ผู้จัดการรายวัน- ทางการลาวประกาศเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีที่กระทรวงศึกษาธิการแบบยกแผง และแต่งตั้งดุษฎีบัณฑิตหนุ่มจากสหพันธ์กรรมบาลขึ้นนั่งกระทรวงแทน หลังจากก่อนหน้านี้ได้โยกรัฐมนตรีความมั่นคงภายในออกจากเก้าอี้ ตั้งพลเรือนคนแรกขึ้นว่าการแทน ติดตามด้วยการเปลี่ยนตัวเจ้าแขวงจำปาสัก จังหวัดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี
พร้อมๆ กันนี้ทางการลาวยังได้ประกาศปูนบำเหน็จเลื่อนชั้นนายทหาร ทำให้กองทัพประชาชนลาวมีนายพลเพิ่มขึ้นอีก 4 คน ในปีนี้ กับนายทหารยศพันเอกหน้าใหม่อีก 11 นาย
ทางการลาวได้โยกย้ายนายพิมมะสอน เลืองคำมา รัฐมนตรีว่าการอาวุโสจากกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นเลขาธิการพรรคแขวงและเจ้าแขวงหลวงน้ำทาซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศติดกับชายแดนจีนและพม่า และ แต่งตั้ง ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา ผู้รักษาการประธานสหพันธ์กรรมบาลลาว ขึ้น "รักษาการ" เจ้ากระทรวง
คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวลงนามโดยประธานประเทศ พล.อ.คำไต สีพันดอน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการลาวที่ทราบเรื่องดีเปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"
ในคราวเดียวกันนี้ในกระทรวงศึกษาธิการยังมีการเปลี่ยนแปลงถึงระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ กล่าวคือ มีการโยกย้ายนางบุญเพ็ง มูนโพไซ ไปเป็นรัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้กับ ดร.สมโกด มังนอละเมก ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการแทน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการลาวยังได้ประกาศการเปลี่ยนตัวเจ้าแขวงจำปาสัก โดยแจ้งว่า นายทองหวัง สีหะจัก เจ้าแขวง/เลขาธิการพรรคแขวงครบเกษียณอายุราชการ และ มีการแต่งตั้งนายสุกัน มะหาลาด ไปดำรงตำแหน่งแทน พิธีจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. โดย พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน รองประธานประเทศ เป็นประธานในพิธี
จำปาสักเป็นแขวงสำคัญที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ทางภาคใต้ของประเทศ และนายทองหวังก็เป็นผู้ที่เติบโตอยู่ในภาคใต้ของประเทศมานานหลายปี ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 24 ในคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคชุดปัจจุบันที่มีสมาชิกเหลืออยู่ 52 คน ก่อนหน้านี้นายทองหวังเป็นเลขาธิการพรรค/เจ้าแขวง แขวงสาละวัน
ส่วนนายสุกันปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 31 คณะกรรมการศูนย์กลางพรรค เป็นอดีตเลขาธิการพรรคเขตพิเศษเซียงฮ่อน-หงสา ต่อมาย้ายไปเป็นเจ้าแขวงเซียงขวาง ก่อนจะเข้าเวียงจันทน์ "รักษาการ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงิน ในการโยกย้ายในปี 2546
ส่วนเจ้ากระทรวงศึกษาธิการที่กลายเป็นอดีตไปนั้น เป็นกรรมการศูนย์กลางพรรคอาวุโสคนนึ่ง อยู่ถึงอันดับที่ 18 ในคณะกรรมการกลางพรรค ขึ้นว่าการที่กระทรวงศึกษาธิการมาเป็นเวลานานหลายปี สืบต่อจาก พล.ท.สะหมาน วิยะเกด "ผู้นำหมายเลข 2" ในคณะกรรมการกรมการเมืองพรรค ที่ต้องย้ายไปทำหน้าที่ประธานสภาแห่งชาติ
ส่วน ดร.บ่อแสงคำ ปัญญาชนหนุ่มที่ถูกเลือกไป "รักษาการ" เจ้ากระทรวงศึกษาธิการนั้น เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง การศึกษาดี เป็นนักเรียนทุนรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ลาวผู้หนึ่งกล่าวว่าเป็นนักเรียนเก่ารัสเซียและฝรั่งเศส เช่นเดียวกันกับ ดร.สมโกด ซึ่งเติบโตมาในวงการศึกษาของชาติ
ดร.บ่อแสงคำยังไม่ได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ได้เป็นแค่ "รักษาการ" ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเท่านั้น คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง รัฐมนตรีผู้นี้เข้าสู่คณะกรรมการกลางอย่างเต็ม ภาคภูมิในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 ของพรรค ซึ่งมีกำหนดในต้นปี 2549
