xs
xsm
sm
md
lg

SOS Thailand Awards 2025 โชว์พลัง "การกอบกู้อาหาร" ในประเทศไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ประเทศไทย (Scholars of Sustenance, SOS Thailand) มูลนิธิกอบกู้อาหารแห่งแรกของไทย เดินหน้าสู่ทศวรรษใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารของประเทศ จัดงาน “SOS Thailand Awards 2025” ภายใต้แนวคิด The Path Beyond Our Decade ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของการกอบกู้อาหารในประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ณ SAMA Garden, BITEC บางนา เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จกว่า 9 ปีของการ “กอบกู้อาหารส่วนเกิน (Food Rescue)” ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานครอบคลุม 4 สาขาหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานครฯ หัวหิน ภูเก็ต และเชียงใหม่ ร่วมกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างต่อนเนื่อง

งานในปีนี้สะท้อนถึงการเดินทางของ SOS Thailand จากองค์กรขนาดเล็กที่มีเป้าหมายลดความสูญเสียของอาหาร (Food loss) และขยะอาหาร (Food waste) ในประเทศไทย สู่เครือข่ายระดับชาติและนานาชาติที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนระบบอาหารที่เป็นธรรมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ตลอดช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมา SOS Thailand สามารถ “กอบกู้อาหาร” กว่า 15.3 ล้านกิโลกรัม จากภาคธุรกิจทั่วประเทศ แปรเปลี่ยนเป็นมื้ออาหารมากกว่า 64 ล้านมื้อ ที่ส่งต่อให้กับชุมชน เครือข่าย โรงเรียน และองค์กรสาธารณประโยชน์ทั่วประเทศกว่า 5,100 ชุมชน เป็นผลลัพธ์ที่ตอกย้ำว่า “อาหารส่วนเกิน ยังคงมีคุณค่าเสมอแก่ผู้ที่ขาดแคลน”


เฉลิมฉลองผลงานและแรงบันดาลใจจากผู้นำการเปลี่ยนแปลง

ภายในงาน SOS Thailand Awards 2025 มีการมอบรางวัลให้กับองค์กรและพันธมิตรกว่า 47 องค์กร ที่มีบทบาทโดดเด่นในการร่วมขับเคลื่อนภารกิจกอบกู้อาหารและความมั่นคงทางอาหาร (Food Rescue and Food Security) ผ่านหลากหลายโครงการของมูลนิธิ เช่น การบริจาคอาหารส่วนเกินจากธุรกิจโรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต
ห้างค้าส่ง และโรงงานผลิตอาหาร ไปจนถึงการจัดการอาหารส่วนเกินในภาคธุรกิจ โดยรางวัลถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ The Best Sustaining Partner Awards, The Good Sustaining Partner Awards, และ The Sustaining Partner Awards โดยมีองค์กรได้รับรางวัล ดังนี้

๐ The Best Sustaining Partner Awards

รางวัลอันทรงเกียรตินี้มุ่งยกย่องพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและการผู้นำที่โดดเด่นในการขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนภายในระบบอาหารของประเทศไทย และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยความพยายามอันน่าชื่นชมของพวกเขา ได้สร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้และยั่งยืนในระยะยาว พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับความรับผิดชอบต่อสังคมและการมีส่วนร่วมของภาคองค์กรธุรกิจต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ มีองค์กรที่ได้รับรางวัลนี้จำนวน 14 องค์กร ได้แก่
1. AEON (Thailand) Co, Ltd.
2. Shrewsbury International School Bangkok
3. Bangkok International Trade and Exhibition Centre (BITEC)
4. Agoda Services Co., Ltd.
5. Griffith Foods Limited
6. Starbucks Thailand
7. KFC Foundation Thailand
8. National Science and Technology Development Agency
9. Nestlé (Thai) Ltd.
10. CENTRAL FOOD RETAIL CO., LTD.
11. Marriott Business Council Thailand
12. CP Axtra Public Company Limited
13. Charoen Pokphand Foods Public Company Limited
14. IVL Foundation

๐ The Good Sustaining Partner Awards

รางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องพันธมิตรผู้มีความมุ่งมั่นอย่างมั่นคงในการขับเคลื่อนโครงการที่มีคุณค่าและสร้างผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง และยังเป็นองค์กรที่เป็นแบบอย่างแห่ง “ความรับผิดชอบ นวัตกรรม และความร่วมมือ” ที่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงจากระดับรากหญ้า และจุดประกายให้เกิดกระแสการลงมือทำเพื่อขับเคลื่อนภารกิจร่วมกัน
สู่เป้าหมาย Zero Hunger มีองค์กรที่ได้รับรางวัลนี้จำนวน 25 องค์กร ได้แก่
1. Bangkok Metropolitan Administration
2. Bueng Nakhon Sub District Administration Organization
3. Pollution Control Department
4. Ministry of Social Development and Human Security
5. Amari Thailand
6. Hilton
7. Centara Hotels & Resorts
8. NSL FOODS PUBLIC COMPANY LIMITED
9. Kerry Ingredients (Thailand) Co., Ltd.
10. CPRAM COMPANY LIMITED
11. Thai Flour Industry Co., Ltd.
12. Pimjai Organic Farm
13. Ford Philanthropy
14. Club Med Phuket
15. CSR Phuket Center
16. Informa Markets
17. Chiang Mai Rimdoi Public Company Limited
18. Food Passion Co., Ltd.
19. MK Restaurant Group Public Company Limited
20. S&P Syndicate Public Company Limited
21. Simummuang Market
22. Jing Jai Market
23. Central Food Wholesales Limited
24. Mister Donut
25. SEACON SHOPPING CENTERS

๐ The Sustaining Partner Awards

รางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องพันธมิตรผู้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบอาหารของประเทศไทย และขับเคลื่อนการเติบโตของโครงการรักษ์อาหาร (Food Rescue) ทั่วประเทศ ด้วยพลังแห่งการสนับสนุนของชุมชน และการส่งเสริมแนวปฏิบัติอย่างรับผิดชอบที่ได้ช่วยให้มั่นใจว่า ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ในเส้นทางสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนประเทศ มีองค์กรที่ได้รับรางวัลนี้จำนวน 8 องค์กร ได้แก่
1. เครือข่ายชุมชนบางบอน 133 (รางวัลครัวต้นแบบแห่งปี)
2. เครือข่ายชุมชนปทุมธานี (รางวัลกลุ่มอาสาสมัครรักษ์อาหารท้องถิ่นดีเด่น)
3. กลุ่มอาสาสมัครป้าช้างสั่งลุย (รางวัลทีมอาสาสมัครภาคสนามดีเด่น)
4. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47
5. เครือข่ายชุมชนบางสีทอง
6. ชุมชนทิพย์รัตน์
7. เครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต
8. กลุ่มอาสาสมัครผ้าขาวม้าติ่งป่า (Phakhaoma Ting Pa Volunteer Group)


นอกจากนี้บนเวทีเดียวกัน ยังมีช่วงเสวนา “Voices for Change” ที่รวมผู้นำด้านความยั่งยืนจากเหล่าผู้เสวนาที่มาร่วมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของระบบอาหารไทยในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และนวัตกรรม ผ่านการบอกเล่าจากผู้นำในภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่
แจนเน็ต รุ้งสิทธิกุล (Senior Marketing Manager Brand Purpose) จาก KFC Foundation ที่มาแชร์เรื่องราวของโครงการ KFC Harvest และการส่งต่อ “ไก่น้อง” สู่ชุมชนในประเทศ

โครงการ “เคเอฟซีฮาร์เวสต์ (KFC Harvest)” มาจากความตั้งใจที่อยาก “เก็บเกี่ยวสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคม” ทุกวันพฤหัสบดีจึงกลายเป็นวันที่พนักงานของเราตั้งตารอ เพราะจะได้ร่วมมือกันกอบกู้อาหารและส่งต่อด้วยหัวใจ โครงการนี้ดำเนินมาแล้วกว่า 6 ปี และเราตั้งใจจะขยายให้ครบทุกสาขา เพื่อให้ร้าน KFC ทุกแห่งสามารถมีส่วนร่วมได้

- แจนเน็ต รุ้งสิทธิกุล (Senior Marketing Manager Brand Purpose) จาก KFC Foundation

การนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการการจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศไทย และการขับเคลื่อนระดับนโยบายเกี่ยวกับการบริจาคอาหาร เช่น นโยบายทางภาษีต่อการบริจาคอาหารส่วนเกิน คาร์บอนเครดิต และการจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยอาหารสำหรับการบริจาคอาหาร (Food Safety Guideline for Food Donation) โดย ดร.ปัทมาพร ประชุมรัตน์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

สวทช. เริ่มทำงานร่วมกับ SOS เมื่อ 5 ปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการกอบกู้อาหารให้ได้อย่างน้อย 10% หรือประมาณ 2,000 ตันต่อปี จากความร่วมมือนี้ จึงเกิดแนวคิด “ธนาคารอาหาร (Food Bank)” เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบจัดการอาหารอย่างยั่งยืนในระดับจังหวัด เราไม่อาจพึ่งพา SOS เพียงองค์กรเดียวได้ แต่ต้องสร้าง “ธนาคารอาหารของเราเอง”

- ดร.ปัทมาพร ประชุมรัตน์ (Policy Researcher) จาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ


นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอจากผู้ร่วมในโครงการอาสาสมัครรักษ์อาหารท้องถิ่น และอาสาสมัครที่ได้รับอาหารจากมูลนิธิ SOS Thailand เพื่อส่งต่ออาหารที่ปลอดภัยไปยังชุมชนในพื้นที่ และมีเป็นเสียงจากหนึ่งในผู้นำการขับเคลื่อนในระดับชุมชนผ่านการเล่าเรื่อง โดย ธรรมศักดิ์ มากนคร (ประธานชุมชน) จากชุมชนคลองลัดภาชี เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานครฯ

เราเริ่มต้นจาก “ครัวรักษ์อาหาร” ก่อนจะขยายเป็นทีมอาสา ปัจจุบันมีอาสาสมัครในพื้นที่กว่า 16 คนและทั่วประเทศขณะนี้มีอาสารักษ์อาหารรวมแล้วกว่า 556 คน จาก 20 จังหวัด โดยพื้นที่ที่มีอาสามากที่สุดคือ กรุงเทพฯ และนนทบุรี

- ธรรมศักดิ์ มากนคร (ประธานชุมชน) จาก ชุมชนคลองลัดภาชี

และช่วงสุดท้ายเป็นการเสนอมุมมองจากประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการนำเสนองานด้านสิ่งแวดล้อมในโลกยุคปัจจุบันจากผู้ทรงอิทธิผลด้านงานสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนบนสื่ออนไลน์ ทั้งสองยังเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวด้านสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจผ่านรูปแบบสื่อออนไลน์ ช่อง “Kong Green Green” โดย ชณัฐ วุฒิวิกัยการ และ “เถื่อน channel” โดย สิงห์ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล

ทำงานสารคดีการเดินทางมา 15 ปี จุดเริ่มต้นของความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมเกิดจากการได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยตาตนเอง เช่น น้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย หรือป่าอะเมซอนที่ถูกทำลาย
ภาพเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้หันมาเรียนต่อและทำงานเบื้องหลังในด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

- สิงห์ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล (Documentary Filmmaker / TUEN Channel Founder / Advisor to the House of Representatives Committee on Land, Natural Resources, and Environment (26th Legislature))

คุณก้องยังได้บอกเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ในปัจจุบันอีกว่า “ในอดีตคอนเทนต์สิ่งแวดล้อมไม่ค่อยแมตช์กับโซเชียลมีเดีย คนส่วนใหญ่มักเจอเนื้อหานี้ช่วงเช้าในทีวี ซึ่งไม่โดนกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงต้องปรับกลยุทธ์ ทั้งการตั้งชื่อเรื่อง ปกคลิป และวิธีเล่าให้เข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น”


มากไปกว่านั้นภายในงานยังได้มีการนำเสนอเรื่องราวการทำงานขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหารของ SOS Thailand ร่วมกับพันธมิตรและเครือข่าย รวมถึงอนาคตของการขับเคลื่อนการกอบกู้อาหารในประเทศในมิติอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างระบบอาหารที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนและยังได้สร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมไปในเวลาเดียวกัน โดยตอนหนึ่งจากการเสนอบนเวทีของ ทวี อิ่มพูลทรัพย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ของ SOS Thailand ได้กล่าวไว้ว่า “SOS สามารถกอบกู้อาหารประมาณ 3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งประเทศไทยสร้างอาหารส่วนเกินมากถึง 3 พันล้านกิโลกรัม เส้นทางที่เรากำลังดำเนินกันไปในอนาคต คือ เครือข่ายอาสาสมัครรักษ์อาหารท้องถิ่น”

ซึ่งการขยายเครือข่ายอาสาสมัครรักษ์อาหารท้องถิ่นถือเป็นอีกหนึ่งก้าวมิติใหม่ของประเทศไทยในด้านการขับเคลื่อนระดับประเทศไปจนถึงระดับชุมชน ที่ส่งเสริมให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการอาหารและส่งต่ออาหารสู่กลุ่มคนที่ต้องการ ผ่านเครือข่ายในทุกระดับความร่วมมือ เพื่อการก้าวสู่การจัดตั้งธนาคารของประเทศไทยครั้งแรกร่วมกันในทุก ๆ ภาคส่วน

มากไปกว่านั้นบรรยากาศของงานยังถูกเติมเต็มด้วยการเชื่อมโยงระหว่างคนทำงานจริงกับพันธมิตรภาคธุรกิจ ผ่านกิจกรรม Networking for Impact ที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สร้างเครือข่ายใหม่เพื่อขยายผลความร่วมมือในอนาคต ในวันที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารและสิ่งแวดล้อม SOS Thailand ยังคงยืนหยัดในภารกิจ “ต่อสู่กับความหิวโหยและปัญหาขยะอาหารในประเทศ”และงาน SOS Thailand Awards 2025 คือ จุดเริ่มต้นของบทต่อไป — บทแห่งความร่วมมือที่ไม่เพียงแต่กอบกู้อาหาร แต่ยัง “กอบกู้อนาคต” ของพวกเราทุกคน




กำลังโหลดความคิดเห็น