ในโลกปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ไม่สามาถรอยู่รอดได้ด้วยแนวคิดแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว เมื่อความเชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อบริษัทต่าง ๆ ลดลงเรื่อย ๆ โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความไม่เท่าเทียมทางสังคม และการเสื่อมถอยของความไว้วางใจต่อสถาบันหลักของโลก
หนังสือ Lead with We ซึ่งเขียนโดย Simon Mainwaring ได้ตั้งคำถามที่เรียบง่ายแต่ชัดเจนว่า ถ้าโลกนี้กำลังล่มสลายลงด้วยฝีมือของมนุษย์โดยเฉพาะจากระบบทุนนิยม แล้วธุรกิจซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญจะสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเยียวยาฟื้นฟูโลกนี้ได้หรือไม่
คำตอบที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การโจมตีอดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่อยู่ที่การชี้ให้เห็นว่า เรากำลังเข้าสู่โลกยุคใหม่ของระบบเศรษฐกิจที่เรียกว่า “We First Capitalism” หรือระบบทุนนิยมที่นำด้วย “เรา” ไม่ใช่ “ฉัน” อีกต่อไป
แนวคิดนี้ไม่ได้พูดถึงแค่การทำดีเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ CSR หรือการแสดงออกด้านจริยธรรมเป็นครั้งคราว เท่านั้น แต่คือการเปลี่ยนแกนหลักของการดำเนินธุรกิจทั้งหมดให้ขับเคลื่อนด้วยการมี “จุดมุ่งหมายร่วมกัน” ซึ่งต้องเชื่อมโยงอย่างสอดคล้องกัน ทั้งกับพนักงาน ผู้บริโภค ชุมชน ผู้ถือหุ้น สังคม และโลกใบนี้
แนวทางนี้เริ่มจากการตระหนักว่า วิกฤตที่โลกเผชิญอยู่ ไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางธรรมชาติ ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่มันคือสิ่งที่เร่งด่วนทางที่ต้องได้รับการเยียวยาอย่างจริงจัง และธุรกิจคือภาคส่วนหนึ่งที่มีทรัพยากร มีอิทธิพล และมีความสามารถมากพอ ที่จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
“Lead with We” จะเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการบริหารธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพียงแค่การสร้างผลกำไรสูงสุด มาเป็นการบริหารเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมสูงสุด การเปลี่ยนจากการสื่อสารแบรนด์เพื่อมุ่งขายสินค้าเพียงอย่างเดียว มาเป็นการสร้างความหมายร่วม เพื่อสร้างให้เกิดคุณค่าที่ลึกซึ่งและยั่งยืนในระยะยาว
หนังสือเล่มนี้นำแนวทางผ่านโครงสร้างที่เชื่อมโยงจากระดับผู้นำ องค์กร ชุมชน สังคม ไปสู่ระดับโลก โดยเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อแต่ละส่วนมีการ “เชื่อมโยงกัน” และ “ขยับไปพร้อมกัน” ไม่ใช่เพียงแค่องค์กรใดองค์กรหนึ่งลุกขึ้นมาทำเพียงลำพัง แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมของระบบทั้งหมด ตั้งแต่ผู้นำที่กล้าตั้งคำถามกับเป้าหมายขององค์กรตนเอง พนักงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนค่านิยมไปสู่ภายนอก ลูกค้าที่ไม่ได้ถูกมองเป็นแค่ผู้บริโภค แต่เป็นเพื่อนร่วมขบวนการ ไปจนถึงชุมชนที่องค์กรต้องผูกพันด้วยใจไม่ใช่แค่หน้าที่ที่ต้องทำ
สิ่งสำคัญของ การนำด้วย “เรา” ไม่ได้เป็นการเสียสละตัวตนหรือจะต้องทิ้งผลกำไรไป แต่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ที่ไม่ขัดแย้งกับความสำเร็จในเชิงธุรกิจ หากแต่เสริมกันในระยะยาว แบรนด์ที่ยืนอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตคือแบรนด์ที่มีจุดยืนชัด มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้คน และมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าการเติบโตของตัวเอง
Lead with We ไม่ได้บอกให้องค์กรทำธุรกิจเพื่อโลก เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีเท่านั้น แต่ต้องทำเพราะเป็น “เรื่องจำเป็น” ถ้าเราอยากให้ระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมีอนาคตร่วมกัน ถ้าเราอยากให้มนุษย์มีโอกาสอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ถ้าเรายังอยากให้โลกนี้เป็นบ้านที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นถัดไป เราต้องเปลี่ยน “เรื่องเล่าของธุรกิจ” ใหม่โดยสิ้นเชิง
จากเรื่องเล่าของคนที่สร้างผลกำไร กลายเป็นเรื่องเล่าของกลุ่มคนที่ร่วมกันสร้างอนาคต
บทความโดย กิตติพัทธ์ จิรวัสวงศ์
กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคพีซี แอดไวเซอรี่ จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรและระบบบริหารคุณภาพ