เวียงจันทน์- กลุ่มผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของลาวกำลังเจรจากับกลุ่ม “เจียเม้ง” ของไทย เพื่อความร่วมมือในการส่งออกและผลิตข้าวคุณภาพเพื่อการส่งออก ฝ่ายลาวต้องการให้ฝ่ายไทยช่วยส่งออกข้าวเหนียวสู่ตลาดยุโรป ขณะที่ฝ่ายลาวจะนำเข้าข้าวหอมมะลิของไทย ไปบุกเบิกตลาดในเวียงจันทน์ หลังพบว่ามีชาวลาวข้ามมาซื้อข้าวเจ้าหอมมะลิไปจากหนองคายเพิ่มขึ้น
นายเขมซาต พิลาพันเดด (Khemsath Philaphandeth) ประธานบริษัท KP ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวราย ใหญ่ในลาวกล่าวว่าแผนความร่วมมือนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายไทย ซึ่งลุล่วงไปประมาณ 80% แล้ว และยังไม่ได้รายงานต่อทางการในขณะนี้
ข้าวเจ้าหอมมะลิที่บริษัท KP จะนำเข้าไปจำหน่ายในลาวนั้นจะเป็นข้าวบรรจุถึงตราสุพรรณหงส์ของกลุ่มเจียเม้ง โดยนายธนาเทพ พิพัฒน์เกียต ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเจียเม้งกล่าวว่ามีแผนจะส่งออกข้าวหอมมะลิไทยล็อตแรกจำนวน 30 ตันสู่ตลาดลาวใน 2 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากสำรวจพบว่ามีความต้องการข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยชาวลาวมักจะซื้อข้าวหอมมะลิจากหนองคายหรืออุดรธานีติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
“เราส่งข้าวไปจำหน่ายในหลายประเทศ คราวนี้เราจะเข้าลาวบ้าง” นายธนาเทพกล่าวกับหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์
ทางด้านนายเขมซาตกล่าวต่อไปว่า ข้าวถุงตราสุพรรณหงส์นั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงอยากจะนำเข้ามาทดลองตลาดในลาวบ้าง โดยจะวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือในร้านมินิมาร์ท มากกว่าจะวางตามร้านค้าในตลาดทั่วไป เนื่องจากมีการบรรจุในถุงพิเศษ
นายเขมซาตยังกล่าวอีกว่า การนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวพื้นเมืองลาว เนื่องจากเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน ข้าวที่นำเข้าจะมีราคาแพงกว่าข้าวที่ผลิตภายในประเทศ ลูกค้าข้าวหอมมะลิไทยน่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือชาวต่างชาติมากกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับข้าวลาว
ประธานของบริษัท KP กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเจียเม้งจะซื้อข้าวเหนียว “ถาดอกคำ 1” ซึ่งเป็นข้าวเหนียวคุณภาพดีของลาวเพื่อส่งขายในตลาดยุโรป การส่งออกอาจจะเริ่มขึ้นได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากการเกษตรต้องใช้เวลา และขณะนี้บริษัทกำลังทดลองปลูกข้าวพันธุ์ดังกล่าวในเวียงจันทน์ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะสามารถผลิตได้มากน้อยขนาดไหนเพื่อส่งออก และก็ยังไม่ได้กำหนดเครื่องหมายการค้าด้วย
เขากล่าวอีกว่าทั้งสองฝ่ายคือเจียเม้งกับ KP จะร่วมกันหาลู่ทางพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวในลาว โดยเริ่มจากการใช้เกษตรกรชาวลาว พันธุ์ข้าวลาว ตลอดจนใช้ปุ๋ยในประเทศ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากเจียเม้ง เข้าไปช่วยสอนเกษตรกรลาวในการปลูกข้าวคุณภาพเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกอีกด้วย
“ตอนนี้เรากำลังวิเคราะห์ตลาด และก็อยากจะรู้ว่ามีข้าวชนิดใดบ้างที่เหมาะสำหรับปลูกในลาว” นายเขมซาตกล่าว.
นายเขมซาต พิลาพันเดด (Khemsath Philaphandeth) ประธานบริษัท KP ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวราย ใหญ่ในลาวกล่าวว่าแผนความร่วมมือนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายไทย ซึ่งลุล่วงไปประมาณ 80% แล้ว และยังไม่ได้รายงานต่อทางการในขณะนี้
ข้าวเจ้าหอมมะลิที่บริษัท KP จะนำเข้าไปจำหน่ายในลาวนั้นจะเป็นข้าวบรรจุถึงตราสุพรรณหงส์ของกลุ่มเจียเม้ง โดยนายธนาเทพ พิพัฒน์เกียต ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเจียเม้งกล่าวว่ามีแผนจะส่งออกข้าวหอมมะลิไทยล็อตแรกจำนวน 30 ตันสู่ตลาดลาวใน 2 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากสำรวจพบว่ามีความต้องการข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยชาวลาวมักจะซื้อข้าวหอมมะลิจากหนองคายหรืออุดรธานีติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
“เราส่งข้าวไปจำหน่ายในหลายประเทศ คราวนี้เราจะเข้าลาวบ้าง” นายธนาเทพกล่าวกับหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์
ทางด้านนายเขมซาตกล่าวต่อไปว่า ข้าวถุงตราสุพรรณหงส์นั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงอยากจะนำเข้ามาทดลองตลาดในลาวบ้าง โดยจะวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือในร้านมินิมาร์ท มากกว่าจะวางตามร้านค้าในตลาดทั่วไป เนื่องจากมีการบรรจุในถุงพิเศษ
นายเขมซาตยังกล่าวอีกว่า การนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวพื้นเมืองลาว เนื่องจากเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน ข้าวที่นำเข้าจะมีราคาแพงกว่าข้าวที่ผลิตภายในประเทศ ลูกค้าข้าวหอมมะลิไทยน่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือชาวต่างชาติมากกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับข้าวลาว
ประธานของบริษัท KP กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเจียเม้งจะซื้อข้าวเหนียว “ถาดอกคำ 1” ซึ่งเป็นข้าวเหนียวคุณภาพดีของลาวเพื่อส่งขายในตลาดยุโรป การส่งออกอาจจะเริ่มขึ้นได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากการเกษตรต้องใช้เวลา และขณะนี้บริษัทกำลังทดลองปลูกข้าวพันธุ์ดังกล่าวในเวียงจันทน์ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะสามารถผลิตได้มากน้อยขนาดไหนเพื่อส่งออก และก็ยังไม่ได้กำหนดเครื่องหมายการค้าด้วย
เขากล่าวอีกว่าทั้งสองฝ่ายคือเจียเม้งกับ KP จะร่วมกันหาลู่ทางพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวในลาว โดยเริ่มจากการใช้เกษตรกรชาวลาว พันธุ์ข้าวลาว ตลอดจนใช้ปุ๋ยในประเทศ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากเจียเม้ง เข้าไปช่วยสอนเกษตรกรลาวในการปลูกข้าวคุณภาพเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกอีกด้วย
“ตอนนี้เรากำลังวิเคราะห์ตลาด และก็อยากจะรู้ว่ามีข้าวชนิดใดบ้างที่เหมาะสำหรับปลูกในลาว” นายเขมซาตกล่าว.