กรุงเทพฯ (เอเอฟพี) - ผู้อำนวยการบริหารของโครงการอาหารโลก (World Food Programme) ของสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (5 ส.ค.) นี้ว่าประมาณ 40% ของเด็กๆ ในพม่าทุกวันนี้กำลังประสบปัญหาจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งยูเอ็นกับองค์การไม่สังกัดภาครัฐบาลได้เตรียมและพร้อมที่จะเข้าไปหาทางแก้ไขปัญหานี้ ถ้าหากทางการทหารอนุญาตให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างอิสระ
นายเจมส์ มอร์ริส ผอ.บริหารของ WFP ที่เพิ่งจะเดินทางเยือนพม่าเป็นเวลา 4 วัน กล่าวว่าราว 1 ใน 3 ของเด็กๆ ในประเทศนี้กำลังประสบภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และ 8% ประสบปัญหานี้อย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก
"ราวหนึ่งในสามของเด็กๆ ที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบมีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน นอกจากนั้นยังมีหลายแห่งที่เราเข้าไปทำงานและได้พบเด็กขาดสารอาหารอย่างรุนแรงสูง 60-70%" นายมอร์ริสกล่าว
"มีอีกหลายแห่งที่เราเข้าไปปฏิบัติงานและพบว่ามีเพียง 20% ของเด็กๆ ที่เข้าเรียนในระดับประถมศึกษาและสามารถเรียนจนจบได้" ผู้บริหารของ WFP กล่าว
ระหว่างการเยือนพม่า นายมอร์ริสได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรี พล.อ.โซวิน ผู้แทนจากกลุ่มประเทศผู้บริจาค ผู้นำประชาคมชนกลุ่มน้อยและสมาชิกของสันนิบาติเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นแอลดี) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
เขากล่าวว่า พม่าอาจจะต้อง "จ่ายราคาแพงมาก" ถ้าหากปัญหาเด็กขาดสารอาหารไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรื่องนี้จะเป็นการสะสมผลกระทบต่อประเทศในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดว่าถ้าหากเด็กๆ เหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยง ประเทศชาติก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย