xs
xsm
sm
md
lg

หนุนสตาร์ทอัพแก้โจทย์ "ขยะล้นเมือง" NIA ร่วมกับ สจล.-ทรู คอร์ปอเรชั่น ดัน 5 นวัตกรรม "ธุรกิจฉลาดทิ้ง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 “ฉลาดทิ้ง : สถานีจัดการขยะอัจฉริยะ” หรือ Waste Wise Station
“ขยะล้นเมือง” ปัญหาใหญ่ที่เรื้อรังมายาวนาน แม้ที่ผ่านมาจะมีการสร้างมูลค่าให้ขยะหลายประเภท และมีการพยายามผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้มีการ “แยกขยะ” ตั้งแต่ต้นทาง แต่ทว่ายังเป็นเพียงส่วนน้อย ดังนั้น ปริมาณขยะที่ไม่สามารถนำไปจัดการได้อย่างถูกต้องยังมีจำนวนมหาศาล สถิติจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ในปี2567 ประเทศไทยมีปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น 27.20 ล้านตัน แบ่งเป็น ขยะมูลฝอยที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ 10.51 ล้านตันหรือคิดเป็น 41% ขยะมูลฝอยที่ถูกกำจัดถูกต้อง 10.42 ล้านตันหรือคิดเป็น 40.6% และขยะมูลฝอยที่ถูกกำจัดไม่ถูกต้อง 4.73 ล้านตันหรือคิดเป็น 18.4% นอกจากนี้ ยังมีขยะมูลฝอยตกค้าง 28.63 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนในเรื่องนี้ยังเกิดขึ้นจากหลากหลายภาคส่วน โดยล่าสุด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภาคเอกชน กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “ฉลาดทิ้ง : สถานีจัดการขยะอัจฉริยะ” หรือ Waste Wise Station พร้อมผลักดันการใช้ 5 นวัตกรรมจัดการขยะอย่างอัจฉริยะ ได้แก่ True E-Waste, Oklin, Circular, Refun และ Recycoex เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลดปริมาณขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างสังคมรีไซเคิลที่ยั่งยืนระดับเมือง ตลอดจนช่วยสร้างโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมการจัดการขยะของผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายโมเดลธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า NIA ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศภายใต้บทบาท “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม” หรือ Focal Conductor พร้อมที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรและกลไกการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากระบบนวัตกรรมของประเทศ ผ่านการรวมกลุ่มธุรกิจและสร้างอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ ดังเช่นการดำเนินงานใน “ย่านนวัตกรรมปุณณวิถี” เพื่อส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจนวัตกรรมสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้นและเป็นพื้นที่เรียนรู้พัฒนานวัตกรรมสำหรับคนเมือง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดการลงทุนทางด้านนวัตกรรมแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ บ่มเพาะ สร้างสรรค์ธุรกิจ สินค้าและบริการใหม่ๆ ให้สอดรับกับโจทย์ความท้าทายที่ NIA และภาคีเครือข่ายย่านนวัตกรรมปุณณวิถีกำหนดขึ้นเพื่อร่วมแก้ปัญหาเมือง โดยหนึ่งในโจทย์ท้าทายสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือ “การจัดการขยะภายในเมือง” ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นแหล่งกำเนิดขยะมากที่สุดในประเทศ โดยแต่ละปีภาครัฐต้องใช้งบประมาณบริหารจัดการขยะกว่า 7,000 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนต่างมีต้นทุนในการบริหารจัดการของเสียจากกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี จึงควรหาแนวทางใหม่ๆ มาจัดการ

“ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดโครงสร้างพื้นฐานเมืองที่ช่วยรองรับการทิ้งขยะคัดแยกจากครัวเรือน NIA จึงร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร Punnawithi Tech On Ground สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และศูนย์การทดลองเมืองกรุงเทพฯ หรือ Bangkok City Lab ออกแบบ “ฉลาดทิ้ง : สถานีจัดการขยะอัจฉริยะ” หรือ Waste Wise Station ในพื้นที่ของทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านนวัตกรรมปุณณวิถี เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบการทดลองใช้ 5 นวัตกรรมตู้รับขยะอัจฉริยะ สำหรับขยะ 5 ประเภท ได้แก่ ขยะประเภท E-Waste ขยะประเภทเศษอาหารหรือย่อยอาหารเป็นปุ๋ย ขยะประเภทเสื้อผ้า ขยะประเภทขวดพลาสติก และขยะประเภทน้ำมันเก่า เพื่อช่วยบริหารจัดการขยะภายในเมือง เพิ่มพื้นที่คัดแยกขยะอันเป็นโครงสร้างพื้นฐานเมืองให้กับประชาชน และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบต่างๆ รวมถึงโอกาสการขยายธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย เพราะไม่เพียงเป็นเวทีแสดงนวัตกรรม แต่ยังเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในธุรกิจ ESG & Circular Economy ได้พบปะและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขยายตลาดและหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับประเทศต่อไป”

