ผู้จัดการรายวัน- องค์กรยุวชนโลกออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯ ในฐานะอาชญากรสงคราม พร้อมปลุกกระแสเรียกร้องให้อเมริกาต้องรับผิดชอบชาวเวียดนามที่ทรมานจากพิษฝนเหลือง
สหพันธ์ยุวชนประชาธิปไตยโลกหรือ WFDY ออกแถลงการณ์ประณามอเมริกา เรื่องการใช้สารเคมีสีส้ม (Agent Orange) ที่รู้จักกันดีในชื่อ “ฝนเหลือง” ฉีดพ่นเข้าไปในป่าเวียดนามใต้ในสงครามเวียดนามว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม เนื่องจากผลจากการกระทำดังกล่าวทำให้ชาวเวียดนามนับล้านต้องทนทุกข์การผลของสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในร่างกายแม้กระทั่งปัจจุบัน
WFDY ยังเรียกร้องให้องค์กรที่เป็นสมาชิกและองค์กรระดับสากลต่างๆ ร่วมรณรงค์ผ่านทางสื่อ และพร้อมจะผลักดันกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้ชาวเวียดนามได้รับความช่วยเหลือและความเป็นธรรม ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์แถ่งเนียน
ในตอนท้ายของแถลงการณ์ยังกล่าวผ่านไปยังสหรัฐว่า ขอให้เก็บผลของสงครามเวียดนามครั้งนี้เป็นบทเรียนและคาดกว่าการกระทำที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
WFDY เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนหนุ่มสาวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อต่อต้านลัทธิฟาสซิสม์ ปัจจุบันได้เป็นองค์กรต่อสู้เรียกร้องสันติภาพเพื่อชาวโลก มีสำนักงานใหญ่ที่นครเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย
ตามข้อมูลสถิติ ระหว่างปี 2504 - 2518 ในสงครามเวียดนามสหรัฐฯ ใช้ฝนเหลืองเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 42 ล้านลิตร ภายใต้แผนปฏิบัติการ "Operation Ranch Hand" ในสงครามเวียดนาม
จากปริมาณฝนเหลืองดังกล่าวทำให้มีการประมาณการกันว่า มีสารไดออกซินซึ่งเป็นสารพิษในกลุ่มเดียวกับยาฆ่าแมลงทั้งหมดประมาณ 170 กิโลกรัมปนอยู่ในสภาพแวดล้อมทางภาคใต้ของเวียดนามระหว่างในช่วงสงคราม
ในฝนเหลืองปริมาตร 1 ลูกบาตรเมตร จะมีสารออกซินปนอยู่ราว 3.83 กรัม องค์การอนามัยโลกจัดประเภทของสารไดออกซินไว้ในกลุ่มสารก่อมะเร็งในมนุษย์
ส่วนทางด้านสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (Environmental Protection Agency-EPA) นั้น ระบุสารไดออกซินมีอันตรายร้ายแรงกว่าดีดีทีถึง 200,000 เท่า
ผลกระทบจากไดออกซินหลังสงครามต่อระบบนิเวศ สภาพแวดล้อมและสุขภาพของคนยังปรากฏชัดเจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วกว่า 20 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เกิดกับสุขภาพมนุษย์ยังคงมีให้เห็นในรุ่นลูกรุ่นหลานของชาวเวียดนามที่ได้รับหรือสัมผัสฝนเหลืองในช่วงสงคราม
ธนาคารโลกเคยจัดทำรายงานเกี่ยวกับกรณีเวียดนามและได้ประมาณขอบเขตพื้นที่และป่า ที่ได้รับความเสียหายจากฝนเหลืองว่า มีประมาณกว้างประมาณ 625,000 ไร่ ถึง 12,500,000 ไร่
รายงานของธนาคารโลกระบุชัดเจนว่า การสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ ความย่อยยับของความหลากหลายทางชีวภาพและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่เกษตรกรรมเป็นผลมาจากปฏิบัติการฝนเหลืองของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ไดออกซินยังเป็นสารเคมีที่ไม่ย่อยสลายหรือย่อยสลายยากในธรรมชาติ โดยเมื่อปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อมแล้วจะสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหารได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเวียดนามใต้ที่รับประทานอาหารซึ่งมีไดออกซินปนเปื้อนอยู่มีสารพิษตัวนี้สะสมอยู่ในร่างกาย
จากการทดลองจากตัวอย่างอาหารและสัตว์ป่าจากตลาดต่าง ๆ ทางภาคใต้ของเวียดนามระหว่างปี 2528-2530 ได้ผลยืนยันว่ามีสารไดออกซินสะสมในปริมาณสูง
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชาวเวียดนามและชาวต่างชาติพบว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ได้รับฝนเหลืองในช่วงสงคราม รวมทั้งทหารผ่านศึกจากเวียดนามเหนือที่ได้รับสารตัวนี้เข้าไป มีอัตราความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น แท้งลูก ทารกตายในท้อง ทารกพิการแต่กำเนิด สูงกว่าประชาชนในพื้นที่อื่น
ดังนั้นจึงเป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ฝนเหลืองในสมัยสงครามอินโดจีน มีผลกระทบร้ายแรงต่อทหารเวียดนามและทหารอเมริกันที่ได้รับสารตัวนี้เข้าไป.