การแต่งตั้งโยกย้ายในระดับรัฐมนตรีเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2548 โดยในเดือน ก.พ. ทางการลาวได้ประกาศการแต่งตั้ง นายทองบัน แสงอาพอน เลขาธิการพรรคแขวง/เจ้าแขวง แขวงบอลิคำไซ ขึ้นว่าการกระทรวงป้องกันความสงบภายใน ซึ่งนับเป็นพลเรือนคนแรกที่ขึ้นไปมีตำแหน่งในกระทรวงความมั่นคงของประเทศ
ทางการลาวได้แต่งตั้งนายคำปาน พิลาวง อัยการสูงสุดของลาว ซึ่งเป็นสมาชิกกรรมการกลางอาวุโสอันดับ 19 ข้ามห้วยไปเป็นเลขาพรรค/เจ้าแขวงบอลิคำไซ แทนนายทองบัน
ทางการลาวไม่ได้ชี้แจงเหตุผลของการโยกย้ายรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญยิ่งยวดนี้ นายทองบันอยู่ในอันดับ 43 คณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ข้ามอาวุโสขึ้นไปแทนที่ พล.ต.สุดใจ ทำมะสิด เจ้ากระทรวงป้องกันความสงบ ซึ่งอยู่ในอันดับ 35 คณะกรรมการกลางพรรค
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกองทัพประชาชนลาวยังมีนายทหารยศนายพลเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 4 นาย ทางการลาวโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนยศนายทหารระดับพันเอกทั้ง 4 นาย ขึ้นเป็น "พลจัตวา" ตามความรู้และความสามารถ ทั้งนี้เป็นรายงานของวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติซึ่ง "ผู้จัดการรายวัน" รับฟังได้ในกรุงเทพฯ
ในคราวเดียวกันนี้ยังมีการเลื่อนยศนายทหารระดับพันโทขึ้นเป็นพันเอกอีกจำนวน 11 นาย วิทยุของทางการลาวรายงานโดยมิได้ให้รายละเอียด และชี้แจงแต่เพียงว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลื่อนยศนายทหารกองทัพประชาชน ที่สภาพแห่งชาติได้ผ่านออกมามีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2547
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของลาวผู้หนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในบรรดานายพลหน้าใหม่นั้น มีนายทหารระดับรองหัวหน้ากรมใหญ่ของกองทัพรวมอยู่ด้วยอย่างน้อยที่สุด 2 นาย รวมทั้ง พล.จ.บัวเสี้ยง จำปาพัน รอง หน.กรมใหญ่เสนาธิการกองทัพด้วย
ในขณะที่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของกฎหมายว่าด้วยการเลื่อนยศ-ชั้นนายดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ทางการลาวคนเดิมกล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะมีการเลื่อนยศรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันชาติ คือ พล.ต.ดวงใจ พิจิต ขึ้นเป็น "พลโท" ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเท่าเทียมกับ รมว.กลาโหมเวียดนาม มิตรประเทศที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุด ซึ่งมีชั้นยศเดียวกัน
นอกจากนั้นบรรดารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงป้องกันชาติในปัจจุบันก็ล้วน แต่เป็นนายทหารที่มียศเท่ากับเจ้ากระทรวงทั้งสิ้น เช่น พล.ต.คำพวง จันทะพมมา หรือ พล.ต.แก่นคำ บุนลาทอน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ที่มีอำนาจอิทธิพลสูงอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
นับตั้งแต่ พล.ท.จูมมะลี ได้เกษียณออกไปรับตำแหน่งรองประธานประเทศหลังการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของพรรค ในกระทรวงป้องกันชาติและกองทัพประชาชนลาวยังเหลือนายทหารยศพลโทอยู่เพียงคนเดียว คือ พล.ท.ไอ่ สุลิยะแสง อดีตหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ ซึ่งในปัจจุบันเหลือตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการเพียงตำแหน่งเดียว
นายทหารระดับพลโทคนอื่นๆ ของกองทัพประชาชนลาว ซึ่งเติบโตมาในคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคและกองทัพ ร่วมรุ่นกับ พล.ท.ไอ่ ล้วนเกษียณราชการไปจนหมดแล้ว รวมทั้ง พล.ท.นะคอน สีสะนน อดีตหัว หน้ากรมใหญ่พลาธิการ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานสหพันธ์นักรบเก่าแห่งชาติ
ก่อนหน้านั้น พล.ท.โอสะกัน ทำมะเทวา อดีต หน.กรมใหญ่การเมือง ซึ่งปีนขึ้นไปถึงอันดับ 5 ในคณะกรรมการกรมการเมืองและเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งของประเทศ ได้ถึงแก่กรรมในปลายปี 2546 ด้วยโรคมะเร็ง
เจ้าหน้าที่ลาวกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ พล.ท.ไอ่ จะถูกให้ออกไปรับเบี้ยบำนาญในเร็วๆ นี้ ในฐานะเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อชาติเป็นอย่างสูง
ส่วนการโยกย้ายในกระทรวงป้องกันความสงบภายใน เริ่มขึ้นระลอกแรกเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างที่ลาวกำลังเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดกลุ่มอาเซียน ท่ามกลางเหตุการณ์ระเบิดหลายครั้งในนครหลวงหลวงเวียงจันทน์ และการข่มขู่ของกลุ่มคนที่ทางกาลาวเรียกว่า "พวกคนบ่ดี"
ครั้งนั้นทางการลาวได้ถอด พล.ต.เซียงสม กุนละวง รัฐมนตรีช่วยว่าการอาวุโสออกจากตำแหน่ง โดยแจ้งว่าเป็นการเกษียณอายุราชการ ก่อนที่จะแต่งตั้งนายทหารระดับพันเอก จำนวน 4 นาย จากแขวงทางภาคเหนือและจากภายในกระทรวง ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการแทน
การประชุมสุดยอดกลุ่มอาเซียนประจำปี 2547 ดำเนินไปอย่างราบรื่น ปราศจากการก่อกวนตามที่ "พวกคนบ่ดี" ข่มขู่เอาไว้ และ ไม่มีวี่แววว่าจะมีการโยกย้ายรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงติดตามมาในต้นปีนี้
นายทองบัน นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเวียงจันทน์และแขวงชายแดนที่ติดกับไทย มาร่วมประชุมกับฝ่ายไทยซึ่งมี พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รมว.มหาดไทย เป็นหัวหน้าคณะ การประชุมดังกล่าวมีขึ้นที่เมืองพัทยาเมื่อต้นเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะกลับลงสู่พื้นที่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2548
ทั้งสองกระทรวงของลาวและไทยยังได้ตกลงในความร่วมมือหลายด้าน รวมทั้งการป้องกันปราบปรามและการจัดการกับปัญหาแรงงานข้ามแดนด้วย.
พร้อมๆ กันนี้ทางการลาวยังได้ประกาศปูนบำเหน็จเลื่อนชั้นนายทหาร ทำให้กองทัพประชาชนลาวมีนายพลเพิ่มขึ้นอีก 4 คน ในปีนี้ กับนายทหารยศพันเอกหน้าใหม่อีก 11 นาย
ทางการลาวได้โยกย้ายนายพิมมะสอน เลืองคำมา รัฐมนตรีว่าการอาวุโสจากกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นเลขาธิการพรรคแขวงและเจ้าแขวงหลวงน้ำทาซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศติดกับชายแดนจีนและพม่า และ แต่งตั้ง ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา ผู้รักษาการประธานสหพันธ์กรรมบาลลาว ขึ้น "รักษาการ" เจ้ากระทรวง
คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวลงนามโดยประธานประเทศ พล.อ.คำไต สีพันดอน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการลาวที่ทราบเรื่องดีเปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"
ในคราวเดียวกันนี้ในกระทรวงศึกษาธิการยังมีการเปลี่ยนแปลงถึงระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ กล่าวคือ มีการโยกย้ายนางบุญเพ็ง มูนโพไซ ไปเป็นรัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้กับ ดร.สมโกด มังนอละเมก ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการแทน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการลาวยังได้ประกาศการเปลี่ยนตัวเจ้าแขวงจำปาสัก โดยแจ้งว่า นายทองหวัง สีหะจัก เจ้าแขวง/เลขาธิการพรรคแขวงครบเกษียณอายุราชการ และ มีการแต่งตั้งนายสุกัน มะหาลาด ไปดำรงตำแหน่งแทน พิธีจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. โดย พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน รองประธานประเทศ เป็นประธานในพิธี
จำปาสักเป็นแขวงสำคัญที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ทางภาคใต้ของประเทศ และนายทองหวังก็เป็นผู้ที่เติบโตอยู่ในภาคใต้ของประเทศมานานหลายปี ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 24 ในคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคชุดปัจจุบันที่มีสมาชิกเหลืออยู่ 52 คน ก่อนหน้านี้นายทองหวังเป็นเลขาธิการพรรค/เจ้าแขวง แขวงสาละวัน
ส่วนนายสุกันปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 31 คณะกรรมการศูนย์กลางพรรค เป็นอดีตเลขาธิการพรรคเขตพิเศษเซียงฮ่อน-หงสา ต่อมาย้ายไปเป็นเจ้าแขวงเซียงขวาง ก่อนจะเข้าเวียงจันทน์ "รักษาการ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงิน ในการโยกย้ายในปี 2546
ส่วนเจ้ากระทรวงศึกษาธิการที่กลายเป็นอดีตไปนั้น เป็นกรรมการศูนย์กลางพรรคอาวุโสคนนึ่ง อยู่ถึงอันดับที่ 18 ในคณะกรรมการกลางพรรค ขึ้นว่าการที่กระทรวงศึกษาธิการมาเป็นเวลานานหลายปี สืบต่อจาก พล.ท.สะหมาน วิยะเกด "ผู้นำหมายเลข 2" ในคณะกรรมการกรมการเมืองพรรค ที่ต้องย้ายไปทำหน้าที่ประธานสภาแห่งชาติ
ส่วน ดร.บ่อแสงคำ ปัญญาชนหนุ่มที่ถูกเลือกไป "รักษาการ" เจ้ากระทรวงศึกษาธิการนั้น เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง การศึกษาดี เป็นนักเรียนทุนรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ลาวผู้หนึ่งกล่าวว่าเป็นนักเรียนเก่ารัสเซียและฝรั่งเศส เช่นเดียวกันกับ ดร.สมโกด ซึ่งเติบโตมาในวงการศึกษาของชาติ
ดร.บ่อแสงคำยังไม่ได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ได้เป็นแค่ "รักษาการ" ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเท่านั้น คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง รัฐมนตรีผู้นี้เข้าสู่คณะกรรมการกลางอย่างเต็ม ภาคภูมิในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 ของพรรค ซึ่งมีกำหนดในต้นปี 2549
การแต่งตั้งโยกย้ายในระดับรัฐมนตรีเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2548 โดยในเดือน ก.พ. ทางการลาวได้ประกาศการแต่งตั้ง นายทองบัน แสงอาพอน เลขาธิการพรรคแขวง/เจ้าแขวง แขวงบอลิคำไซ ขึ้นว่าการกระทรวงป้องกันความสงบภายใน ซึ่งนับเป็นพลเรือนคนแรกที่ขึ้นไปมีตำแหน่งในกระทรวงความมั่นคงของประเทศ
ทางการลาวได้แต่งตั้งนายคำปาน พิลาวง อัยการสูงสุดของลาว ซึ่งเป็นสมาชิกกรรมการกลางอาวุโสอันดับ 19 ข้ามห้วยไปเป็นเลขาพรรค/เจ้าแขวงบอลิคำไซ แทนนายทองบัน
ทางการลาวไม่ได้ชี้แจงเหตุผลของการโยกย้ายรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญยิ่งยวดนี้ นายทองบันอยู่ในอันดับ 43 คณะกรรมการศูนย์กลางพรรค ข้ามอาวุโสขึ้นไปแทนที่ พล.ต.สุดใจ ทำมะสิด เจ้ากระทรวงป้องกันความสงบ ซึ่งอยู่ในอันดับ 35 คณะกรรมการกลางพรรค
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกองทัพประชาชนลาวยังมีนายทหารยศนายพลเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 4 นาย ทางการลาวโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนยศนายทหารระดับพันเอกทั้ง 4 นาย ขึ้นเป็น "พลจัตวา" ตามความรู้และความสามารถ ทั้งนี้เป็นรายงานของวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติซึ่ง "ผู้จัดการรายวัน" รับฟังได้ในกรุงเทพฯ
ในคราวเดียวกันนี้ยังมีการเลื่อนยศนายทหารระดับพันโทขึ้นเป็นพันเอกอีกจำนวน 11 นาย วิทยุของทางการลาวรายงานโดยมิได้ให้รายละเอียด และชี้แจงแต่เพียงว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลื่อนยศนายทหารกองทัพประชาชน ที่สภาพแห่งชาติได้ผ่านออกมามีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2547
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของลาวผู้หนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในบรรดานายพลหน้าใหม่นั้น มีนายทหารระดับรองหัวหน้ากรมใหญ่ของกองทัพรวมอยู่ด้วยอย่างน้อยที่สุด 2 นาย รวมทั้ง พล.จ.บัวเสี้ยง จำปาพัน รอง หน.กรมใหญ่เสนาธิการกองทัพด้วย
ในขณะที่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของกฎหมายว่าด้วยการเลื่อนยศ-ชั้นนายดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ทางการลาวคนเดิมกล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะมีการเลื่อนยศรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันชาติ คือ พล.ต.ดวงใจ พิจิต ขึ้นเป็น "พลโท" ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเท่าเทียมกับ รมว.กลาโหมเวียดนาม มิตรประเทศที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุด ซึ่งมีชั้นยศเดียวกัน
นอกจากนั้นบรรดารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงป้องกันชาติในปัจจุบันก็ล้วน แต่เป็นนายทหารที่มียศเท่ากับเจ้ากระทรวงทั้งสิ้น เช่น พล.ต.คำพวง จันทะพมมา หรือ พล.ต.แก่นคำ บุนลาทอน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ที่มีอำนาจอิทธิพลสูงอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
นับตั้งแต่ พล.ท.จูมมะลี ได้เกษียณออกไปรับตำแหน่งรองประธานประเทศหลังการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของพรรค ในกระทรวงป้องกันชาติและกองทัพประชาชนลาวยังเหลือนายทหารยศพลโทอยู่เพียงคนเดียว คือ พล.ท.ไอ่ สุลิยะแสง อดีตหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ ซึ่งในปัจจุบันเหลือตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการเพียงตำแหน่งเดียว
นายทหารระดับพลโทคนอื่นๆ ของกองทัพประชาชนลาว ซึ่งเติบโตมาในคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคและกองทัพ ร่วมรุ่นกับ พล.ท.ไอ่ ล้วนเกษียณราชการไปจนหมดแล้ว รวมทั้ง พล.ท.นะคอน สีสะนน อดีตหัว หน้ากรมใหญ่พลาธิการ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานสหพันธ์นักรบเก่าแห่งชาติ
ก่อนหน้านั้น พล.ท.โอสะกัน ทำมะเทวา อดีต หน.กรมใหญ่การเมือง ซึ่งปีนขึ้นไปถึงอันดับ 5 ในคณะกรรมการกรมการเมืองและเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งของประเทศ ได้ถึงแก่กรรมในปลายปี 2546 ด้วยโรคมะเร็ง
เจ้าหน้าที่ลาวกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ พล.ท.ไอ่ จะถูกให้ออกไปรับเบี้ยบำนาญในเร็วๆ นี้ ในฐานะเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อชาติเป็นอย่างสูง
ส่วนการโยกย้ายในกระทรวงป้องกันความสงบภายใน เริ่มขึ้นระลอกแรกเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างที่ลาวกำลังเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดกลุ่มอาเซียน ท่ามกลางเหตุการณ์ระเบิดหลายครั้งในนครหลวงหลวงเวียงจันทน์ และการข่มขู่ของกลุ่มคนที่ทางกาลาวเรียกว่า "พวกคนบ่ดี"
ครั้งนั้นทางการลาวได้ถอด พล.ต.เซียงสม กุนละวง รัฐมนตรีช่วยว่าการอาวุโสออกจากตำแหน่ง โดยแจ้งว่าเป็นการเกษียณอายุราชการ ก่อนที่จะแต่งตั้งนายทหารระดับพันเอก จำนวน 4 นาย จากแขวงทางภาคเหนือและจากภายในกระทรวง ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการแทน
การประชุมสุดยอดกลุ่มอาเซียนประจำปี 2547 ดำเนินไปอย่างราบรื่น ปราศจากการก่อกวนตามที่ "พวกคนบ่ดี" ข่มขู่เอาไว้ และ ไม่มีวี่แววว่าจะมีการโยกย้ายรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงติดตามมาในต้นปีนี้
นายทองบัน นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเวียงจันทน์และแขวงชายแดนที่ติดกับไทย มาร่วมประชุมกับฝ่ายไทยซึ่งมี พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รมว.มหาดไทย เป็นหัวหน้าคณะ การประชุมดังกล่าวมีขึ้นที่เมืองพัทยาเมื่อต้นเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะกลับลงสู่พื้นที่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2548
ทั้งสองกระทรวงของลาวและไทยยังได้ตกลงในความร่วมมือหลายด้าน รวมทั้งการป้องกันปราบปรามและการจัดการกับปัญหาแรงงานข้ามแดนด้วย.