“ฉลาดทิ้ง: สถานีจัดการขยะอัจฉริยะ” ประกอบด้วย 5 นวัตกรรมเครื่องรับขยะอัจฉริยะจากผู้ประกอบการไทย ได้แก่

1) TRUE: E-Waste เครื่องรับคืนขยะอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะจากกลุ่มทรู มาพร้อมนวัตกรรมที่สามารถเก็บข้อมูลรายงานผลการทิ้งแบบ real-time ได้แก่ ชนิด/หมวดหมู่ของ e-Waste แจ้งน้ำหนัก พร้อมคำนวณค่า Carbon Reduction ระบบ Notification และระบบสะสมแต้มให้กับสมาชิก ทิ้งถูกที่ ดีต่อใจ มั่นใจได้ 100% E-Waste จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ร่วมกันก้าวสู่เป้าหมาย Zero Landfill เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าไปด้วยกัน
2) OKLIN: Food Waste เครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการย่อยสลายขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ย ช่วยลดปริมาณขยะเศษอาหารได้ถึง 90% ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง โดยแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
3) CIRCULAR: Used Clothes นวัตกรรมรีไซเคิลเสื้อผ้าเก่าเป็นวัสดุใหม่และนำมาแปรสภาพเป็นผ้าหลากสีหรือเสื้อผ้าใหม่ โดยไม่ผ่านการฟอกย้อม เพื่อนำกลับมาใช้เป็นสินค้าที่ยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
4) REFUN: Plastic Waste ตู้รับคืนขวดพลาสติก PET อัตโนมัติ และสามารถคำนวณเป็นคะแนนสะสมในรูปแบบต่างๆ
5) RECYCOEX: Waste Cooking Oil ระบบรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel ; SAF สนับสนุนอุตสาหกรรมการบินที่ยั่งยืน


นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะเทคคอมปานีไทย ทรูฯ ตระหนักในหน้าที่โดยดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ บนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในมิติสิ่งแวดล้อม คือ การลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ฝังกลบให้เป็นศูนย์ หรือ Zero e-Waste to landfill ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านกรุงเทพมหานครสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City โดยได้พัฒนาตู้รับขยะอัจฉริยะ True e-Waste Vending Machine ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้วยระบบรับคืน e-Waste อัตโนมัติ พร้อมทั้งแสดงค่าคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าที่ลดลงจากการนำไปรีไซเคิล และมีระบบการรายงานผลการทิ้งแบบ real-time เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ นำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี 100% ตลอดจนสนับสนุนพื้นที่ติดตั้ง “ฉลาดทิ้ง : สถานีจัดการขยะอัจฉริยะ” ในอาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านนวัตกรรมปุณณวิถี เพื่อสนับสนุนให้แยกขยะแต่ละประเภทและทิ้งให้ถูกที่ โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. กล่าวว่า สจล.เพียงสร้างองค์ความรู้ งานวิจัยด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี แต่ยังเสริมสร้างผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้านเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือสังคม สำหรับการดำเนินงานในโครงการนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการวิจัยที่มุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวก ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยเรามุ่งมั่นที่จะใช้ความรู้และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในด้านการจัดการขยะที่กำลังเป็นปัญหาท้าทายในปัจจุบัน โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ สจล.สามารถนำเสนอการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากขยะในเมืองใหญ่และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals: SDGs ที่ 13 ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นในระดับประเทศ โดยยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืนและสามารถนำไปแก้ปัญหาสังคมในระยะยาว พร้อมการเสริมสร้างองค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม


กำลังโหลดความคิดเห็น