ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดตัวโครงการที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน “Sustainability360” ภายในงานเสวนาความยั่งยืนประจำปี “The Cooler Earth Thailand 2025” ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดร่วมกับหอการค้ามาเลเซีย-ไทย ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ สะท้อนความมุ่งมั่นของ CIMB THAI ในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนข้ามพรมแดนและยกระดับความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศไทย
Sustainability360 ต่อยอดมาจากความเชี่ยวชาญของ CIMB THAI ในด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนและด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) โดยเป็นบริการให้คำปรึกษาครบวงจรแก่ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าสถาบัน ในการออกแบบและจัดโครงสร้างตราสารทางการเงินเพื่อความยั่งยืน อาทิ ตราสารสีเขียว ตราสารเพื่อสังคม ตราสารเพื่อความยั่งยืน และตราสารที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน โดยจะครอบคลุมทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดหาเงินทุน ตั้งแต่การจัดทำกรอบการดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การประเมินและตรวจสอบความน่าเชื่อถือโดยหน่วยงานผู้ให้ความคิดเห็นภายนอก (Second-Party Opinion) ไปจนถึงการรายงานผลกระทบอย่างครบถ้วน
นายเจสัน ลี หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจในไทยต้องเผชิญกับความคาดหวังที่มากขึ้นจากนักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ดังนั้น การกล่าวอ้างเรื่องความยั่งยืนไม่ควรจะคลุมเครือ วันนี้ สิ่งสำคัญของการดำเนินการด้านความยั่งยืน คือต้องทำอย่างเป็นรูปธรรม น่าเชื่อถือ และโปร่งใส โครงการที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน “Sustainability360” ของเราจึงได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จากด้านการเงินและการระดมทุน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และด้านกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของธนาคารสามารถบริหารจัดการเงินทุนเพื่อความยั่งยืนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิผล และสามารถนำเสนอโครงสร้างและรายงานผลกระทบที่สอดคล้องกับมาตรฐานกลางที่ใช้จำแนกและจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Taxonomy alignment) และความต้องการของนักลงทุน”
นับตั้งแต่ CIMB THAI เริ่มดำเนินงานด้านความยั่งยืน ก็ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในระดับภูมิภาค โดยในปี 2567 ธนาคารได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Best Sustainability-Linked Loan – Scope 1 & 2 จากงาน The Digital Banker’s Global Sustainable Finance Awards สำหรับการจัดตั้งโครงสร้างสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนที่มีมูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท โดยมีการกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เข้มงวด และในปีเดียวกัน ยังได้รับรางวัล Sustainability Rising Star จากงาน Asia Corporate Excellence & Sustainability (ACES) Awards ที่เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในการบุกเบิกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืนในประเทศไทย นอกจากนี้เดือนตุลาคม 2567 ธนาคารยังได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการออกหุ้นกู้สีเขียวด้อยสิทธิ์ (subordinated green bond) ที่มีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนและการขนส่งคาร์บอนต่ำ
นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า “ภายใต้กลยุทธ์ Forward30 ของกลุ่มซีไอเอ็มบี CIMB THAI ได้รับการยอมรับว่าเป็นธุรกิจสำคัญที่มีศักยภาพในการเติบโต และการเปิดตัวโครงการ “Sustainability360” นั้น ก็สอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่มซีไอเอ็มบี ในการระดมเงินทุนเพื่อการเงินที่ยั่งยืนให้ได้ 300,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพให้ลูกค้าของเราสามารถนำแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนมาผนวกเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจ เราจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจที่มีความเข้มแข็ง น้อมรับความหลากหลาย และมีความยั่งยืนมากขึ้น”
สำหรับหน่วยงานภาครัฐได้มีนโยบายที่มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนมากขึ้น ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนจากนักลงทุนต่างชาติในอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในการนี้ CIMB THAI จึงได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายใหม่นี้อย่างทันท่วงที ด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกในระดับภูมิภาคและเครือข่ายที่กว้างขวางทั่วอาเซียนผ่านกลุ่มซีไอเอ็มบี เพื่อริเริ่มโครงการที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน “Sustainability360” และสะท้อนถึงจุดยืนของ CIMB THAI ในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับธุรกิจที่แสวงหาการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ทั้งนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สมาชิกของกลุ่มซีไอเอ็มบี หนึ่งในกลุ่มธนาคารชั้นนำในอาเซียน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Advancing
Customers and Society” ธนาคารมุ่งสู่การเป็นNiche Bank ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทย พร้อมต่อยอดโอกาสสู่ระดับภูมิภาค ด้วยโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจรที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
และให้บริการผ่านเครือข่ายCIMB Group ทั่วอาเซียน
ธนาคารให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการไป ASEAN กลุ่มลูกค้าWealth ที่ต้องการขยายความมั่งคั่ง
และกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ต้องการบริการทางการเงินที่ “ง่ายกว่า ดีกว่า เร็วกว่า” (Simpler, Better, Faster) ผ่าน แอปCIMB THAI ที่ตอบโจทย์การลงทุน การออม และการขอสินเชื่อได้ในแอปเดียว นอกจากนี้ ยังมีบริการ Sustainability360
ที่สนับสนุนลูกค้าธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
ธนาคารเดินหน้าแผน Forward30 ซึ่งเป็นโร้ดแมป 6 ปี เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงระดับโลก และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พัฒนาบุคลากร และใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายในอาเซียนเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าให้ลูกค้า พร้อมสร้างคุณค่าให้สังคม