พนมเปญ – รัฐบาลกัมพูชาและองค์กรสิทธิเด็กได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และภาคเอกชน ช่วยกันหยุดชาวต่างชาติไม่ให้เดินทางมากัมพูชา เพื่อแสวงหาการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก
การเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมเพื่อต่อต้านการค้าประเวณีเด็กในราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นเวลา 2 วัน ที่กรุงพนมเปญ มีผู้ร่วมประชุมกว่า 100 คน จากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) นักการทูต และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้เป็นรายงานข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพี
นายทัลเมจ เพย์น (Talmage Payne) ผู้อำนวยการระดับประเทศของ World Vision กล่าวว่า ที่ประชุมกำลังร่วมหารือถึงวิธีการที่ภาคเอกชน NGO สถานทูต และรัฐบาล จะทำงานร่วมกันให้ดีขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร การจับกุมและทำโทษชาวตะวันตกผู้กระทำผิด
“เราต้องการความร่วมมือจากภาคเอกชน อย่างเช่น ผู้ประกอบการนำเที่ยว โรงแรม และบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ” นายเพย์นกล่าว
กลุ่ม World Vision ซึ่งสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุน เป็นผู้จัดการประชุมครั้งนี้
นายเพย์นกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า จะต้องมีการดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติการทำร้ายเด็ก เราไม่อาจอดทนต่อการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก เรากำลังร่วมมือกันเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีการจัดการกับผู้ทำร้ายเด็ก ทั้งจับกุม และลงโทษ
เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกัมพูชา สูงขึ้น 44% ทะลุเป้าที่รัฐบาลกัมพูชาตั้งไว้ที่ 1 ล้านคน และกัมพูชาหวังจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2553 เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ
นายฮอ ซารุน (Hor Sarun) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าว การท่องเที่ยวเพื่อซื้อประเวณีเด็ก ไม่ใช่ปัญหาของกัมพูชาเท่านั้น แต่เป็นปัญหาในระดับสากลที่จะต้องแก้ไขร่วมกัน ชาวต่างชาติที่เข้ามาทัวร์เซ็กซ์ อาจจะคิดว่า กัมพูชาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งไม่รู้ปัญหาที่ชัดเจน พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ก่ออาชญากรรมในกัมพูชา
ทั้งนี้ มีการจับกุมนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหนึ่งในกัมพูชา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างพวกทัวร์กาม โดยมีการตัดสินลงโทษสถานหนัก และมีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งถูกส่งกลับไปรับโทษในประเทศของตัวเอง
การเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมเพื่อต่อต้านการค้าประเวณีเด็กในราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นเวลา 2 วัน ที่กรุงพนมเปญ มีผู้ร่วมประชุมกว่า 100 คน จากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) นักการทูต และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้เป็นรายงานข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพี
นายทัลเมจ เพย์น (Talmage Payne) ผู้อำนวยการระดับประเทศของ World Vision กล่าวว่า ที่ประชุมกำลังร่วมหารือถึงวิธีการที่ภาคเอกชน NGO สถานทูต และรัฐบาล จะทำงานร่วมกันให้ดีขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร การจับกุมและทำโทษชาวตะวันตกผู้กระทำผิด
“เราต้องการความร่วมมือจากภาคเอกชน อย่างเช่น ผู้ประกอบการนำเที่ยว โรงแรม และบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ” นายเพย์นกล่าว
กลุ่ม World Vision ซึ่งสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุน เป็นผู้จัดการประชุมครั้งนี้
นายเพย์นกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า จะต้องมีการดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติการทำร้ายเด็ก เราไม่อาจอดทนต่อการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก เรากำลังร่วมมือกันเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีการจัดการกับผู้ทำร้ายเด็ก ทั้งจับกุม และลงโทษ
เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกัมพูชา สูงขึ้น 44% ทะลุเป้าที่รัฐบาลกัมพูชาตั้งไว้ที่ 1 ล้านคน และกัมพูชาหวังจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2553 เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ
นายฮอ ซารุน (Hor Sarun) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าว การท่องเที่ยวเพื่อซื้อประเวณีเด็ก ไม่ใช่ปัญหาของกัมพูชาเท่านั้น แต่เป็นปัญหาในระดับสากลที่จะต้องแก้ไขร่วมกัน ชาวต่างชาติที่เข้ามาทัวร์เซ็กซ์ อาจจะคิดว่า กัมพูชาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งไม่รู้ปัญหาที่ชัดเจน พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ก่ออาชญากรรมในกัมพูชา
ทั้งนี้ มีการจับกุมนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหนึ่งในกัมพูชา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างพวกทัวร์กาม โดยมีการตัดสินลงโทษสถานหนัก และมีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งถูกส่งกลับไปรับโทษในประเทศของตัวเอง