สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีเปิดโครงการ Global Investment Link อย่างเป็นทางการ ณ Club Siam Glowfish อาคารสยามปทุมวัน เฮ้าท์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยในการขยายตลาดและเข้าถึงแหล่งทุนระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนการเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการเข้าสู่เวทีสากลอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวเปิดโครงการ พร้อมทั้งแสดงวิสัยทัศน์และข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญต่อการพัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้สามารถยืนหยัดในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกการลงทุนที่หมุนเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทาย
ต่อจากนั้น ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านการเงินนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้กล่าวรายงานเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงนวัตกรรมไทยกับโอกาสในต่างประเทศ ทั้งในมิติของการเข้าถึงทุน การเจรจาต่อรองกับนักลงทุน และการยกระดับองค์ความรู้ด้านธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทย โครงการ Global Investment Link จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
ในปีนี้ โครงการได้คัดเลือกสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพเข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 21 กิจการ จากหลากหลายภูมิภาคทั่วประเทศ โดยครอบคลุม 6 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญของประเทศ ได้แก่ นวัตกรรมด้านอาหารและผลไม้ไทยมูลค่าสูงเพื่อการส่งออก นวัตกรรมด้านพืชและสัตว์เศรษฐกิจ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ พลังงานสะอาด ธุรกิจดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีด้าน AI, Robotic, Immersive และ IoT (ARI Tech) รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง โดยแต่ละกลุ่มล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต และมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากล
ช่วงไฮไลต์ของงานอยู่ที่การเสวนาพิเศษในหัวข้อ “Global Investment Trends” ซึ่งเปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนระดับโลกและโอกาสของสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับเกียรติจาก นายจอง แท คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากบริษัท เมอรี่ เยียร์ โซเชียล (MYSC) ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานในการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมและสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายเชิงพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยได้นำเสนอภาพรวมของการลงทุนเชิงผลกระทบ (Impact Investment) ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ผู้ร่วมเวทีเสวนาอีกคน นายตรัย สัสตวัฒนา ที่ปรึกษา จากบริษัท เอกซ์แล็บ ดิจิทัล จำกัด ได้แบ่งปันประสบการณ์เชิงลึกด้านการพัฒนาโมเดลธุรกิจจากทรัพย์สินทางปัญญาและงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไทย พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างนักวิจัย สตาร์ทอัพ และนักลงทุนผ่านกลยุทธ์เชิงระบบและการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ วิสัยทัศน์จากทั้งสองท่านช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน และชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยไม่ใช่เพียงการขยายตลาด แต่คือการสร้างรากฐานที่แข็งแรงเพื่อให้แข่งขันได้ในระดับโลก
ทั้งนี้โครงการ Global Investment Link จะดำเนินการต่อเนื่องผ่านกิจกรรมอบรมเชิงลึก การคัดเลือกทีมธุรกิจที่มีศักยภาพ และการจับคู่เจรจากับนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมุ่งหวังให้เกิดการลงทุนจริง และการขยายตัวของธุรกิจนวัตกรรมไทยในตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน