กระทรวงพลังงาน ชูนโยบายการควบรวมฉลาก 2 ชนิด “ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5” ของกฟผ. และ “ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง” ของ พพ.เป็นฉลากเดียว เพื่อลดความสับสน ยกระดับประสิทธิภาพการประหยัดไฟและมุ่งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน คาดหวังจะสร้างความมั่นใจคูณ 2 ตอบสนองความต้องการผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ประกอบการมากขึ้นทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และระดับสากล
งานครบรอบ 30 ปี โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ด้วยรัก(ษ์) และผูกพัน เมื่อ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นำโดย ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิด ร่วมด้วยนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดร.นรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ. พร้อมทั้งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน ผู้บริหารหน่วยงานพันธมิตรโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่ากระทรวงพลังงานยกระดับและพัฒนาแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ มุ่งเน้นมาตรการเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการอนุรักษ์พลังงาน รองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี รูปแบบการใช้พลังงาน ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและสร้างการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050
“โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ กฟผ. ดำเนินการ และโครงการฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงของ พพ. เป็น 2 โครงการที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นับเป็นโครงการต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และระดับสากล ตอบสนองนโยบายภาครัฐ สร้างผลลัพธ์การประหยัดพลังงานให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล
จึงให้นโยบายในการควบรวมฉลากทั้ง 2 ชนิดเป็นรูปแบบเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจคูณ 2 โดยยึดการสร้างคุณค่าและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ฉลากเบอร์ 5 โฉมใหม่จะครอบคลุม 45 ผลิตภัณฑ์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 16 มกราคม 2569 เป็นต้นไป”
ดร.นรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ. เสริมว่า เป็นเวลากว่า 30 ปี ตั้งแต่ กฟผ. เริ่มดำเนินโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 มุ่งยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้าควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมามีการปรับรูปแบบฉลากเบอร์ 5 ให้แสดงประสิทธิภาพมากขึ้นเป็น เบอร์ 5 “3 ดาว” และเบอร์ 5 สูงสุด “5 ดาว”
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากเบอร์ 5 ทั้งสิ้น 27 ผลิตภัณฑ์ กว่า 520 ล้านดวง ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 40,000 ล้านหน่วย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) กว่า 22 ล้านตัน เทียบเท่าปลูกต้นไม้กว่า 1,720 ล้านต้น (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2568)
กฟผ. วางแผนดำเนินโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขยายผลไปยังบ้าน อาคาร รวมถึงโรงเรียน และโรงแรม ล่าสุด มีโรงเรียน เบอร์ 5 ราว 234 โรงเรียน ประหยัดพลังงาน 25 ล้านหน่วย และโรงแรม เบอร์ 5 จำนวน 7แห่ง ช่วยประหยัดพลังงาน 14 ล้านหน่วย ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ร่วมผลักดันโครงการฯ และการร่วมมือกับ พพ. ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาฉลากเบอร์ 5 ใหม่ ไปสู่การสร้างโลกสีเขียวที่ยั่งยืน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดี พพ. กล่าวว่า จากสถานการณ์ด้านพลังงานในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานจึงเป็นภารกิจสำคัญของภาครัฐและทุกภาคส่วน การดำเนินมาตรการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน ถือเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเลือกใช้อุปกรณ์ วัสดุ และเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมของประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการตระหนักรู้ในกลุ่มผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น ความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับ พพ. ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจสอดคล้องกัน ในการขับเคลื่อนประเทศสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางบูรณาการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 และฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ให้มีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดความสับสนของผู้บริโภค ยกระดับมาตรฐาน แนวทางการจัดการข้อมูลและการประเมินผล ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แผนอนุรักษ์พลังงาน และเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย อีกทั้งช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถกำหนดมาตรการได้อย่างตรงจุดและเป็นระบบ ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการพัฒนาเทคโนโลยี อันเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น