xs
xsm
sm
md
lg

PrideHealth ผุดแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลเพื่อกลุ่ม LGBTQ+ รายแรกของเอเชียแปซิฟิกในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชุดตรวจสุขภาพ PrideHealth
เปิดแล้ว!! PrideHealth.care ให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมเปลี่ยนโฉมหน้าการเข้าถึงสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+ ทั่วภูมิภาค

ก้าวสำคัญสู่ระบบการดูแลสุขภาพอย่างเท่าเทียม PrideHealth.care (ไพรด์เฮลท์ดอทแคร์) แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลเพื่อกลุ่ม LGBTQ+ แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ โดยสามารถเข้าใช้งานได้ที่ www.pridehealth.care แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดช่องว่างการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (กลุ่ม LGBTQ+) และกลุ่มเปราะบางที่ยังคงถูกมองข้ามในระบบสาธารณสุขกระแสหลักของเอเชีย

(จากซ้าย) นพ.อริย์ธัช ตั้งสง่า , นายบรูซ หลี่ ,นายชอว์น ลู
PrideHealth ก่อตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในหลากหลายสาขา ได้แก่ นายบรูซ หลี่ (Bruce Li) อดีตผู้บริหารในวงการยาระดับโลก (ดำรงตำแหน่ง CEO และ CTO), นายชอว์น ลู (Shawn Loo) นักการตลาดรางวัลระดับนานาชาติ (ดำรงตำแหน่ง Chief Brand Officer) และ นพ.อริย์ธัช ตั้งสง่า (หมอกั้ง) แพทย์อายุรกรรม นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ LGBTQ+ (ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์) โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมแพทย์และนักบำบัดที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ ทั่วภูมิภาค 

แพลตฟอร์มนี้ให้บริการแบบครบวงจร ทั้งการแพทย์ทางไกล (Telehealth), การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบเฉพาะทางผ่านอีคอมเมิร์ซ, และบริการดูแลสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ครอบคลุมด้านสุขภาพทางเพศ สุขภาพจิต การป้องกันและการรักษา HIV ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันเพศสภาพ PrideHealth ถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้างระบบสุขภาพที่ “เข้าใจ-เข้าถึง-และเคารพ” สำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 430 ล้านคนในภูมิภาคเอเชีย

"ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสุขภาพ แต่คือ ‘การขับเคลื่อน’ เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของระบบสุขภาพ”
นพ.อริย์ธัช ตั้งสง่า ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของ PrideHealth กล่าวและว่า “กลุ่ม LGBTQ+ ในเอเชียแปซิฟิกยังต้องเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงการรักษาที่ปลอดภัยและเข้าใจความต้องการของพวกเขา PrideHealth.care จึงเข้ามาเพื่อลดอุปสรรคเหล่านี้ และแทนที่ด้วยพลังแห่งการเลือก ความเคารพศักดิ์ศรี และความเท่าเทียมที่ทุกคนพึงได้รับ”


๐ ตอบโจทย์ช่องว่างสำคัญในระบบสุขภาพ LGBTQ+


ความต้องการบริการสุขภาพที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นความจำเป็นระดับโลก ข้อมูลจาก Open for Business ระบุว่า กว่า 70% ของ LGBTQ+ ในเอเชียยังเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพ การขาดบุคลากรที่เข้าใจ LGBTQ+ และการเลือกปฏิบัติอย่างเปิดเผย การขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรม หรือแม้แต่การเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในชนบทและชุมชนอนุรักษ์นิยม แม้ประเทศไทยซึ่งมักถูกมองว่าเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อ LGBTQ+ แต่การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ตอบโจทย์เฉพาะทางก็ยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มคนข้ามเพศ ผู้สูงวัยที่ติดเชื้อ HIV และผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพจิต

PrideHealth กำลังลบข้อจำกัดเหล่านี้ ด้วยการรวมตัวของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจใน LGBTQ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ยืนยันเพศสภาพของตน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือมีรายได้ระดับใดก็ตาม โดยทีมที่ปรึกษาอาวุโสและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ PrideHealth สะท้อนถึงความหลากหลายของกลุ่มที่ให้บริการ อาทิ

• นพ.อริย์ธัช ตั้งสง่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์์และผู้ร่วมก่อตั้ง PrideHealth ผู้ขับเคลื่อนประเด็น “สุขภาพที่ครอบคลุม” และการเข้าถึง PrEP ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

• ศ.นพ.เกรียง ตั้งสง่า ประธานคณะกรรมการจริยธรรม กระทรวงสาธารณสุข อดีตนายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และอดีตนักวิจัยรับเชิญจากโรงพยาบาล Johns Hopkins ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของผลงานวิจัยตีพิมพ์กว่า 230 ชิ้น

