กรณีการตรวจพบ “สารหนูและตะกั่ว” เกินค่าในน้ำแม่น้ำกก นำไปสู่การห้ามใช้น้ำเพราะเปื้อนสารพิษ ตั้งแต่ 4 เม.ย.68 สืบเนื่องจากปัญหาเหมืองทองต้นน้ำ ซึ่งดูเหมือนรัฐบาลแก้ปัญหาล้าช้า
นางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เผยว่าแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ ที่มีต้นน้ำอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ขณะนี้ได้รับผลกระทบในหลายมิติทั้งเรื่องสุขภาพของประชาชน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ
เธอ ชี้ว่ามลพิษแม่น้ำกก-สาย-รวก-โขงเป็นวิกฤตใหญ่และกำลังพัฒนารุนแรงขึ้น เป็นหน้าที่รัฐบาลไทยต้องเสาะหาข้อมูล/ข้อเท็จจริงและประสานการแก้ไขปัญหา ณ แหล่งกำเนิด ซึ่งถือว่ามีความซับซ้อนและไม่ง่าย เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ขนาดใหญ่
พร้อมกับติงมุมมองของนายภูมิธรรม เวชยธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เห็นเป็นเรื่องเล็กและแก้ง่ายๆ ด้วยการทำฝาย ซึ่งอาจทำให้มลพิษยิ่งแพร่กระจาย
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น คนเชียงราย เชียงใหม่ รวมทั้งคนไทยโดยรวม ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบและอยู่ในข่ายจะได้รับผลกระทบต้องร่วมกันใส่ใจและเรียกร้องการแก้ไขปัญหานี้
ชมในคลิป ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ แสดงความเห็นดังกล่าวไว้ในโอกาสที่เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์หยุดเหมืองแร่ต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดเชียงรายจัดขึ้นที่บริเวณสวนตุง อ.เมือง จ.เชียงราย (เมื่อ24 พฤษภาคม 2568)