xs
xsm
sm
md
lg

กรีนพีซ เปิดชุดข้อมูล “โซลาร์บนหลังคา ฉะเชิงเทรา” หนทางสู่พลังงานเป็นธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล
กรีนพีซ ประเทศไทย นำเสนอชุดข้อมูล “ฉะเชิงเทรา : โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน” ซึ่งศึกษาศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน (Just Energy for All)

ชุดข้อมูลฉบับนี้ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน โดยชี้ให้เห็นว่า หากมีการสนับสนุนที่เหมาะสม อย่างที่จังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากถึง 1,524 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) ร่วมด้วย จังหวัดจะสามารถพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าภายในพื้นที่ได้มากกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573 และมีแนวโน้มบรรลุการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี พ.ศ. 2581

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านโครงสร้างทางพลังงานที่ยังคงรวมศูนย์ กลไกทางการเงินที่ไม่เอื้อต่อประชาชน และการขาดนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจน ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องเร่งขจัด หากประเทศไทยต้องการก้าวสู่อนาคตพลังงานที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล ผู้จัดการงานรณรงค์กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า “พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาไม่ใช่แค่ทางเลือกด้านเทคโนโลยี แต่คือเครื่องมือสำคัญในการคืนสิทธิในการผลิตพลังงานให้กับประชาชน และสร้างระบบพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืนและเป็นธรรม รัฐต้องยุติการเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่ผ่านโครงสร้างระบบพลังงานแบบรวมศูนย์ และหันมาออกแบบนโยบายที่กระจายอำนาจอย่างแท้จริง ให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของพลังงานของตนได้จริง”

งานนี้ กรีนพีซ ประเทศไทย จัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ “พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและเป็นธรรม: ความหวังของเมือง กับโจทย์นโยบายรัฐที่ยังไม่เปลี่ยน” เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อการแลกเปลี่ยนมุมมองจากทั้งภาคประชาชน และนักวิชาการ ถึงโอกาสและอุปสรรคในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืนในระดับเมือง ภายใต้บริบทของนโยบายภาครัฐที่ยังไม่เอื้อต่อความเป็นธรรมและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง


• ยันไทยเป็นประเทศที่มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์-ลม ต่ำ

รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) กล่าวว่า “ข้อมูลจากรายงาน Thailand:Turning Point a Net-Zero Power Grid ที่เผยแพร่โดย BloombergNEF ชี้ชัดว่าประเทศไทยมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะแสงอาทิตย์และลม ต่ำที่สุดกลุ่มหนึ่งในโลก และมีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการผลิตไฟฟ้าแบบคาร์บอนต่ำ ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้เมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานแบบเดิม

แต่กระบวนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานกลับชะงักอยู่กับโครงสร้างของระบบพลังงานแบบรวมศูนย์ ทั้งในด้านการวางแผน ระบบสายส่ง และกลไกการกำกับดูแล กลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ความท้าทายหลักในวันนี้จึงไม่ใช่การเข้าถึงเทคโนโลยี แต่คือการออกแบบนโยบายและกลไกที่ส่งเสริมการกระจายอำนาจ กระจายความเสี่ยง และกระจายประโยชน์อย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะในระดับชุมชน ที่สามารถมีบทบาทมากกว่าการเป็นเพียงผู้บริโภค”


• หนุนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบพลังงานของประเทศ

จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า จังหวัดฉะเชิงเทรามีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านเรือน ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายที่เหมาะสม และมีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) เพียงพอ จังหวัดนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าความต้องการใช้ภายในปี พ.ศ. 2581

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงมีอุปสรรคเชิงโครงสร้างหลายประการที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้การปฏิวัติพลังงานแสงอาทิตย์ระดับท้องถิ่นเกิดขึ้นได้จริง ได้แก่ นโยบายที่ยังเอื้อต่อกลุ่มทุนรายใหญ่ ขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อนและไม่เอื้อต่อภาคประชาชน รวมถึงการขาดกลไกทางการเงินที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นธรรม

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงต้องเริ่มจากการสร้างโครงสร้างสนับสนุนในระดับท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งระบบ One-Stop Service สำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop ที่อำนวยความสะดวกแบบครบวงจร การจัดตั้งกองทุนพลังงานสะอาดระดับท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการลงทุนของครัวเรือน การรับรองและพัฒนาศักยภาพของผู้ให้บริการติดตั้งในพื้นที่ การลงทุนในระบบกักเก็บพลังงานให้เพียงพอ รวมถึงการบูรณาการเป้าหมายพลังงานชุมชนเข้าสู่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานที่เป็นธรรมและยั่งยืนเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ข้อเสนอเชิงนโยบายนี้จำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนในการเป็นเจ้าของพลังงาน หยุดการผูกขาดพลังงานในรูปแบบใหม่ และผลักดันการพัฒนาระบบพลังงานของไทยให้เป็นธรรม ยั่งยืน และกระจายประโยชน์สู่ทุกหลังคาเรือนอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น