• พญ.วโรชา มหาชัย แพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารระดับแนวหน้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเซอรีน และศูนย์วิจัยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารแห่งชาติ และอดีตนายกสมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย

๐ PrideHealth กับการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและธุรกิจในกลุ่ม LGBTQ+

การเปิดตัว PrideHealth.care ไม่ได้สะท้อนแค่ความก้าวหน้าในระบบสุขภาพที่ครอบคลุมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณของ “โอกาสทางเศรษฐกิจ” ที่มาพร้อมกับความเท่าเทียมทางเพศอีกด้ว สะท้อนถึงแนวโน้วการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จากรายงานของ Open for Business ปี 2567 ระบุว่า ผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBTQ+ ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม สูญเสียผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สูงถึง 1.24% ต่อปี ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย เพียงแค่ภาวะซึมเศร้าในกลุ่ม LGBTQ+ ที่นำไปสู่ความพิการและการสูญเสียรายได้ โดยคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 14.9 พันล้านบาทต่อปี

ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มอย่าง PrideHealth ที่สนับสนุนความเท่าเทียมมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน โดยเมืองที่มีนโยบายรองรับ LGBTQ+ อย่างเป็นระบบ มีอัตราการเติบโต GDP สูงกว่าปกติถึง 2.6% ขณะที่บริษัทที่มีนโยบายสนับสนุน LGBTQ+ มีผลกำไรสูงกว่าบริษัททั่วไปถึง 2.3 เท่า

เพื่อรับมือกับความเหลื่อมล้ำเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรม PrideHealth จึงได้พัฒนา “Pride Packages” สำหรับองค์กรธุรกิจ ซึ่งเป็นชุดบริการสุขภาพแบบครบวงจร เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สามารถมอบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมแก่พนักงานของตนได้อย่างแท้จริง ครอบคลุมทั้งการปรึกษาแพทย์ทางไกล ยาเวชภัณฑ์ อาหารเสริม และบริการโค้ชชิ่ง ด้วยแพลตฟอร์มเดียว เพื่อสร้างองค์กรที่ใส่ใจความหลากหลายอย่างแท้จริง

นายบรูซ หลี่ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง PrideHealth กล่าวว่า “ความต้องการด้านสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+ มักถูกมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงนี่คือโอกาสสำคัญทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ด้วยจำนวนประชากร LGBTQ+ มากกว่า 430 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก ความจำเป็นในการดูแลสุขภาพแบบครอบคลุมและเท่าเทียมจึงเร่งด่วนกว่าที่เคย เพราะ ‘การรวมกลุ่ม’ ไม่ใช่แค่เรื่องของความยุติธรรมทางสังคม — แต่มันคือ กลยุทธ์ธุรกิจที่ชาญฉลาด เมื่อเราสนับสนุนความเท่าเทียมด้านสุขภาพ เรากำลังปลดล็อกทั้งนวัตกรรม ประสิทธิภาพการทำงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว”


๐ สร้างจากไทย ออกแบบเพื่อเอเชีย

หลังจากที่ประเทศไทยผ่านกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” ในปี 2568 ประเทศไทยก็ยิ่งตอกย้ำบทบาทผู้นำในด้าน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของ LGBTQ+ และจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุดของการเปิดตัว PrideHealth แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลสำหรับ LGBTQ+ แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก

กว่า 10% ของประชากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกระบุว่าเป็น LGBTQ+ แพลตฟอร์ม PrideHealth มีแผนขยายบริการไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชียในปี 2568 พร้อมปรับบริการให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยมุ่งตอบโจทย์ตลาดที่ทั้ง “ขาดการดูแล” และ “ถูกประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริง” ซึ่งจากการวิเคราะห์ PrideHealth พบว่า กลุ่มสุขภาพ LGBTQ+ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยความต้องการหลักยังคงถูกละเลย เช่น สุขภาพจิต การนอนหลับ การดูแลยืนยันเพศสภาพ (gender-affirming care) การดูแลผู้สูงอายุ และการป้องกันโรค

ทั้งนี้ PrideHealth คือแพลตฟอร์มแรกที่เล็งเห็นการบรรจบกันของ “ความต้องการทางตลาด” และ “สิทธิความเท่าเทียมทางสุขภาพ” พร้อมนำเสนอบริการสุขภาพแบบบูรณาการครบวงจร ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกลุ่ม LGBTQ+
กำลังโหลดความคิดเห็น