ของวาเลนไทน์มิวสิคคนเดียวกันกล่าว
ขณะเดียวกันค่ายอินดี้เร็คคอร์ดซึ่งมีศิลปินนักร้องวัยรุ่นยอดนิยมในสังกัดหลายคนก็ได้กล่าวว่า นักร้องวัยรุ่นของค่ายกำลังได้รับความนิยมในภูมิภาคเอเชียๆไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น
"Mr. Kai" ประธานของอินดี้ฯ กล่าวกับหนังสือพิมพ์ "เวียงจันทน์ไทมส์" ฉบับเมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) ว่า แม้ว่าบริษัทจะตั้งขึ้นมาได้เพียง 2 ปีก็ตาม แต่เวลาที่ผ่านมาก็มิได้สูญเปล่า บริษัทพยายามหาความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการฟังเพลงของนักร้องในสังกัดในหมู่ชาวต่างประเทศด้วย
ผู้บริหารของค่ายเพลงนี้กล่าวอีกว่า 2 ปีที่ผ่านมานี้นักร้องของค่ายได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้ฟังทั้งในประเทศและในต่างประเทศ รวมทั้งนักเรียนลาวและชาวลาวที่อาศัยทำกินในญี่ป่น ออสเตรเลีย ญี่ป่น หรือ กระทั่งในสหรัฐฯ หลายคนในนั้นได้เขียนจดหมายหรือส่งเมล์เข้าไปขอให้บริษัทนำเพลงขึ้นเว็บ
ค่ายเพลงน้องเล็กนี้ได้เคยส่งนักร้องไปร่วมการแสดงในรายการโทรทัศน์ในประเทศไทย รวมทั้งไปแสดงแบบในสปอตโฆษณาทางทีวีบางชุด ขณะที่มีเว็บไซต์ในประเทศไทยนำเพลงของศิลปินในสังกัดขึ้นออนไลน์เป็นการแพร่สู่ผู้ฟังอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
"MR. Kai" กล่าวอีกว่าอินดี้ฯ ไม่หวั่นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย แต่อยากจะเผยแพร่เพลงในหมู่ชาวไทย การได้ฟังบนเว็บน่าจะเป็นประโยชน์ เพราะภาษาไทยกับภาษาลาวคล้ายคลึงกันเข้าใจกันได้ง่าย
ขณะเดียวกัน "อัดทิสัก" นักร้องนำของวงเซลล์ (Cells) บอกว่า ตัวเขาเองมีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควรในหมู่วัยรุ่ยในประเทศไทย ไม่เพียงแต่ในต่างจังหวัดเท่านั้น ยังรวมทั้งในกรุงเทพฯ ด้วย เขาบอกอีกว่าเมื่อครั้งที่ไปแสดงใน จ.อุดรธานี เคยถูกแฟนเพลงห้อมล้อมขอลายเซ็นด้วย
อินดี้เร็คคอร์ดจัดงานฉลองครบรอบปีที่ 2 ในวันเสาร์ (9 ก.ย.) ที่ผ่านมา พร้อมกับการออกแนะนำอัลบั้มใหม่ของวงดนตรีใหม่เอี่ยมที่ชื่อ "สวิงกิ้ง" (Swinging) ซึ่งเป็นดนตรีแนวร๊อค ทั้งป๊อปร๊อค ฮาร์ดร๊อค ซ้อฟท์ร๊อค กระทั่งเพลงแนวละตินแจ๊ซ
"ตุ้ย จันพะไซ" นักร้องคนหนึ่งของวงกล่าวว่า เนื่องจากวง Swinging ไม่อยากจะจำกัดแผนเพลงไว้ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงออกผลงานชุดแรกมาในแนวผสมผสาน เพลงมีเนื้อหา สนุกๆ น่าฟังใครไม่ฟังเพลงลาวยุคนี้ก็จะเป็นคนล้าสมัยไป
"Mr. Kai" กล่าวในงานครบรอบปีว่า ค่ายเพลงอินดี้ฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ในการผลิตผลงานคุณภาพออกสู่สังคม การพัฒนาคุณภาพยังจะรวมถึงการพัฒนาประสบการณ์ของศิลปินในสังกัด ซึ่งรวมถึงการการส่งตัวไปฝึกฝนในต่างประเทศด้วย.